"ป่าชายเลน" นับเป็นหนึ่งในระบบนิเวศที่สำคัญที่สุดของโลก และเป็นพระเอกที่สามารถกักเก็บคาร์บอนได้ในปริมาณมหาศาล เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าทางนิเวศวิทยาและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ซึ่งมีชายฝั่งทะเลยาวถึง 3,151 กิโลเมตร ทำให้ป่าชายเลนเจริญงอกงามตามแนวชายฝั่งทั่วประเทศ
ข้อมูลจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า พื้นที่ป่าชายเลนของประเทศไทยในปัจจุบันมีประมาณ 1.7 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นกว่า 2 แสนไร่ในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งกระจายอยู่ใน 24 จังหวัดชายทะเลทั่วประเทศ โดยพื้นที่ป่าชายเลนที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี คิดเป็น 26% ของพื้นที่ป่าชายเลนทั้งหมด
นอกจากนี้ ประเทศไทยมีสายพันธุ์พืชชายเลนอย่างน้อย 74 สายพันธุ์ และมีสัตว์ประจำถิ่นป่าชายเลนกว่า 260 ชนิด อาทิ หอยหลอด หอยแครง นกนางนวลแก้วหน้าข้าว นกยาง อีกทั้งยังเป็นแหล่งหญ้าทะเลที่สำคัญของโลก โดยพบหญ้าทะเลถึง 13 ชนิด คิดเป็น 25% ของชนิดหญ้าทะเลในทะเลของโลก
ความสำคัญของป่าชายเลนไม่ได้มีเพียงแค่การเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ช่วยลดแรงคลื่นลมและรักษาระดับน้ำทะเลไม่ให้ท่วมเข้ามาในแผ่นดิน ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากต่อการจัดการพื้นที่ชายฝั่งให้มีความยั่งยืน
"ป่าชายเลน" ยังทำหน้าที่เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่สำคัญ ช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเล เช่น กุ้ง หอย ปู และปลา เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจำนวนมาก มีคุณค่าทางเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนชายฝั่งมหาศาล
แม้ประเทศไทยจะมีพื้นที่ป่าชายเลนค่อนข้างมากและเพิ่มขึ้นมาจากเดิมในรอบ 10 ปี แต่ก่อนหน้านี้ ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา พื้นที่ป่าชายเลนก็ลดลงอย่างน่าเป็นห่วง ตามข้อมูลจาก WWF ระบุว่า พื้นที่ป่าชายเลนของประเทศไทยลดลงจาก 3.68 ล้านไร่ ในปี 2504 เหลือเพียง 1.7 ล้านไร่ในปัจจุบัน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการบุกรุกพื้นที่ ขยายพื้นที่อุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัย
สภาพปัญหาดังกล่าวทำให้รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ป่าชายเลน โดยในปี 2559 กำหนดให้มี "วันป่าชายเลนแห่งชาติ" เพื่อสร้างจิตสำนึกให้คนไทยหวงแหนและร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอันล้ำค่านี้ รัฐบาลยังมีนโยบายเร่งรัดการฟื้นฟูป่าชายเลนอย่างจริงจังในทุกภูมิภาค เพื่อให้สามารถรักษาความสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งทะเลและประโยชน์ต่างๆ ที่ได้รับจากป่าชายเลน
การอนุรักษ์ป่าชายเลนไม่ใช่หน้าที่ของภาครัฐเพียงด้านเดียว แต่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในสังคม โดยเฉพาะชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง นักวิชาการ และภาคเอกชน ต้องร่วมกันรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณค่าของป่าชายเลน และร่วมกันปกป้องผืนป่าที่เหลืออยู่ไม่ให้ถูกบุกรุกทำลายเพิ่มเติม
การอนุรักษ์ป่าชายเลนเป็นหน้าที่ของทุกคน เพราะเรากำลังพูดถึงมรดกล้ำค่าทางธรรมชาติที่หากหมดสิ้นไปแล้ว ผลกระทบร้ายแรงจะตกอยู่กับทุกชีวิต ทั้งมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เราจึงต้องร่วมแรงร่วมใจกันอนุรักษ์ป่าชายเลนอันทรงคุณค่านี้ เพื่อให้ลูกหลานของเราได้สัมผัสกับความสมบูรณ์ของระบบนิเวศที่เคยเป็นเช่นนี้มาแต่อดีตกาล และเพื่อให้โลกใบนี้ยังคงมีสมดุลธรรมชาติที่ยั่งยืนตลอดไป
อ้างอิง:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง