ททท.ไขกลยุทธกระตุ้นทัวร์ริสต์ยุโรปปั้ม 8.45 ล้านคนเที่ยวไทย

01 พ.ย. 2568 | 03:58 น.
อัปเดตล่าสุด :01 พ.ย. 2568 | 03:58 น.

แม้ภาพรวมของการท่องเที่ยวไทยในปีนี้จะชลอตัวลง จากการชลอตัวของนักท่องเที่ยว แต่ตลาดที่เติบโตแข็งแกร่ง คือ ตลาดระยะไกล ซึ่งเติบโตเกินก่อนเกิดโควิดไปแล้ว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวยุโรป ที่ยังขยายตัวได้อีก ทำให้ททท.ต้องเปิดเกมส์รุกเพื่อกระตุ้นตลาดนี้เพิ่มขึ้น แม้จำนวนอาจจะไม่เท่ากับตลาดจีนที่หายไป แต่เป็นตลาดที่คาดหวังได้ของไทยในปีนี้ ในการสร้างรายได้รวมกว่า 5.5 แสนล้านบาท

ปั้มนักท่องเที่ยวยุโรปเที่ยวไทย โต 2 หลัก

นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่านักท่องเที่ยวยุโรปเที่ยวไทยยังคงเติบโตต่อเนื่อง ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (1 ม.ค.-14 ก.ย.2568) อยู่ที่ 5.48 ล้านคน เติบโตสูงถึง 14 % ซึ่งตัวเลขด้านรายได้ก็ขยับเพิ่มขึ้นในอัตราใกล้เคียงกันกับจำนวนนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวระยะไกลมีการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 64,000 บาทต่อทริป

ทั้งนี้พบว่านักท่องเที่ยวยุโรปตลาดหลัก (Champion Market) ยังคงเติบโตดี เยอรมัน ขยายตัว 12.42 % ฝรั่งเศส เติบโต 17.13% และสหราชอาณาจักร (UK) เติบโต 14.66% รัสเซีย บวก 10.4 % ขณะที่ตลาดดาวรุ่ง ที่มีแนวโน้มเติบโตดี คือ นักท่องเที่ยวตุรกี เติบโต 23% นักท่องเที่ยวโปแลนด์ บวก 30%

ตลาดยุโรปใต้ อย่าง สเปน อิตาลี อิสราเอล คาซัคสถาน ยูเครน ก็ยังเติบโตดี แม้บางตลาดแม้จะมีปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อก็จะยังเดินทางตามแผนที่วางไว้ หากไม่ได้มีเหตุการณ์ปิดสนามบินที่กระทบถึงการเดินทางโดยตรง ส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่ม CIS แม้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่มาก แต่เติบโตสูง เช่น อุซเบกิสถาน 43% เบลารุส 133%

ททท.มีเป้าหมายขับเคลื่อนให้ตลาดให้แตะหลักล้านคน (Million Market) ได้แก่ นักท่องเที่ยวรัสเซีย ที่ปีนี้คาดว่าจะได้ถึง 2 ล้านคน นักท่องเที่ยวอังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส ที่จะผลักดันให้ถึงตลาดละ 1 ล้านคน และตั้ง เป้าหมายรวมของตลาดยุโรปในปีนี้ 8.45 ล้านคน ซึ่งปัจจุบันทำแล้วกว่า 70 % จากเป้าหมาย เหลือ 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้เป็นไฮซีซัน เมื่อดูจากยอดการจองล่วงหน้าเดือนต.ค.-ธ.ค.นี้ พบว่าเติบโต 6 % จึงมั่นใจว่าจะผลักดันให้ตลาดเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักได้

สุลัดดา ศรุติลาวัณย์

แผนกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกล ททท.ต้องใช้กลยุทธ์ “Airline Focus” เน้นทำ Joint Promotion กับสายการบิน เพื่อเพิ่มการเดินทางเข้าถึงประเทศไทยทั้งเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ โดยในตารางบินฤดูหนาวนี้คาดว่าจะเพิ่มจำนวนที่นั่งบนเครื่องบิน ได้อีกราว 500 ที่นั่งต่อวัน อย่าง ตลาดสหราชอาณาจักร ก็มีบริติช แอร์เวย์ส เมื่อก่อนจะบินเข้าไทยเฉพาะช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ก็ประกาศเปิดบินประจำตลอดทั้งปี

