แฉ “แบริเออร์หุ้มยาง-เสาหลักนำทาง” นโยบายรัฐพ่นพิษ ชาวสวนเจ๊ง ขาดทุนยับ

17 ธ.ค. 2565 | 08:54 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ธ.ค. 2565 | 15:54 น.

“สวัสดิ์ ลาดปาละ” แฉ “แบริเออร์หุ้มยาง-เสาหลักนำทาง” นโยบายรัฐพ่นพิษ ชาวสวนเจ๊ง ขาดทุนยับ ถอดบทเรียนเข็ด หลอกลงทุน ท้ายสุดโดนทิ้งกลางทาง ความยั่งยืนไม่มี เตือนสติ ต่อไปคิดเองทำเองดีกว่า

พลิกย้อนไปเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการนำร่องการนำยางพารา มาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน โดยมีแผนการดำเนินโครงการดังกล่าว ในปีงบประมาณ 2563 – 2565  โดยมีปริมาณการใช้ยางพารา จำนวน 1,007,951 ตัน  คิดเป็นผลประโยชน์ที่เกษตรกรชาวสวนยางจะได้รับ จำนวน 30,108 ล้านบาท  นั้น

  

สวัสดิ์ ลาดปาละ

 

นายสวัสดิ์ ลาดปาละ รองประธานคนที่ 1 คณะกรรมการเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางระดับประเทศ การยางแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงโครงการที่เกิดขึ้นโดยกระทรวงคมนาคม มอบให้ กรมทางหลวง (ทล.) และ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ในโครงการก่อสร้างกำแพงคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ (RFB) และโครงการติดตั้งหลักนำทางยางธรรมชาติ (RGP) 

 

แฉ “แบริเออร์หุ้มยาง-เสาหลักนำทาง” นโยบายรัฐพ่นพิษ ชาวสวนเจ๊ง ขาดทุนยับ

 

โดยมีเป้าดำเนินการทำ 3 ปี ปีงบประมาณ ก็คือ ปี 2563-2565 ตั้งเป้าผลิตแผ่นยางหุ้มแบริเออร์ 12,282.735 กม. 83,421 ล้านบาท และหลักนำทางจากยาง 1.063 ล้านต้น 2,202 ล้านบาท คาดจำนวนเงินที่เกษตรกรจะได้รับ 3 ปี รวม 30,108 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณน้ำยางที่ใช้ 1 ล้านตัน เฉลี่ยปีละ 300,000 ตัน

 

สำหรับต้นทุนการผลิต ในส่วนของแผ่นยางหุ้มแบริเออร์ มีต้นทุนที่ 3,140-3,757 บาท/เมตร โดยผลประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับอยู่ที่ 2,189.63-2,798.10 บาท/เมตร และคาดว่าเกษตรกรจะได้รับผลประโยชน์คิดเป็นสัดส่วน 70-74% ส่วนหลักนำทางธรรมชาติ มีต้นทุนอยู่ที่ 1,607-2,223 บาท/ต้น โดยผลประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับอยู่ที่ 1,162.58-1,778.18 บาท/ต้น และคาดว่าเกษตรกรจะได้รับผลประโยชน์คิดเป็นสัดส่วน 72-80%

 

 

นายสวัสดิ์ กล่าวว่า  นโยบายนี้เดินมาได้ 2 ปี ก็คือ ปี2563 กับ /2564  ส่วนปี 2565 ไม่ทำ แต่ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับสถาบันเกษตรกรต่างๆลงทุนในเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์การผลิตต่างๆไปแล้ว แล้วที่ขายไป 2 ปี ก็ไม่คุ้มที่ลงทุนไป ด้วยข้อจำกัดเรื่องงบประมาณก็ไม่เข้าใจว่ามีข้อจำกัดอะไรในขณะนั้น ซึ่งทำให้เป็นบทเรียนว่าอะไรที่ไปนโยบายของรัฐบาล ความยั่งยืนไม่มี

 

แฉ “แบริเออร์หุ้มยาง-เสาหลักนำทาง” นโยบายรัฐพ่นพิษ ชาวสวนเจ๊ง ขาดทุนยับ

 

“หลอกให้ลงทุน เครื่องมือโน้นนี่นั้น จัดซื้อตู้อบตู้นึ่งทำพิมพ์หล่อ 2 ปี ยังไม่คืนทุนเลย (ปี63-64)  ทำแค่ 2 ปี ทั้งที่นโยบายทำ 3 ปี ไม่ตั้งงบประมาณซื้อ แล้วอย่างนี้จะได้ใจคนภาคใต้ สถาบันที่ทำส่วนใหญ่ภาคใต้ โดนทิ้งกลางทาง  แต่พอมีปัญหา ก็ได้ปรึกษากับ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ก็ชี้ไปที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ อ้างเป็นนโยบายการเมือง เป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ไม่เกี่ยว  นโยบายอย่างนี้ถอดบทเรียน ต่อไปคิดเองทำเองดีกว่า เข็ดแล้ว"