ครึ่งหลังสัญญาณบวก AGE ลุยขยายลงทุน เล็งยอดปีนี้พุ่ง 1.6 หมื่นล้าน

09 ก.ค. 2565 | 04:43 น.

ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะผันผวน ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ด้านภาคธุรกิจยังต้องแบกรับต้นทุนหลังแอ่น เมื่อราคาพลังงานและค่าขนส่งยังพุ่งไม่หยุด เช่นเดียวกับดัชนีราคาถ่านหินโลกที่มีความผันผวนสูง

 

ครึ่งหลังสัญญาณบวก AGE ลุยขยายลงทุน เล็งยอดปีนี้พุ่ง 1.6 หมื่นล้าน

 

ท่ามกลางแรงกดดันเหล่านี้ นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิส ติกส์แบบครบวงจร ทั้งการขนส่งทางน้ำ ทางบก ท่าเรือ และคลังสินค้า ให้สัมภาษณ์พิเศษผ่าน “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการขับเคลื่อนธุรกิจ ที่มองไปข้างหน้า  ด้วยเป้าหมายรายได้เติบโตก้าวกระโดด และมองด้วยความหวังว่าเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นตัว

 

ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี กล่าวถึง การขับเคลื่อนธุรกิจว่า ถ่านหินเป็นพลังงานหรือเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ที่หลายฝ่ายมองว่า การลดภาวะโลกร้อนจะต้องเลิกใช้ถ่านหิน  ดังนั้น AGE จึงไม่รอช้า  ได้ขยับตัวเดินหน้าธุรกิจอื่นคู่ขนานธุรกิจถ่านหินมาต่อเนื่อง

 

พนม  ควรสถาพร

 

 

ปัจจุบันได้แตกไลน์สู่ธุรกิจโลจิสติกส์ ให้บริการขนถ่านหินในเครือและให้บริการทั่วไป และดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไอน้ำ โดยบริษัทลูกของ AGE ร่วมทุนกับบริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) ดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน  ถือหุ้นสัดส่วน 50 : 50  เป็นโครงการแรกที่เปลี่ยนเชื้อเพลิงจากน้ำมันมาเป็นไม้สับ และขายไอน้ำจากไม้สับ ขนาดกำลังผลิต 6 ตันไอน้ำ ทำให้ลูกค้าลดต้นทุนได้ในภาวะที่ราคาพลังงานแพง และช่วยลดโลกร้อน 

 

ส่งออกมันไปจีนเป้าพันล้าน

ส่วนธุรกิจส่งออกสินค้าเกษตร เช่น มันเส้นส่งออกไปจีน ลูกค้านำไปผลิตแอลกอฮอล์ เอทานอล และอาหารสัตว์ ช่วงนี้เป็นจังหวะที่รัสเซีย-ยูเครนมีปัญหา ทำให้สินค้าเกษตรส่งออกมาไม่ได้  ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังราคาดี โดยมันเส้นขยับจาก 6 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เป็น 9 บาทเศษต่อ กก. ในส่วนนี้บริษัทจะส่งออกทั้งมันเส้น มันสำปะหลังสับ และแป้งมัน ตั้งเป้าเฉพาะรายได้ไว้ราว 1,000 ล้านบาท ภายในปีนี้

 

 “โลเคชั่นของเราเป็นโลเคชั่นสำหรับส่งออก-นำเข้า มีความพร้อมทั้งท่าเรือ เรือ คลังสินค้า รถบรรทุก และคู่ค้าเช่น จีนที่รับซื้อจำนวนมาก ทำให้มั่นใจว่าปีนี้จะขายมันสำปะหลังสับ ได้กว่า 100,000 ตัน และเป้าหมายปี 2566 จะขายได้ราว 1 ล้านตัน”

 

ครึ่งหลังสัญญาณบวก AGE ลุยขยายลงทุน เล็งยอดปีนี้พุ่ง 1.6 หมื่นล้าน

 

นายพนม กล่าวย้ำอีกว่า ตามแผนขยายฐานธุรกิจถ่านหินทั้งใน และต่างประเทศยังเดินต่อเนื่อง พร้อมขยายการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตร หรือกลุ่มเทรดดิ้งที่มีทิศทางดีขึ้น ทำให้ล่าสุดได้ประกาศปรับเป้ารายได้รวมปี 2565 ใหม่ จาก 15,000 ล้านบาท และมียอดขายถ่านหิน 6.5 ล้านตัน  เป็น 16,000 ล้านบาท (จากการส่งออกมันเส้น มันสำปะหลังสับ และแป้งมัน เพิ่มเข้ามาราว 1,000 ล้านบาท)