รวมถึงสายการบิน Norse Atlantic จะเปิดบินจากลอนดอน แมนเชสเตอร์ และออสโล เข้ากรุงเทพฯ ตลาดฝรั่งเศส ก็มีสายการบินแอร์ฟรานซ์ เปิดเที่ยวบินเข้าภูเก็ต จากเมื่อก่อนบินแค่กรุงเทพฯ ตลาดเยอรมัน ก็มี Condor ส่วนในกลุ่มประเทศ CIS มีสายการบินเบลาเวีย บินจากเมืองมินสค์ (เบลารุส) เข้ากรุงเทพฯ ที่ช่วงแรกจะบินแบบเช่าเหมาลำ สำหรับ คาซัคสถาน สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ก็เตรียมจะเปิดบินตรง อัลมาตี-ดอนเมือง

ส่วนบางตลาดที่มีปัญหาการขาดเที่ยวบินตรงเข้าไทย ททท.จะส่งเสริมเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ให้เปิดเที่ยวบินเข้าไทย เช่น ปัจจุบันในตลาดโปแลนด์ ททท. ได้ร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยวเพื่อจัดทำ Charter Flight เข้าไทย และกำลังพยายามกระจายเส้นทางบินสู่สนามบินอื่นๆ ที่มีศักยภาพ เช่น กระบี่ และอู่ตะเภา

นักท่องเที่ยวยุโรป

นอกจากนี้ ททท. ยังมีการใช้ Soft Power และกลยุทธ์เฉพาะกลุ่ม เช่นมวยไทย เป็นที่นิยมมากในโปแลนด์และยุโรปตะวันออก การร่วมมือกับสถานทูตนำเสนอในกิจกรรม Thai Festival และการจัดการปัญหาความขัดแย้งในบางตลาด อาทิ ตลาดอิสราเอล ซึ่งรักเมืองไทยเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง แต่มีบางกลุ่มที่ไม่เคารพวัฒนธรรมไทย จึงได้มีการจัดทำคู่มือ Do’s & Don’ts ร่วมกับสายการบิน เพื่อให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว เป็นต้น

ดึงยุโรปตะวันออก 8.7 แสนคน

นางสาวชลลดา สิทธิวรรณ ผู้อำนวยการททท. สำนักงานปราก ซึ่งดูแลตลาดยุโรปตะวันออก กล่าวว่า ททท.ตั้งเป้าหมายกระตุ้นตลาดยุโรปตะวันออก ตลอดทั้งปีนี้ อยู่ 870,900 คน เพิ่มขึ้น 17 % สถานการณ์โดยรวมเป็นบวกทุกตลาด ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 14 ก.ย.2568 นักท่องเที่ยวยุโรปตะวันออกเที่ยวไทยแล้ว 331,322 คน เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างโปแลนด์ จัดว่าเป็นตลาดดาวรุ่ง เติบโตต่อเนื่องทุกปี ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยแล้ว 142,912 คน เพิ่มขึ้นถึง 30.95% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเป็นประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในสหภาพยุโรป (อียู) GDP Growth ของโปแลนด์ปี 2568 อยู่ที่ +3.2%

ชลลดา สิทธิวรรณ ผ

เพราะโปแลนด์ได้พัฒนาประเทศมาตั้ง 10 กว่าปีแล้ว โดยวาง positioning ของประเทศให้เป็นฮับแห่งการผลิตทางด้านยานยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า รัฐบาลเพิ่งจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไปเมื่อต้นปี ทำให้คนมีอำนาจการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทำให้ททท.จึงได้จัดโรดโชว์เพื่อกระตุ้นตลาดนี้

นักท่องเที่ยวโปแลนด์มักเดินทางในช่วงวินเทอร์ โดยเฉลี่ยแล้ว นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีระยะเวลาพำนัก ประมาณ 14 วัน และมีค่าใช้จ่าย 68,000 บาท หากเป็นครอบครัวจะเลือกแพ็คเกจแบบ All Inclusive และประเทศไทยยังเป็นเบอร์ 1 ในจุดหมายปลายทางที่แปลกใหม่ (Exotic Destination)เนื่องจากททท.ทำตลาดนี้มานาน 10 ปี รวมถึงความนิยมในมวยไทยและอาหารไทยด้วย

หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวยูเครน ก็ยังคงขยายตัว เพราะแม้จะมีปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ แต่กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อยังคงเดินทางมาเที่ยวไทย เห็นได้จากชาวยูเครนที่ไปเที่ยวไทยในช่วงของปีนี้แล้ว 33,491 คน เพิ่มขึ้น 13.69% ซึ่งอาจจะถึง 50,000 คนได้ในปีนี้ โดยทัศนคติของคนยุโรปตะวันออกต่อประเทศไทย ดีมากและเป็นบวก โดยมีความรู้สึกเป็นมิตรและต้อนรับคนไทย (Friendly and welcome)

