ทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้ง เปิดใจ สภาธุรกิจไทย-เมียนมา ต้องกล้าได้-กล้าเสีย

29 เม.ย. 2567 | 00:15 น.

"มงคล วิศิษฏ์สตัมภ์" เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้ง เปิดใจต่อคณะผู้ประกอบการไทยกว่า 30 ชีวิต ที่เดินทางไปหาลู่ทางธุรกิจในเมืองย่างกุ้ง เมียนมา ท่ามกลางการตีข่าวความไม่เรียบร้อยตามแนวชายแดนเมียวดี-แม่สอด

KEY

POINTS

  • มงคล วิศิษฏ์สตัมภ์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้ง เปิดใจต่อคณะผู้ประกอบการไทย สภาธุรกิจไทย-เมียนมา อัพเดตสถานการณ์ล่าสุด 
  • ปลุกใจผู้ประกอบการไทย "แสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์" แต่ต้อง "กล้าได้กล้าเสีย" ปรับตัว แม้ไม่ได้รัฐบาลใหม่ในเร็ว ๆ นี้ แต่ "นโยบายเดินตรง" 
  • ให้ความมั่นใจ รัฐบาลไทย เป็นกลาง - ไม่แทรกแซงกิจการภายใน ยกเว้น รัฐบาลเนปิดอว์ ร้องขอ  

สถานการณ์การเมืองภายในประเทศเมียนมา บริเวณเมียวดี-แม่สอดยังคงมีความไม่แน่นอน-ผันผวน อย่างไรก็ดีกองกำลังชาติพันธุ์ต่าง ๆ อยู่ระหว่างพักรบ-เจรจาต่อรอง

"มงคล วิศิษฏ์สตัมภ์" เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้ง เปิดใจต่อคณะผู้ประกอบการไทยกว่า 30 ชีวิต ที่เดินทางไปหาลู่ทางธุรกิจในเมืองย่างกุ้ง เมียนมา ท่ามกลางการตีข่าวความไม่เรียบร้อยตามแนวชายแดนเมียวดี-แม่สอด ช่องทางการค้าหลักระหว่างสองประเทศที่มีมูลค่าการค้าขายนับแสนล้านบาท  

กิจกรรมการติดตามและศึกษาสถานการณ์โอกาสในทางธุรกิจในเมียนมา จัดโดยสภาธุรกิจไทย-เมียนมา (TMBC) ที่มี “กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์” ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมาเป็นโต้โผใหญ่ ระหว่างวันที่ 24-27 เมษายนที่ผ่านมา 

มงคล วิศิษฏ์สตัมภ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง เปิดใจต่อคณะผู้ประกอบการไทย สภาธุรกิจไทย-เมียนมา

"เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้ง" เริ่มต้นอัพเดตสถานการณ์เมียนมา ว่า การจะเข้าใจสถานการณ์ในเมียนมาได้นั้น ต้องมีความเข้าใจและสะสมประสบการณ์มาเป็นระยะเวลายาวนานถึงเข้าใจและรู้ว่า “มีแสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์” ไม่ใช่สังคมที่ปิดตาย มืดทึบ ลงกลอน เอากุญแจไว้ 10 ตัว ไขออกไม่ได้ หากุญแจไม่เจอ ไม่ใช่
 

ความเข้าใจประเทศเพื่อนบ้าน ต้องอาศัยกำลังที่อยู่ภายในทุกภาคส่วนในการบูรณาการกันทำงานเพื่อที่จะปลดล็อกในสิ่งต่างๆ ที่เป็นปัญหาให้เป็นประโยชน์

“เราอยู่ใกล้ที่สุด อยู่ในเหตุการณ์ สวิตเซอร์แลนด์อยู่ไกลเหลือเกิน แม้กระทั่งประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรอง”เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงย่างกุ้งอัพเดตสถานการณ์ล่าสุดสด ๆ ร้อน ๆ หลังกลับสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์เพื่ออธิบายให้เข้าใจถึงสถานการณ์เมียนมาล่าสุด

