นวณัฐ สุขะมงคล การทำงานต้องวางแผน...สู่ชัยชนะเท่านั้น

23 ม.ค. 2559 | 05:00 น.

อย่างที่ผู้บริหารหลายๆ คนบอกว่า การทำงานต้องมีการวางแผน มีแผน 1 แผน 2 แล้วเดินหน้า และที่เป็นกลไกสำคัญ คือ "คน" ซึ่งแต่ละผู้บริหารมีแนวทางที่เหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้าง แล้วแต่วัฒนธรรมองค์กรนั้นๆ

สำหรับองค์กรของ "ดร.นวณัฐ สุขะมงคล" หรือ "คุณเต้ย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มารวย เรียลเอสเตท จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิจิตรา ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ควบตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในกลุ่มวิจิตรา กรุ๊ป ด้วยวัย 45 ปี ผู้บริหารไฟแรงคนนี้สะสมความสามารถและประสบการณ์มากมาย จากการที่เป็นคนลุย ทำเองทุกอย่าง และพร้อมศึกษาเพื่อการเรียนรู้ เธอบอกเลยว่า งานทุกส่วนของธุรกิจ เธอสามารถลงไปทำได้ด้วยตัวเอง เพราะนั่นคือสิ่งจำเป็นสำหรับผู้บริหาร ที่จะต้องเรียนรู้ว่าแบบไหนคือถูก แบบไหนคือผิด เพื่อจะได้ชี้แนะลูกทีมได้



"คุณเต้ย" บอกว่า เธอมีหน้าที่นำที่ดินที่พ่อ-แม่ สะสมมาพัฒนา สร้างให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ซึ่งตอนนี้ดูแลรับผิดชอบมา 10 ปีแล้ว โดยธุรกิจเติบโตขึ้นเรื่อยๆ กับโปรเจ็กต์บ้านหรูหลายโครงการ เช่น วิจิตรา ธานี, เดอะโรยัลสามมุก, มารวย, วิคทอเรีย ไพร์เวท ซิตี้ ประมาณปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า เธอจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และยังแนวคิดที่จะสร้างคอมมิวนิตี้มอลล์ หรือนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้


 

"เราต้องศึกษาให้รู้ถ่องแท้ก่อน ถึงจะขยับ เราไม่จำเป็นต้องรีบ ถ้าวิ่งแล้วเราหกล้ม สู้เราเดินดีกว่า...เราคาดการณ์ อัตราการเกิดของคนต่ำ ดังนั้น ในระยะยาวๆ อีก 10-20 ปี ความต้องการบ้านจะลดลง นี่คือการคาดการณ์ แต่มันก็ไม่แน่ ถ้ารัฐบาลกระตุ้น ไม่ต้องคุมกำเนิด ...ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เรามองภาพยาวๆ ขณะที่คู่แข่งเข้ามามาก โอกาสที่ซัพพลายจะมากกว่าดีมานด์มี หรือตอนนี้ population ของคนชราจะมากขึ้น คนอยู่เป็น 100 ปีได้ง่ายๆ ดังนั้น กลุ่มตรงนี้อาจไม่อยู่บ้านแบบเดิม จะเป็นบ้านอีกแบบ เราก็ศึกษาอยู่ ดูข้อดีข้อเสีย จนกระทั่งเวลามันได้ เราก็จะทำ"
 

และอีกสิ่งหนึ่งผู้บริหารคนนี้ให้ความสำคัญ คือ การประเมินทุกอย่างให้ชัดเจน ศึกษาความเป็นไปได้ให้ถ่องแท้ แล้ววางแผนการดำเนินงานที่รัดกุม เพื่อเดินไปสู่เป้าหมาย ทุกโครงการที่ทำ ต้องสร้างรายได้ ต้องสร้างกำไรเท่านั้น เธอเปรียบเทียบเหมือนการเล่นเกม ถ้ารู้ว่าเกมนั่นเล่นแล้วแพ้ หรือประเมินแล้วไม่มีทางชนะ เธอจะยังไม่ลงไปทำ จนกว่าจะแน่ใจเสียก่อนว่า ต้องได้ชัยชนะแน่ๆ ด้วยวิธีคิดและหลักปฏิบัตินี้ จึงทำให้โครงการที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จด้วยดี

