“ถนนร้างราผู้คน ปืนคำรามกึกก้อง...”การประท้วงที่ฮ่องกง ซึ่งยืดเยื้อมาเป็นเวลาเกือบครึ่งปีและขยายบานปลายจนกลายเป็น “สงครามกลางเมือง” เมื่อผู้ชุมนุมกับตำรวจมีการปะทะกันรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุดตั้งแต่ต้นสัปดาห์ รายงานข่าวแจ้งว่า มีผู้ชุมนุมถูกยิงด้วยกระสุนจริง หลังจากที่มีการปะทะกับตำรวจที่ยิงแก๊สนํ้าตาใส่ผู้ประท้วงชุดใหญ่ ขณะที่ฝ่ายผู้ประท้วงเองก็ตอบโต้ด้วยวิธีที่รุนแรงมากขึ้นเช่นกัน
นอกจากจะใช้ระเบิดขวด ระเบิดเพลิงและก้อนอิฐก้อนหินแล้ว มีรายงานว่ามีตำรวจถูกยิงด้วยลูกธนูและมีการใช้ไม้ไผ่วางเป็นแนวป้องกันเพื่อสกัด “กั้น” ไม่ให้ตำรวจบุกเข้าไปถึงจุดที่ชุมนุมด้วย เฉพาะอย่างยิ่งจุดชุมนุมถนนนาธาน (Nathan Road) จุดที่เคยเป็นแลนด์มาร์กของเกาะฮ่องกงและการปิดล้อมม.โปลีเทคนิค (ฮ่องกง)
เห็นภาพใน “คลิป” ที่เผยแพร่ทางโซเชียลแล้ว ทำให้นึกถึงการนำไม้ไผ่และยางรถยนต์มาใช้เป็นแนวป้องกันตำรวจของกลุ่ม นปช. ที่ชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์เมื่อปี 2553 และการปิดล้อม ม.ธรรมศาสตร์ เมื่อ 6 ตุลาคม 2519
มีรายงานแจ้งว่า ล่าสุดตำรวจฮ่องกงใกล้ “ปิดจ็อบ” สลายการชุมนุมของผู้ประท้วงที่ม.โปลีเทคนิคแล้ว หลังจากกดดันให้ผู้ชุมนุมออกมามอบตัวกว่า 500 คน เหลือผู้ชุมนุมในมหาวิทยาลัยไม่ถึง 100 คน
วันนี้ จึงเหลือโจทย์อีกเพียงข้อสองข้อเท่านั้น ที่จีนจะต้องแก้โจทย์ให้ได้ ก่อน “ปิดจ็อบ” ฮ่องกงอย่างเด็ดขาด ข้อหนึ่ง คือ กวาดล้างจับกุมบรรดา “แกนนำ” ผู้ประท้วงที่เหลือ และอีกข้อคือ หาวิธีรับมือร่างกฎหมายว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงที่เพิ่งผ่านวุฒิสภา (เหลือเพียงให้ทรัมป์ลงนามก็จะเป็นกฎหมายบังคับใช้โดยสมบูรณ์)
รายละเอียดคร่าวๆ ของร่างกฎหมาย Hong Kong Human Rights and Democracy Act คือ เรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ ของสหรัฐฯ พิจารณาทบทวนการให้สิทธิสถานะพิเศษทางการค้า และการปฏิบัติต่อฮ่องกง โดยคำนึงถึงพัฒนาการทางการเมืองและสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้นในฮ่องกง...
ก่อนหน้านี้ จีนเคยขู่ว่าหากร่างกฎหมายที่ “ให้ท้าย” กลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกง ได้รับการรับรองจากกระบวนการทางรัฐสภาของสหรัฐฯ และมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย จีนก็จะออกมาตรการโต้กลับสหรัฐฯ เช่นกัน
แต่เรื่องฮ่องกง จีนต้องแก้ปัญหาอย่างระวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากไปเซ็นสัญญากับอังกฤษเมื่อ 22 ปีที่แล้ว ว่าจะรับรองให้ฮ่องกงมีอิสระในการปกครองตนเองไป 50 ปี (เหลือเวลาอีก 28 ปี)
จีนจะไม่นำเอาระบบการปกครองแบบแผ่นดินใหญ่เข้ามาใช้ในฮ่องกงจนกว่าจะครบ 50 ปี และจีนจะส่งทหารเข้าฮ่องกงได้อย่างไร?ในเมื่อไม่มีการต่อสู้กับกองกำลังต่างชาติ
เรื่องการประท้วงภายในเป็นเรื่องที่ตำรวจฮ่องกงต้องดูแลเอง ถ้าจีนส่งทหารเข้าไปปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วง ก็จะเข้าทางสหรัฐฯ และตะวันตกที่ต้องการ “แซงก์ชัน” เศรษฐกิจจีนทันที
ข้ออ้างและคำขู่ของจีน ว่ามีมาตรการโต้กลับสหรัฐฯ รวมทั้งการตัดสินใจปิดจ็อบ “สงครามกลางเมือง” ในฮ่องกงอย่างไร? เป็นเรื่องน่าสนใจและติดตาม เพราะใคร?ก็ไม่สามารถไปคิดแทนจีนได้- -ครับ
คอลัมน์ อยู่กับปัจจุบัน โดย พงษ์ศักดิ์ ศรีสด
หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,525 วันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2562