ข่าวบิดเบือน-ล่าช้า negative impact

ขณะนี้สถานการณ์ในเมียนมาเป็นที่สนใจของประชาคมโลก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นปัญหากับคนไทย คือ ประการแรก ข่าวบิดเบี้ยว ทุกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญ ตาสีตาสาไม่เข้าใจแล้วไปพูดต่อ เกิดความผิดเพี้ยน negative impact รายงานข่าวสถานการณ์ล่าช้า ทำให้คนภายนอกเข้าใจผิด ภาพรถหุ้มเกราะ รถกระบะแบกปืนกล เกิดขึ้นมา 2-3 วันแล้ว แต่เพิ่งออกมาเผยแพร่ 

“จริง ๆ ที่เกิดขึ้นก็คือ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 ทหารเมียนมาที่หลบหนีอยู่ก็กลับไปฐานตัวเอง (275) กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) หรือ กองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA) ก็มาช่วยปัดกวาดเช็ดถูบริเวณสะพานสองไปดูตึกเสียหายที่ได้จากการทิ้งโดรนหรือการปะทะต้องทำอะไรบ้าง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเปิดทำการใหม่” 
 

สิ่งที่เราอยากให้เกิดขึ้นในพื้นที่ที่เป็นหม้อข้าว อู่ข้าวอู่น้ำ ไม่ใช่เฉพาะของคนไทย แต่เป็นของชาวเมียนมาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วย การค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน Border gate ต้องมีความสงบเรียบร้อย ไม่ใช่กระสุนมาแล้ว หรือแค่มีกองกำลังมาลาดตระเวนเพิ่มขึ้นผิดปกติ กลิ่นไม่ดี ทำให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น 

นายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมาเป็นโต้โผใหญ่นำผู้ประกอบการไทยกว่า 30 ชีวิตดูลู่ทางลงทุนในย่างกุ้ง

อัพเดตสถานการณ์เมียวดี-แม่สอดล่าสุด

สถานทูตกำลังจะมีงานเพิ่มขึ้น เรื่องวีซ่า แรงงานชาวเมียนมา ต้องมาขอกับสถานทูต ตอนนี้มี 400 ราย อีก 400 ผ่านบริษัททัวร์  พื้นที่อื่น ในย่างกุ้งตอนนี้คนมากขึ้น มัณฑะเลย์ก็เช่นกัน แต่พื้นที่ที่ไม่มีคน รกร้าง เพราะเพิ่งผ่านวิกฤตโรคระบาดโควิด 19 และรัฐประหาร ไม่เกิดการพัฒนา

ร้านรวงเล็กๆน้อยๆ แม้กระทั่งบริษัทรถยนต์นำเข้า ในมัณฑะเลย์ยังมีคนไทยอยู่จำนวนมาก ไม่แพ้ย่างกุ้ง แต่ที่มัณฑะเลย์มีบริษัทไทยหลายบริษัท เช่น ซีพี มาม่า (สหพัฒน์) มอเตอร์ไซค์ อาหารสัตว์ ร้านอาหารไทย ร้านขายของอุปโภคบริโภค โรงแรมไทย 

“นักท่องเที่ยวอันดับ 1 คือคนไทย สามารถสร้างรายได้ให้กับคนเมียนมา การท่องเที่ยวเป็น Quick Cash ตั้งแต่จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม รถยนต์เช่า ไกด์ทัวร์ ร้านอาหาร ไปวัดซื้อดอกไม้ธูปเทียน ชาวบ้านมีรายได้”

อย่างไรก็ตาม Entertainment ในย่างกุ้งยังไม่กลับมา เพราะผูกกับนักท่องเที่ยว ภัตตาคารทยอยเปิดเพิ่มขึ้น มีลูกค้าอุดหนุนพอสมควร เป็นคนต่างเมืองที่มาอาศัยอยู่ในย่างกุ้งชั่วคราว เป็นลูกค้าชั้นดี อพาร์ตเม้นท์ คอนโดมีเนียมขึ้นราคา ภายใต้เงื่อนไขมากมาย ที่กำลังจะทำใหม่ต้องซื้อขายกันล่วงหน้า ที่ดินสิ่งปลูกสร้างราคาสูง ไม่มีการสร้างอาคารขึ้นมาใหม่

