ผ่าแนวคิดเอ็มดีหญิงคนแรก ‘แกร็บ ประเทศไทย’ ชูกลยุทธ์ Barbell รักษาตำแหน่งผู้นำ

08 ต.ค. 2568 | 01:12 น.

กว่า 12 ปีที่ “แกร็บ ประเทศไทย” อยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คน ตั้งแต่การเรียกรถ ส่งของ ไปจนถึงการสั่งอาหารผ่านปลายนิ้ว ไม่เพียงเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค แต่ยังกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของเศรษฐกิจบริการยุคดิจิทัล

KEY

POINTS

  • จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม เอ็มดีหญิงคนแรกของแกร็บ ประเทศไทย นำกลยุทธ์ "Barbell" มาใช้เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
  • กลยุทธ์ Barbell คือการสร้างสมดุลระหว่างบริการสองด้าน ด้านหนึ่งคือบริการระดับพรีเมียม (Quality) และอีกด้านคือบริการราคาย่อมเยา (Affordability) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม
  • นอกจากการเติบโตทางธุรกิจ ยังให้ความสำคัญกับการเป็นผู้นำที่มีเป้าหมาย (Lead with Purpose) เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนไปพร้อมกับผู้ใช้บริการ คนขับ ร้านค้า และสังคม

เบื้องหลังการเติบโตนั้น มีชื่อของ “นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม” กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย ผู้นำหญิงคนแรกที่เชื่อมั่นในพลังของ “การเติบโตไปด้วยกัน” แนวคิดที่วางรากฐานให้แกร็บขยายจากแอปเรียกรถ สู่แพลตฟอร์มที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในทุกมิติ

มองความเปลี่ยนแปลงเป็นโอกาส

จันต์สุดา เล่าว่า โลกของธุรกิจเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วเสมอ และผู้ที่อยู่รอดได้ต้องมอง “การเปลี่ยนแปลง” เป็น “โอกาส” มากกว่าอุปสรรค โดยพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนตลอดเวลา เราจึงต้องเข้าใจและปรับตัวอยู่เสมอ สิ่งที่แกร็บทำมาตลอดคือศึกษาปัญหาของผู้ใช้บริการให้ลึก เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ได้จริง”

จากบริการเรียกรถและสั่งอาหารที่ทุกคนคุ้นเคย แกร็บได้ต่อยอดบริการใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ เช่น Grab For Family เรียกรถและติดตามการเดินทางของคนในครอบครัว Grab Dine Out บริการจองโต๊ะและดีลร้านอาหารครบจบในแอป และ Advance Booking จองรถล่วงหน้าเพื่อตอบโจทย์การเดินทางที่วางแผนไว้

ผ่าแนวคิดเอ็มดีหญิงคนแรก ‘แกร็บ ประเทศไทย’ ชูกลยุทธ์ Barbell รักษาตำแหน่งผู้นำ “ทุกบริการเกิดจากความเข้าใจผู้บริโภคจริงๆ เราถามตัวเองเสมอว่า จะทำให้ชีวิตลูกค้าสะดวก ปลอดภัย และคุ้มค่ากว่าเดิมได้อย่างไร”

รักษาตำแหน่งผู้นำด้วยกลยุทธ์ Barbell

ในตลาดที่การแข่งขันสูงสุดในรอบหลายปี ความท้าทายของแกร็บคือ “การรักษาความเป็นผู้นำ” ขณะที่ต้องตอบโจทย์ทั้ง “คุณภาพ” และ “ความคุ้มค่า” ไปพร้อมกัน

จันต์สุดา อธิบายแนวคิด “Barbell Strategy” ที่แกร็บใช้เป็นเข็มทิศในการเติบโต — เปรียบเหมือนบาร์เบลที่ต้องสร้างสมดุลระหว่างสองด้าน ด้านหนึ่งคือ “Quality” แกร็บพัฒนาบริการระดับพรีเมียม เช่น GrabCar Premium, Grab Executive, และบริการคนขับส่วนตัว GrabDriveYourCar รวมถึงซับแบรนด์ #GrabThumbsUp ที่คัดร้านอาหารคุณภาพ และ Only at Grab เมนูพิเศษที่สั่งได้เฉพาะในแกร็บเท่านั้น

