วัชพืชในแหล่งน้ำชลประทานมีหลายชนิด เป็นวัชพืชร้ายแรงที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อแหล่งน้ำ เช่น กีดขวางทางน้ำไหล ทำให้น้ำเปลี่ยนทิศทางไม่เป็นไปตามจุดหมาย ลดอัตราการไหลของกระแสน้ำ ทำให้เกษตรกรได้รับน้ำไม่ทั่วถึงในพื้นที่เขตชลประทาน
จากปัญหาดังกล่าว กรมชลประทาน โดยสำนักวิจัยและพัฒนา ได้พัฒนาเรือต้นแบบพร้อมอุปกรณ์ฉีดพ่นสารกำจัดวัชพืช เพื่อควบคุมและกำจัดวัชพืชที่อยู่ในน้ำ ริมตลิ่ง ตามบริเวณซอกหลืบและบริเวณพื้นที่ที่เครื่องจักรกลไม่สามารถเข้าถึงได้ ช่วยทำให้การกำจัดวัชพืชมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นางศิริพร บุญดาว นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ สำนักวิจัยและพัฒนา กรมชลประทาน กล่าวว่า เรือต้นแบบพร้อมอุปกรณ์ฉีดพ่นสารกำจัดวัชพืช เป็นเรือขนาดเล็กที่มีการพัฒนาจัดสร้างขึ้นเพื่อควบคุมและกำจัดวัชพืชลอยน้ำและวัชพืชริมน้ำที่อยู่ในคลอง ริมตลิ่ง ที่มีปริมาณไม่หนาแน่นมากเกินไป เรือสามารถเคลื่อนตัวไปได้ หรือใช้กำจัดวัชพืชน้ำที่หลงเหลือจากการทำงานของเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ เรือมีขนาดเล็กสะดวกในการเคลื่อนย้ายและการปฏิบัติงานในพื้นที่ นำมาใช้ในงานฉีดพ่นสารกำจัดวัชพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถฉีดพ่นสารกำจัดวัชพืชปริมาณ 300 ลิตร โดยใช้หัวฉีดรูปกรวยกลวง จำนวน 1, 2 และ 4 หัวฉีด/ก้านฉีด ใช้เวลา 15 นาที – 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณหัวฉีดและการปรับหัวฉีด ซึ่งปรับได้ 3 แบบ คือ หัวฉีดฝอย หัวฉีดพุ่ง และหัวฉีดแบบผสม เลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพพื้นที่และชนิดของวัชพืชที่จะดำเนินการ
ซึ่งสำนักวิจัยและพัฒนา ได้พัฒนาสารผสมจากน้ำมันสกัดจากพืชตระกูลยูคาลิปตัส ผสมร่วมกับสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช และสารลดแรงตึงผิวช่วยให้สารซึมเข้าสู่วัชพืชได้เร็วขึ้น โดยไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน ปลอดภัย มีกลิ่นหอม ไม่ทิ้งสิ่งตกค้างในสภาพแวดล้อม สามารถพลิกฟื้นคืนชีวิตให้สายน้ำ ช่วยป้องกันน้ำท่วม แก้ไขน้ำเน่าเสีย และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้นกว่าเดิม