วิกฤต “ตีนไก่” ขาดแคลนทั่วโลก รัฐบาลปิ๊งดัน “ตีนเป็ด” บุกตลาดจีนแทน

10 ต.ค. 2566 | 10:23 น.

วิกฤต “ตีนไก่” ขาดแคลนทั่วโลก ตลาดจีนยังต้องการสูง รัฐบาลไทยเห็นโอกาส เตรียมส่งออกตีนเป็ด และเป็ดไทยไปบุกตลาดจีนแทน โดย ครม.ไฟเขียวแก้พิธีสารเตรียมลงนามช่วงนายกฯไปจีน 16-29 ตุลาคม 2566 นี้

วันนี้ (10 ตุลาคม 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการลงนามความตกลงเพื่อแก้ไขพิธีสารระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของประเทศไทย กับสำนักงานศุลกากร ของประเทศจีน ว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การกักกัน และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์ เพื่อการส่งออกเนื้อเป็ดและชิ้นส่วนจากเป็ดของไทยไปยังประเทศจีน

“ปัจจุบันตีนไก่ขาดตลาดทั่วโลก ประเทศจีนส่งพ่อค้ามากว้านหาซื้อตีนไก่ หาเท่าไหร่ก็หาไม่ได้ เพราะไก่มีแค่ 2 ตีน แต่คนจีนกินตีนไก่คนหนึ่งหลายสิบตีน และนิยมรับประทานเป็นของว่างด้วย ดังนั้นเป็ดก็เลยเป็นสินค้าที่อาจจะทดแทนตีนไก่ได้” นายชัย ระบุ

นายชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา ไทยและจีน มีพิธีสารระหว่างกันเกี่ยวกับการส่งออกส่งไก่ และชิ้นส่วนของไก่ไปจีน เพียงแต่ว่าจำกัดแค่ไก่ และชิ้นส่วนไก่เท่านั้น ซึ่งในปี 2565 มีการส่งออกรวม 13,000 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 8 เดือนปี 2566 ไทยส่งออกไก่ และชิ้นส่วนของไก่ คิดเป็นมูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยประเทศไทยต้องการขยายการค้าส่งออกสัตว์ปีกไปประเทศจีนเพิ่ม จึงขอเพิ่ม 18 รายการเกี่ยวกับเป็ดและชิ้นส่วนของเป็ดเพื่อส่งออกไปยังจีน

 

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ดังนั้น กรมปศุสัตว์ จึงเสนอครม.ขอขยายขอบข่ายพิธีสารฯ โดยเพิ่มรายการผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนจากสัตว์ปีกเพื่อการบริโภค (รวมถึงอวัยวะภายใน) ที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน จำนวน 18 รายการ (เพิ่มรายการผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้เป็ดแช่แข็งเพื่อการบริโภค) ได้แก่ 

  1. ตีนเป็ด 
  2. ข้อปีกเป็ด 
  3. ปีกกลางเป็ด 
  4. ปลายปีกเป็ด 
  5. ปีกบนเป็ด 
  6. ตับเป็ด 
  7. คอเป็ด 
  8. กึ๋นเป็ด 
  9. หัวใจเป็ด 
  10. ไตเป็ด 
  11. ลิ้นเป็ด 
  12. หัวเป็ด  
  13. ปากเป็ด 
  14. กระดูกเป็ด 
  15. กระดูกอ่อนเป็ด  
  16. เอ็นเป็ด 
  17. ไขมันเป็ด 
  18. หนังเป็ด 

ทั้งนี้สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเห็นชอบต่อการขอเพิ่มรายการผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว โดยที่ประชุมครม. ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็มให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือผู้แทนมีอำนาจ เป็นผู้ลงนาม ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ แจ้งว่าจะมีการลงนามความตกลงฯ ในระหว่างการเยือนประเทศจีนของนายกรัฐมนตรี ในระหว่างวันที่ 16-29 ตุลาคม 2566 นี้

 

วิกฤต “ตีนไก่” ขาดแคลนทั่วโลก รัฐบาลปิ๊งดัน “ตีนเป็ด” บุกตลาดจีนแทน

นายชัย กล่าวว่า การจัดทำความตกลงครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยทำให้สามารถส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกจากประเทศไทยไปยังประเทศจีนได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการขยายตลาด และสร้างโอกาสการลงทุนทางการค้าจะส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ของไทยขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ ชี้แจงว่า ถ้าเปิดตลาดเป็ดได้ ปีแรกจะส่งออกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ครม.ยังเห็นชอบต่อร่างพิธีสารว่าด้วยความปลอดภัยอาหารด้านการสัตวแพทย์ และการปกป้องพืช เพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์จากผึ้งจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน รวมทั้งอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในพิธีสารฯ 

นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบร่างพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกผลเสาวรสสด ไทยไปจีน และร่างพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกต้นสนใบพายจากไทยไปยังจีนด้วย