ในแง่การบริหาร "คุณเต้ย" ยึดหลัก "ความสุข" "ความซื่อสัตย์" เน้นการปลูกฝังและสร้างเสริมวัฒนธรรมภายในองค์กร ที่ให้ความสำคัญกับการสื่อสาร การสร้างสัมพันธ์ที่ดี จากรอยยิ้ม การไหว้ การขอบคุณ และคำชม คำนึงถึงหลักความซื่อสัตย์สุจริต ต่อต้านคอร์รัปชัน และการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
 

"เราใช้วิธี Honor System คุณต้องซื่อสัตย์ คุณจะประเมินไม่ตรงความเป็นจริงก็ได้ แต่องค์กรของเรามีความเชื่อใจกัน เราปลูกฝัง Honor System ความซื่อสัตย์ ความเชื่อใจกัน ถ้าคนในองค์กรไม่มีความเชื่อใจกัน ไม่มีความซื่อสัตย์ สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ ต้องมีคนมานั่งควบคุมกันอีกที ตรงนั้นมันทำให้เกิด Productivity หรือเปล่า ได้ผลอะไรออกมาหรือเปล่า มันเป็นความสูญเสียทั้งนั้น"
 

การที่จะพูดว่า สร้าง Honor System ให้เกิดในที่ทำงาน เป็นเรื่องที่พูดง่าย แต่จะทำให้เกิดจริงมันยาก เรื่องนี้ "คุณเต้ย" บอกว่า ในฐานะผู้นำ ต้องทำตัวให้ลูกน้องเห็น...เราตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์ และเราพยายามบอกเขาว่า ถ้าคุณทำงานตรงไปตรงมา คุณจะได้ผลตอบแทนที่ชัดเจน และมันจะได้มาจากความสามารถของคุณตรงๆ เงินที่เพิ่มเข้ามาในกระเป๋า 2 หมื่นบาท คือ คุณได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของคุณ ไม่ใช่ได้มาจาก มันเทาๆ ใจของคนที่ไปรับเงินในลักษณะนั้น ไม่มีความสุข ท้ายที่สุด เงินพวกนั้นเขาก็เอาไปละเลง โดยการกินเหล้า การพนัน หรือเอาไปจ่ายให้คนรอบข้าง เพื่อให้คนเหล่านั้นช่วยปิดบังเรื่องที่ไม่ดี เงินที่ได้มาก็หมด...แต่เงินที่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรง มันมีค่ากว่า
 

ซีอีโอคนนี้ ให้ความสำคัญกับความถูกต้อง ความซื่อสัตย์ เธอบอกว่า หากเกิดความผิดพลาด เสียหายเท่าไรก็ต้องแก้ไข เพื่อให้ลูกค้าได้บ้านที่มีคุณภาพ เพราะการสร้างบ้าน เริ่มต้นการผลิตตั้งแต่นับหนึ่ง อะไรจะเป็นประโยชน์กับลูกค้ามากที่สุด ตรงนั้นเป็นโจทย์ แล้วย้อนกลับมาเรื่องการผลิตทั้งหมด
 

การทำงานในองค์กรแห่งนี้ มีเพียงกรอบให้ทีมงานเดิน เพื่อให้ทุกคนสามารถขยับตัวได้ แสดงความคิดเห็นได้ และการแสดงความคิดเห็น หรือความคิดสร้างสรรค์ของทีม ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ การตีกรอบมากๆ จะทำให้คนทำงานเครียด แล้วที่สุดก็คือคิดอะไรไม่ออก แต่หากทุกอย่างสบายๆ Happy Communication สร้าง Happy Term งานที่ได้ก็จะออกมาดี ลูกค้าได้รับสินค้าตรงตามที่ต้องการ งานมีคุณภาพ และนั่นก็จะนำไปสู่ Happy Home และ Happy Society นี่คือสิ่งที่ซีอีโอ "ดร.นวณัฐ สุขะมงคล" คนนี้ ต้องการ และพยายามปลูกฝังกับทีมงานตลอดเวลา
 

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,124 วันที่ 21 - 23 มกราคม พ.ศ. 2559