net-zero

'EXIM BANK' พร้อมปล่อยสินเชื่อ หนุนผู้ประกอบการส่งออกสินค้ารักษ์โลก

EXIM BANK คาดเศรษฐกิจไทยปี 67 ฟื้นตัว ส่งออกขยายตัวครั้งแรกรอบ 2 ปี เปิดตัวผลิตภัณฑ์สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ หนุนธุรกิจเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาใหญ่ที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ประเทศไทยในฐานะประเทศผู้ส่งออกก็ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้เช่นกัน ล่าสุด ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทางการเงินเพื่อช่วยหนุนให้ภาคการส่งออกของไทยปรับตัวสู่ความยั่งยืนมากขึ้น

 

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2567 มีแนวโน้มฟื้นตัวและขยายตัวที่ระดับ 2-3% โดยมีเครื่องยนต์หลักทั้งการบริโภค การลงทุน การท่องเที่ยว และการส่งออกขยายตัวพร้อมกัน โดยเฉพาะการส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลกในปี 2567 ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัว 3.2% และ 2.8% ตามลำดับ ราคาน้ำมันโลกและราคาโภคภัณฑ์ต่าง ๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาสินค้าส่งออกปรับตัวสูงขึ้นตาม

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้ทันต่อมาตรการทางการค้าด้านสิ่งแวดล้อมในตลาดส่งออกสำคัญของโลก ซึ่งมีมูลค่ารวมกันถึง 51% ของมูลค่าการส่งออกรวมของไทย โดยข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า สัดส่วนการส่งออกสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของไทยในปี 2564 อยู่ที่เพียง 7.6% ซึ่งต่ำกว่าหลายประเทศ

 

เพื่อช่วยผู้ประกอบการไทยปรับตัว EXIM BANK จึงได้พัฒนา "Greenovation" ซึ่งเป็นโซลูชันทางการเงินที่ช่วยยกระดับสินค้าส่งออกของไทยให้เป็น "Green Products" หรือสินค้ารักษ์โลก โดยครอบคลุมตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กระบวนการผลิตที่ปล่อยมลพิษน้อย บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ และการขนส่งที่ใช้พลังงานสะอาด

"นับเป็นธนาคารแรก ๆ ที่มีโซลูชันทางการเงินช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ครบทุก Scope ทั้ง 1-2-3" นายรักษ์กล่าว โดย EXIM BANK ให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ 3.85% ต่อปี แก่ผู้ประกอบการตลอดห่วงโซ่อุปทานการส่งออก (Green Export Supply Chain) เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในต้นทุนที่ต่ำได้

 

ในไตรมาสแรกของปี 2567 EXIM BANK มีวงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 5,853 ล้านบาท มีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพัน 174,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.05% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยสินเชื่อที่สอดคล้องกับหลักการ ESG มีมูลค่า 67,310 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 38.64% ของสินเชื่อทั้งหมด และเพิ่มขึ้นถึง 55.19% จากปีก่อน ในจำนวนนี้เป็น SMEs จำนวน 12,475 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ EXIM BANK ยังสนับสนุนการลงทุนในต่างประเทศ โดยมีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันเพื่อการลงทุน 127,516 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.14% ซึ่งในจำนวนนี้มีสินเชื่อในโครงการระหว่างประเทศ 50,210 ล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV และตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ (New Frontiers) ที่มีสินเชื่อรวม 43,257 ล้านบาท

 

EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจบริการประกันการส่งออกและการลงทุน 54,092 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.45% โดยมีลูกค้ารวม 5,607 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ 81.15% เป็น SMEs ธนาคารยังให้การบ่มเพาะผู้ประกอบการอีกด้วย โดยส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการสะสมแล้วกว่า 19,840 ราย

 

นอกจากการสนับสนุนผู้ประกอบการอย่างเต็มที่แล้ว EXIM BANK ก็ยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงทางการเงิน โดยมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) 8,600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) 4.99% ขณะที่มีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) 15,972 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) สูงถึง 185.72% จากการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม ส่งผลให้ EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 132 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้น 18.71%

 

อ้างอิง: