เคาะประกันรายได้ข้าวงวดที่17  ราคาข้าวสูงกว่าเป้าหมาย

03 ก.พ. 2566 | 18:00 น.

พาณิชย์ "เคาะประกันรายได้ข้าว" งวดที่ 17  ข้าวเปลือกเกือบทุกชนิดสูงกว่าเป้าหมาย มีเพียงข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่เกษตรกรรับชดเชยส่วนต่างตันละ 341.19 บาท

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 17 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 28 ม.ค. – 3 ก.พ. 2566 ปรากฏว่า ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสูงกว่าราคาประกันรายได้เกือบทุกชนิดข้าว

เคาะประกันรายได้ข้าวงวดที่17  ราคาข้าวสูงกว่าเป้าหมาย

โดยมีเพียงข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ซึ่งมีเกณฑ์กลางตันละ 13,658.81 บาท ที่เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 341.19 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 5,459.04 บาท สำหรับข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกปทุมธานี และข้าวเปลือกเหนียว มีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสูงกว่าราคาประกัน

ดังนี้ ข้าวเปลือกปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 11,150.26 บาท ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางตันละ 10,040.01 บาท และข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 12,555.44 บาท สำหรับข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่มีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง เนื่องจากสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว 

เคาะประกันรายได้ข้าวงวดที่17  ราคาข้าวสูงกว่าเป้าหมาย

สถานการณ์ราคาข้าว ผู้แทนสมาคมโรงสีข้าวไทย และสมาคมค้าข้าวไทย ให้ข้อมูลว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาวะการซื้อขายข้าวชะลอตัวลง เนื่องจากราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปีประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าในขณะนี้ ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกเจ้าปรับลงเล็กน้อย แต่ยังทรงตัวอยู่ในระดับที่สูง ทั้งนี้ ยังมีการส่งออกในส่วนของคำสั่งซื้อก่อนหน้าที่ยังอยู่ระหว่างส่งมอบ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการส่งออกคือค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้

เคาะประกันรายได้ข้าวงวดที่17  ราคาข้าวสูงกว่าเป้าหมาย

สำหรับโครงการชะลอการขายข้าวเปลือก ซึ่งเกษตรกรเก็บข้าวไว้ใน    ยุ้งฉางในช่วงที่เก็บเกี่ยวมาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันมีข้าวเปลือกเข้าร่วมโครงการประมาณ 2 ล้านตัน มีการจ่ายค่าฝากเก็บ ตันละ 1,500 บาท ไปแล้วประมาณ 1.5 ล้านตัน ซึ่งจะเร่งดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกรเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน ก.พ. นี้ 

 

เคาะประกันรายได้ข้าวงวดที่17  ราคาข้าวสูงกว่าเป้าหมาย

การจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 8 ก.พ. 2566 โดยในงวดที่ 1 - 16 ที่ผ่านมาจ่ายส่วนต่างแล้ว จำนวน 2.59 ล้านครัวเรือน วงเงิน 7,845.40 ล้านบาท ในส่วนของการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ไร่ละพันบาท) ธ.ก.ส. ได้โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรแล้วกว่า 4.62 ล้านครัวเรือน วงเงิน 53,859.73 ล้านบาท

เคาะประกันรายได้ข้าวงวดที่17  ราคาข้าวสูงกว่าเป้าหมาย

ทั้งนี้ การโอนเงินยังคงมีกรณีโอนเงินไม่สำเร็จจากปัญหาด้านบัญชีเงินฝาก จึงขอให้เกษตรกรตรวจสอบบัญชีเงินฝากและติดต่อกับ ธ.ก.ส เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการรับเงินชดเชยส่วนต่างตามโครงการ เช่น กรณีปัญหา ชื่อ – สกุล ไม่ตรง บัญชีปิด บัญชีถูกอายัด หรือหากยังไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. ขอให้เกษตรกรติดต่อเปิดบัญชีใหม่กับ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ เพื่อ ธ.ก.ส. จะได้ดำเนินการโอนเงินให้แก่เกษตรกรได้ต่อไป