กรมวิชาการเกษตรผนึก 4 สมาคมฯ ชี้แจงแนวทางการจัดทำคำขอขึ้นทะเบียนปุ๋ย

29 พ.ค. 2566 | 15:09 น.

กรมวิชาการเกษตร ผนึก 4 สมาคมปุ๋ย จัดประชุมทำความเข้าใจแนวทางการจัดทำคำขอขึ้นทะเบียนปุ๋ยและหนังสือรับแจ้งปุ๋ยเคมี

 

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นประธานในพิธีเปิด การประชุมชี้แจง “แนวทางการจัดทำคำขอขึ้นทะเบียนปุ๋ยและหนังสือรับแจ้งปุ๋ยเคมี” ณ ห้องแกรนด์บอลล์รูม โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ วันนี้ (30 พ.ค.) ซึ่งการจัดประชุมชี้แจงดังกล่าว เป็นความร่วมมือกันระหว่างสมาคมที่เกี่ยวกับธุรกิจและการค้าปุ๋ย ได้แก่ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจเกษตรไทย  สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย  สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร ร่วมกับสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย และกรมวิชาการเกษตร วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำคำขอขึ้นทะเบียนและหนังสือรับแจ้งปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า  ในการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดมีความจำเป็นที่จะต้องมีการประสานการทำงาน ทำความเข้าใจร่วมกัน ของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น การพูดคุย และร่วมมือกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมคุณภาพของปุ๋ย  ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญในการเกษตร  จึงเป็นภารกิจที่สำคัญต่อภาคเอกชนและภาครัฐ โดยกรมวิชาการเกษตรให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิบัติงานดังกล่าว และได้พยายามพัฒนาระบบการให้บริการเพื่อให้ภาคเอกชนได้รับความสะดวก เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วย ความโปร่งใส

การประชุมชี้แจง “แนวทางการจัดทำคำขอขึ้นทะเบียนปุ๋ยและหนังสือรับแจ้งปุ๋ยเคมี” ณ ห้องแกรนด์บอลล์รูม โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ

กรมวิชาการเกษตร จึงได้มีการพัฒนาระบบบริการออนไลน์เป็นระบบใหม่เพื่อให้รองรับการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมศุลกากร  แต่ในช่วงเริ่มใช้ระบบบริการออนไลน์ระบบใหม่ เมื่อต้นปี 2564 ประกอบกับเป็นช่วงโรคโควิดระบาด และมีการประกาศบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่ เกี่ยวกับปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม เมื่อปลายปี 2564  จึงทำให้มีการยื่นคำขอเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาเดียวกันนั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาความล่าช้าในการตรวจสอบคำขอ  แต่ได้มีการหารือร่วมกันทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ จนเกิดแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว

โดยเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร และสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการค้าและธุรกิจปุ๋ยเคมี ได้แก่

  • สมาคมการค้าและธุรกิจเกษตรไทย
  • สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจเกษตรไทย
  • สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย
  • และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร

ได้ร่วมกันหารือเกี่ยวกับการขอขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมีและการขอหนังสือสำคัญรับแจ้งปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริมดังกล่าว ได้มีความเห็นร่วมกันว่า หากมีการทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประกอบคำขอเพื่อยื่นขอขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี หรือหนังสือสำคัญรับแจ้งปุ๋ยเคมี จะช่วยให้ทั้งภาคเอกชน และเจ้าหน้าที่ภาครัฐสามารถดำเนินการออกใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี และหนังสือสำคัญรับแจ้งปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

บรรยากาศภายในงาน

จึงได้จัดให้มีการประชุมในวันนี้ โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุม ประกอบด้วยผู้ประกอบการเกี่ยวกับปุ๋ยซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมฯ ทั้ง 3 สมาคม รวมทั้งสมาชิกสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย รวมจำนวนประมาณ 200 คน และเจ้าหน้าที่กลุ่มควบคุมปุ๋ยทำหน้าที่ชี้แจง รายละเอียดการจัดทำคำขอ และเอกสารประกอบคำขอเพื่อยื่นขอขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี หรือหนังสือสำคัญรับแจ้งปุ๋ยเคมี พร้อมทั้งมีการฝึกพิจารณาความถูกต้องของเอกสารดังกล่าว โดยในช่วงสุดท้ายเป็นช่วงการสรุปและอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นต่างๆในการจัดทำคำขอและเอกสารประกอบคำขอฯ ดังกล่าวด้วย

“หลังจากการประชุมในครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลให้มีการจัดทำคำขอและเอกสารประกอบคำขอได้ถูกต้อง ทำให้สามารถตรวจสอบ และออกใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ย และหนังสือสำคัญรับแจ้งปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น จึงขอขอบคุณและชื่นชมสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจเกษตรไทย  สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย  สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร  และสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทยที่ให้ความร่วมมือกับภาคราชการในการดำเนินการดังกล่าวอย่างเต็มที่ด้วยดีตลอดมา” อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวในที่สุด