อีกด้านคือ “Affordability” คือบริการราคาย่อมเยาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม เช่น GrabBike Saver เริ่มต้นเพียง 19 บาท และ Saver Delivery สำหรับผู้ที่ต้องการค่าส่งประหยัด รวมถึงโปรแกรมสมาชิก GrabUnlimited ที่ให้ส่วนลดทุกบริการ

“เราต้องตอบโจทย์ทั้งคนที่มองหาคุณภาพและคนที่ต้องการความคุ้มค่าในเวลาเดียวกัน นี่คือการสร้างสมดุลของธุรกิจที่ยั่งยืน”

ผ่าแนวคิดเอ็มดีหญิงคนแรก ‘แกร็บ ประเทศไทย’ ชูกลยุทธ์ Barbell รักษาตำแหน่งผู้นำ

 

Lead with Purpose : เติบโตพร้อมสังคม

นอกจากมิติธุรกิจ จันต์สุดายังนำองค์กรด้วยวิสัยทัศน์ “Lead with Purpose” หรือ “การเป็นผู้นำที่มีเป้าหมาย”เพื่อให้แกร็บเติบโตไปพร้อมกับผู้คนรอบข้างและสังคมโดยรวม

เธอแบ่ง “เป้าหมาย” ของแกร็บออกเป็น 3 เสาหลักสำคัญ 1. เพื่อผู้ใช้บริการ – พัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ให้ทุกการเดินทางและการใช้ชีวิตสะดวก ปลอดภัย และมั่นใจยิ่งขึ้น

2. เพื่อคนขับและร้านอาหาร – สร้างโอกาสในการทำงานและเพิ่มรายได้ เช่น โครงการสินเชื่อรายวันสำหรับคนขับ และสินเชื่อร้านอาหารวงเงินสูงสุด 10 ล้านบาท พร้อมแพลตฟอร์มการเรียนรู้ GrabAcademy ที่สอนทั้งทักษะบริการ ภาษา และการตลาดออนไลน์

3. เพื่อสิ่งแวดล้อม – เดินหน้าสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีคนขับกว่า 10,000 คันทั่วประเทศ พร้อมปลูกต้นไม้กว่า 200,000 ต้น และช่วยลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวได้กว่า 929 ล้านชุดในปี 2567

ผ่าแนวคิดเอ็มดีหญิงคนแรก ‘แกร็บ ประเทศไทย’ ชูกลยุทธ์ Barbell รักษาตำแหน่งผู้นำ

“เป้าหมายของเราคือทำให้เทคโนโลยีไม่เพียงช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น แต่ต้องช่วยโลกให้น่าอยู่ขึ้นด้วย”

สร้างทีมให้เชื่อเป้าหมายเดียวกัน

เมื่อถามถึงเคล็ดลับในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ จันต์สุดา ตอบสั้นๆ ว่า “เริ่มจากการฟัง” โดยทุกการแก้ปัญหาต้องเริ่มจากการฟังและเข้าใจอินไซต์จริงๆ ว่าปัญหาเกิดจากอะไร แล้วค่อยหาทางแก้ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์”

การเติบโตของแกร็บไม่ได้เกิดจากองค์กรเพียงฝ่ายเดียว แต่เกิดจากการที่ทุกคนในอีโคซิสเต็ม ทั้งพนักงาน คนขับ ร้านค้า และผู้ใช้บริการ เติบโตไปด้วยกัน

นั่นทำให้แกร็บให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการคัดเลือกบุคลากรที่ “ไม่เพียงเก่ง” แต่ต้อง “มีเป้าหมายเดียวกัน” คืออยากสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้สังคม

“เมื่อทุกคนในทีมเชื่อในเป้าหมายเดียวกัน พลังขององค์กรจะมหาศาล และจะส่งต่อพลังนั้นไปยังผู้คนที่เราให้บริการ”

สำหรับเธอ ความสำเร็จของแกร็บไม่ได้วัดจากตัวเลข แต่จาก “จำนวนชีวิต” ที่แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนขับที่มีรายได้มั่นคง ร้านค้าที่ขายดีขึ้น หรือผู้ใช้บริการที่ใช้ชีวิตสะดวกกว่าเดิม

“เราไม่ได้แค่เติบโตในเชิงธุรกิจ แต่เรากำลังสร้างระบบนิเวศที่ทุกคนสามารถเติบโตไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืน”