บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อเวียดนามที่วางอยู่บนแผงห้างสรรพสินค้ารัสเซียราคา 14 รูเบิลหรือคิดเป็นเงินไทยไม่ถึง 10 บาท ขณะที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสัญชาติไทยที่วางโชว์อยู่ไม่ไกลจากกันนักแปะป้ายราคา 80 รูเบิล หรือเกือบ 40 บาท
ทั้งที่เป็นสินค้าจากประเทศอาเซียนบ้านใกล้เรือนเคียงเหมือนกัน อะไรทำให้ราคาแตกต่างได้ขนาดนี้?
นักท่องเที่ยวรัสเซียเป็นลูกค้าสำคัญอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ไทยเองก็เป็นหนึ่งในหมุดหมายหลักของการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของชาวหมีขาว ทั้งสองมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีมายาวนานตั้งแต่ยุคจักรวรรดิรัสเซีย คนของสองชาติสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันแบบฟรีวีซ่าได้นานถึง 30 วันจนเป็นที่อิจฉาของหลายประเทศ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการค้าขาย ไทยอาจไม่มีอะไรให้โอ้อวดได้มากมายนัก
แม้เวียดนามจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียมายาวนานเท่าสยาม ทว่าความสัมพันธ์ที่สานขึ้นมาในยุคโซเวียตในฐานะเพื่อนร่วมอุดมการณ์สังคมนิยมกลับแน่นแฟ้นต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เมื่อเทียบกันในบรรดา 10 ประเทศในกลุ่มอาเซียน เวียดนามดูจะเป็น “เพื่อน” ที่รัสเซียสบายใจที่จะเดินเข้าหามากที่สุด
บนหน้าสื่อรัสเซีย เวียดนามมักได้รับการพูดถึงในเชิงที่ดี เป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ เป็นศูนย์กลางที่รัฐบาลรัสเซียปักหมุดหมายประกาศชัดว่าจะใช้เป็นประตูสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีนักธุรกิจรัสเซียเข้าไปลงทุนมากมาย
ความซี้ของสองประเทศยังสะท้อนให้เห็นได้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสปีนี้ ทันทีที่รัสเซียออกประกาศความสำเร็จด้านการวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นประเทศแรกของโลก กระทรวงสาธารณสุขของเวียดนามก็รีบออกมาประกาศต่อคิวจ่อซื้อล็อตใหญ่ราว 50-150 ล้านโดส แม้องค์กรนานาชาติและหลายๆ ฝ่ายพยายามออกมาเตือนเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพของวัคซีนฝีมือนักวิจัยชาวรัสเซียที่ดูรีบเร่งรวบรัดจนเกินไป
ความลับสำคัญที่ทำให้สินค้าเวียดนามเป็นต่อในตลาดรัสเซียได้และเป็นสิ่งที่ไทยเรายังไม่มีคือความสำเร็จในการเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) กับสหภาพยูเรเชียหรือ EAEU ซึ่งมีสมาชิก 5 ประเทศ ประกอบไปด้วยเบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน อาร์มีเนียโดยมีรัสเซียเป็นผู้นำกลุ่ม โดยเวียดนามเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่เจรจาสำเร็จในขณะนี้ สามารถนำเข้าส่งออกสินค้าไปยังรัสเซียได้ในราคาที่ถูกกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค
ตั้งแต่เขตการค้าเสรีเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อตุลาคมปี 2559 ด้วยขนาดตลาดของยูเรเชียที่ใหญ่ มีประชากรกว่า 180 ล้านคน มีผลิตภัณฑ์มวลรวม 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้การค้าระหว่างเวียดนามและ EAEU ทะยานขึ้นมาราว 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน 3 ปี หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ย 30% ต่อปี กลายมาเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของ EAEU ในอาเซียน ตามด้วยสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย
หากผู้ประกอบการไทยอยากซื้อขายสินค้ากับรัสเซียได้ในราคาถูกแบบเขาบ้างอาจต้องรออีกสักหน่อย เพราะเรื่องการเปิดเขตการค้าเสรีของเรากับ EAEU ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา คาดว่าจะเสร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า น่าจะช่วยเปิดตลาดให้กับสินค้าเกษตร พลังงานและสินค้าแปรรูปให้กับประเทศของเราได้ ส่วนทางด้านรัสเซียก็จ่อส่งเนื้อ ปุ๋ย และชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามายังไทยเช่นกัน
อันที่จริง ไทยเราก็มีแต้มต่อเหนือประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนอยู่บ้างในตลาดรัสเซีย ด้วยความเป็นประเทศท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวหมีขาว ทำให้ชาวรัสเซียรู้จักมักจี่กับสินค้าของเรามากกว่าประเทศที่พวกเขาไม่คุ้นเคย ขาดเพียงแต่สิทธิประโยชน์ทางการค้าระหว่างประเทศที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริมสนับสนุน แล้วการค้าระหว่างไทยและรัสเซียอาจพุ่งทยานเหมือนอย่างเวียดนามได้รับบ้างก็เป็นได้
** พบกับ คอลัมน์ “หลังกล้องไซบีเรีย” ทุกวันอาทิตย์ ทุกช่องทางออนไลน์ของ “ฐานเศรษฐกิจ" **
Bio นักเขียน : “ยลรดี ธุววงศ์” อดีตนักข่าวที่ผ่านสนามข่าวทั้งในและต่างประเทศ จากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ และ Spring News ปัจจุบันเป็นนิสิตปริญญาโทอยู่ในส่วนที่หนาวเย็นที่สุดของประเทศรัสเซีย