ปลุกใจผู้ประกอบการไทย “กล้าได้-กล้าเสีย” 

“ผมมาจากปักกิ่ง ผมเคยอยู่คุณหมิง คุ้นเคยพื้นที่แถวนี้ดี รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว จีน-ไทย ช่วยกันจุดพลุ คุณหมิงเป็นด่านการค้าที่สำคัญของไทยในจีนตอนใต้ ช่องทางนำเข้า แต่ก่อนจะมีเส้นทาง R3A หรือ แม่น้ำล้านช้าง ท่าเรือกวนเล่ย รถไฟจีนลาว มุ่งจีนใต้ ทะลุขึ้นไปจีนตอนกลาง อะไรก็ได้ขอให้เข้าระบบรางจีนได้ คุณจะไปที่ไหนก็ได้ภายใน 2 วัน เป็นเครือข่ายใยแมงมุมที่น่ามหัศจรรย์มาก”อดีตกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ชี้ให้ผู้ประกอบการไทยเห็นโอกาส

เมียนมามีสิ่งที่ท้าทาย อาจจะต้องใช้เวลา ใช้พลัง ใช้การทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน วิชั่น ที่สำคัญ “กล้าได้กล้าเสีย” ใครมาเมียนมา ไม่กล้าได้กล้าเสีย ไม่ใช่ คนที่อยู่ได้ทุกวันนี้กล้าได้กล้าเสียทั้งนั้น 

หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ที่ยังเป็นแรงกดทับที่น่าหนักใจ คือ การแซงชั่นจากชาติตะวันตก โดยเฉพาะการแซงชั่นจากภาคธนาคาร เช่น สิงคโปร์ 

คณะผู้ประกอบการไทยทั้งหน้าเก่า-หน้าใหม่ที่สนใจลงทุนในเมียนมา

ไม่ได้รัฐบาลใหม่เร็ว ๆ วัน - นโยบายเดินตรง 

นับว่าเราโชคดีที่โครงการสกุลเงินบาท-จ๊าดไปได้ด้วยดี ทำให้เงินบาทกลายเป็นเงินสกุลหลักในการค้าขายของเมียนมา และหลายประเทศก็หันมาใช้เงินบาทด้วย แย่งเราใช้ เพราะที่มีอยู่ไม่เพียงพอ และต่อไปอาจจะมีรูเบิล-จ๊าด

“สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะฝากไว้ มองให้ออก หาช่องให้เป็น กล้าได้กล้าเสียบนพื้นฐานของวิจารณญาณที่มองภาพอย่างถูกต้อง เป็นไปได้”

ไทยเป็นประเทศที่โชคดีมากที่สุดในบรรดาหลาย ๆ ประเทศ ทุกประเทศในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เวลาเจริญขึ้นจะมีปัญหาตามมามากมาย ไฟฟ้าขาดแคลน การบริการภาครัฐยังไม่โดนใจ ไม่ทันอกทันใจ

"แต่ท่านจะได้ความมั่นใจในเรื่องของเสถียรภาพทางการเมือง อาจจะได้รัฐบาลใหม่ อาจจะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ประธานาธิบดีคนใหม่ รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุนคนใหม่ พาณิชย์ แต่นโยบายค่อนข้างเดินตรง” 

ยืนยันไทยจุดยืนเป็นกลาง 

“การเดินหมาก ก้าวแต่ละก้าวของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชัดเจน เราเป็นกลาง เราพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม หรือให้ช่วยเจรจา เราก็พร้อม แต่ต้องมีคำร้องขอ"

"ทำเองไม่ได้ ไปจุ้นจ้านกิจการภายในของเมียนมาไม่ได้ ถ้าทหารที่อยู่ใต้สะพานที่ 2 เข้ามาที่ฝั่งไทย ต้องเป็นการร้องขอมาจากเนปิดอว์ ขอให้ทหารเหล่านั้นเข้าไปในฝั่งไทยเพื่อความปลอดภัย วางอาวุธ ไม่ใส่เครื่องแบบ แต่สิ่งที่ไม่เกิดขึ้น คือ คำสั่งจากเนปิดอว์ ห้ามถอย"เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้งทิ้งท้าย