 

ขายให้สำเร็จระยะสั้น

นายพนม ยอมรับว่า เวลานี้ดัชนีราคาถ่านหินโลกยังคงมีการปรับตัวค่อนข้างผันผวนแต่ AGE มีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาส่วนต่างระหว่างราคาขายและราคาต้นทุนของถ่านหินได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งความต้องการใช้ถ่านหินในประเทศมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และการเปิดประเทศ ส่งผลให้ภาคธุรกิจกลับมาฟื้นตัว ขณะที่ธุรกิจบริการโลจิสติกส์มีการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

 

“ราคาถ่านหินมีความผันผวนอยู่ในระดับที่ราคาสูง ทำให้วันนี้เราทำได้โดยไม่ต้องซื้อประกันความเสี่ยง ใช้หลัก“ซื้อสั้นขายสั้น” ขายได้สำเร็จในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อลดความเสี่ยงด้านราคา ถ้ารอขายระยะเวลายาว ๆ จะเสี่ยงสูงเพราะราคาเปลี่ยนแปลงเร็ว เรามีฐานลูกค้ารายย่อยที่ซื้อถ่านหินกว่า 300 ราย ต้องรับมือบริหารความเสี่ยงให้ดีที่สุด AGE เป็นเทรดดิ้งถ่านหิน มีข้อได้เปรียบตรงที่เป็นบริษัทเดียวที่มีท่าเรือ มีขนส่งทางน้ำของตัวเอง มีลานกองถ่านหินที่อยุธยา 300 กว่าไร่ ทำให้การบริหารต้นทุนทำได้ดีกว่าคู่แข่ง โดยในประเทศมีความต้องการใช้ถ่านหินโดยรวม ราว 20-22 ล้านตันต่อปี”

 

สัญญาณบวกครึ่งปีหลัง

ถามว่าปัจจัยเสี่ยงในครึ่งปีหลังอยู่ตรงไหนนั้น ซีอีโอ AGE ระบุ คือราคาถ่านหิน ที่ราคาผันผวนอยู่ในระดับสูง เวลานี้สูงเกือบ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตันซึ่งไม่เคยสูงเท่านี้ โดยสูงทั้งราคาถ่านหินและค่าขนส่งทางเรือ  แต่ AGE เน้นขายระยะสั้นจึงน่าจะเป็นโอกาสดีมากกว่ามีความเสี่ยง และครึ่งหลังปีนี้เริ่มมองเห็นสัญญาณบวกหลายตัว ทั้งการเปิดประเทศ มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น จีดีพีเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากที่หลายสำนักด้านเศรษฐกิจคาดการณ์ งานก่อสร้างเริ่มขยับทั้งที่อยู่อาศัยและการก่อสร้างทางด่วน

 

เล็งขยายธุรกิจส่งออก

ทางกลุ่มกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายตัวธุรกิจส่งออกสินค้าตัวใหม่ เช่น ไม้ยูคาลิปตัส โดยบริษัทลูกแตกไลน์ออกมาอีกบริษัทเพื่อส่งออกไม้ยูคาลิปตัสไปจีนและญี่ปุ่น โดยลูกค้ามีความต้องการนำไปผลิตเยื่อกระดาษจำนวนมาก คาดปี 2566 ความต้องการไม้ยูคาลิปตัสจะเพิ่มขึ้นและขายได้ในราคาดี

 

“การขยายธุรกิจในไตรมาส 2/2565 เราได้ขยายการตลาดแบบเชิงรุกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจการจำหน่าย และส่งออกสินค้าทางการเกษตร ภายใต้บริษัท เอจีอี อกริ เทรดดิ้ง จำกัด บริษัทย่อยที่ถือหุ้น 100% โดยได้ตั้งเป้ายอดขายจากธุรกิจเทรดดิ้ง ส่งออกมันสำปะหลัง จำนวน 1,000 ล้านบาทตามที่กล่าวมา นอกจากนี้ ยังเดินหน้าลงทุนขยายพื้นคลังเก็บสินค้าเพิ่มอีก 10,000 ตารางเมตร คาดจะใช้เงินประมาณ 50 ล้านบาท และในแง่การลงทุนโดยรวมของกลุ่ม AGE ปีนี้น่าจะใช้เงินทุนราว 100 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโต” นายพนม กล่าวทิ้งท้าย