ที่นี่ไม่มีความลับ : ธนารักษ์ชี้แจง ปมสนามบินสมุย-ศูนย์สิริกิติ์

10 มี.ค. 2560 | 07:25 น.

คอลัมน์ :  ที่นี่ไม่มีความลับ/หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรฐกิจ ฉบับ 3243 ระหว่างวันที่ 12-15 มี.ค.2560

 

ธนารักษ์ชี้แจง ปมสนามบินสมุย-ศูนย์สิริกิติ์

          "การให้พื้นที่ในการชี้แจงของสื่อกับบุคคลหรือหน่วยงานที่ถูกตรวจสอบการทำงานเป็นสิ่งจำเป็นในสำนึกแห่งวิชาชีพสื่อ" เมื่อกรมธนารักษ์ โดย"อมรรัตน์ กล่ำพลบ"รองอธิบดี ทำหน้าที่แทนอธิบดีกรมธนารักษ์ ได้ทำหนังสือลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 มาชี้แจงต่อสปริงกรุ๊ป ซึ่งคงหมายถึงเนื้อความในคอลัมน์ "ที่นี่ไม่มีความลับ" ก็เป็นเรื่องสมควรที่จะได้สรุปคำชี้แจงเหล่านั้นให้ผู้อ่านได้ติดตามในพื้นที่เดียวกัน

          กรมธนารักษ์ได้ชี้แจงในประเด็นที่ดิน 16 ไร่ หัวสนามบินเกาะสมุยที่ได้ให้บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) เช่าตั้งแต่ 1 กันยายน 2543-31สิงหาคม 2572 รวมระยะเวลา 30 ปีมีสาระสำคัญว่า 

          เดิมที่ดินดังกล่าวเป็นที่ตั้งโรงเรียนบางรักษ์ ที่ขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ (เลขที่สฎ.958) ต่อมาโรงเรียนได้เลิกใช้ประโยชน์จึงส่งคืนที่แปลงดังกล่าวให้กรมธนารักษ์ และบริษัทการบินกรุงเทพขอเช่าเป็นเขตปลอดภัยการบิน 

          สถานะของที่ดิน กรมธนารักษ์และกรมที่ดินพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการดำเนินการพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุหรือที่ดินสาธารณะประโยชน์ 

          กรมธนารักษ์ยังชี้แจงมาด้วยว่า "ไม่ว่าจะเป็นที่ดินราชพัสดุหรือที่สาธารณะประโยชน์ต่างก็เป็นที่ดินของรัฐเช่นเดียวกัน" การพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับสัญญาเช่าที่ได้ทำไว้กับบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) จะต้องคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ 

          เป็นคำชี้แจงที่ถ่ายทอดให้อ่านโดยสรุปและไม่ตกหล่นในสาระสำคัญ เพียงแค่มีข้อเห็นแย้งกรมธนารักษ์ ประการหนึ่งว่าระหว่างที่ดินราชพัสดุกับที่ดินสาธารณะประโยชน์ที่อ้างว่าเป็นที่ดินของรัฐเช่นกันนั้น ข้อเท็จจริงมีความแตกต่างกันตรงที่ถ้าเป็นที่ราชพัสดุ เป็นดุลยพินิจของกรมธนารักษ์ในการให้ประชาชนหรือเอกชนเช่า แต่ถ้าเป็นที่สาธารณะประโยชน์ไม่ใช่อำนาจหรือดุลยพินิจของกรมธนารักษ์ ไม่เช่นนั้นกฎหมายไม่จำแนกแยกแยะที่ให้ชื่อแตกต่างกัน (คงตั้งข้อสังเกตต่อคำชี้แจงในประเด็นนี้เพียงเท่านี้และรอพิสูจน์สิทธิ์) 

          ส่วนคำชี้แจงเรื่องการให้บริษัทเอ็น.ซี.ซี.ฯ เช่าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ต่อออกไปอีก 50 ปี หรือ 2 เท่าของสัญญาเดิมนั้น คำชี้แจงโดยละเอียดหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจได้ตีพิมพ์ลงรายละเอียดในหน้า 6 ฉบับวันที่ 5-8 มีนาคม 2560 ไปแล้ว 

          แต่ขอสรุปสาระสำคัญโดนสรุปว่ากรมธนารักษ์ชี้แจงว่าเดิมให้เช่า 35 ปีก็จริง แต่ไม่รวมระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี ฉะนั้นสัญญาเดิมคือ 29 ปี เพราะฉะนั้นการให้ต่อเป็น 50 ปี จึงไม่ใช่ 2 เท่า ส่วนประเด็นที่ว่าไม่เคยมีสัญญาใดที่กรมธนารักษ์ให้เอกชนเช่าเกิน 30 ปี ข้อชี้แจงของกรมธนารักษ์มิได้ปฏิเสธในประเด็นดังกล่าง แค่ชี้แจงว่าในข้อกฏหมายสามารถทำได้และได้หารือตามขั้นตอน รวมทั้งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว 

          ไม่มีคำพูดใดๆ นอกจากคำว่า  "ตามนั้น" ส่วนจะเชื่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของท่านผู้อ่านครับ

​​​​​​​