แต่ปัญหาของยุโรปตะวันออก คือ พื้นที่นี้ยังไม่มีเที่ยวบินตรงไปไทย การเดินทางเข้าไทย เกือบ 80 % ต้องเดินทางไปต่อเครื่องบินผ่านฮับของสายการบินตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่นๆยุโรป อาทิ ดูไบ ตุรกี เวียนนา แฟรงก์เฟิร์ต เป็นหลัก และการผลักดันให้มีการเปิดบินตรง ก็ติดปัญหาเรื่องเครื่องบินที่มีไม่เพียงพอหลังเกิดโควิด ดังนั้นในช่วงตารางบินฤดูหนาวนี้ ที่จะเริ่มเดือนต.ค.นี้

ดังนั้นททท.จึงเข้าไปสนับสนุนเครื่องบินเช่าเหมาลำ โดยมีเที่ยวบินจากโปแลนด์, เช็ก และสโลวาเกีย ลงที่กรุงเทพฯ, ภูเก็ต กระบี่ และ ร่วมกับ บริษัท เรนโบว์ ของโปแลนด์ จัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำเข้าไทย เพิ่มที่นั่งอีก 7,000 ที่นั่ง และขยายเวลาให้บริการถึงเดือนเม.ย.ปีหน้า

ทำให้ขายต่อเนื่องไปถึงช่วงสงกรานต์ได้ และปีนี้มีการเพิ่มเส้นทางบินเช่าเหมาลำใหม่ 2 เส้นทางจากโปแลนด์ คือ เมืองพอซแนน-กรุงเทพฯ และเมืองคาโตวิเซ-ภูเก็ต จากจำนวนเที่ยวบินจากยุโรปตะวันออกที่เข้าไทย รวมประมาณ 70,000 ที่นั่ง เป็นการเพิ่มที่กรุงเทพฯ 35% และเพิ่มภูเก็ต 48%

ส่วนตลาดเช็ก สโลวาเกีย โรมาเนีย ฮังการี บัลแกเรีย จะเน้นส่งเสริมการขายร่วมกับทราเวล เอเย่นต์ และการทำตลาดเข้าถึง Consumer ผ่านโซเชียลมีเดีย และ Influencer โดยตลาดหลัก จะเน้นตลาดครอบครัว ตลาดกอล์ฟ และดำน้ำ ซึ่งจะขยายต่อไปยังเกาะเต่า เกาะพะงัน

อีกทั้งในโอกาส ททท. สำนักงานกรุงปราก (เช็ก) ครบรอบ 10 ปี ททท. มีแผนจะจัดงาน Thai Street Fest ในช่วงฤดูร้อน (ประมาณสิงหาคม) เพื่อสร้างการรับรู้และนำเสนอวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะอาหาร ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนท้องถิ่น

ยุโรปใต้ตั้งเป้าดึง 7 ตลาดรวม 1 ล้านคน

นางสาวนันทาศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการททท. สำนักงานโรม เผยว่า ททท.สำนักงานกรุงโรม ดูแลพื้นที่ตลาดยุโรปใต้ 7 ประเทศ ได้แก่ อิตาลี, สเปน, โปรตุเกส, อิสราเอล, กรีซ,ตุรกี และไซปรัส กำลังมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเห็นว่านักท่องเที่ยวสเปน อิตาลี อิสราเอล เดินทางเข้าไทยเพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าในปีนี้ 7 ตลาดรวมกันจะดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยได้ถึง 1 ล้านคน

นันทาศิริ รณศิริ

กลยุทธสำคัญ คือ Airline Focus เพื่อจูงใจสายการบินในการเปิดเส้นทางบินเข้าไทย เช่น ตลาดนักท่องเที่ยวสเปน ก็ได้ร่วมกับ Iberojet ที่เปิดบินตรงเข้ากรุงเทพฯ เริ่มต้นจาก 1 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเพิ่มเป็น 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์แล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวสเปน มักจะหนีความวุ่นวาย โดยเดินทางจากกรุงเทพฯเดินทางต่อไปยังกระบี่ หรือเดินทางไปภาคเหนือ และททท.อยู่ระหว่างการขยายโปรแกรมท่องเที่ยวลงไปยังพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง เพิ่มเติม เช่น นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ด้วย

ตลาดอิสราเอล ก็จะมีสายการบิน Arkia เปิดบินจากเทลอาวีฟเข้าไทยในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ส่วนตลาดอิตาลี นอกจากจะมี ITA Airways เปิดบินจากอิตาลีเข้าไทย ททท.ยังร่วมมือกับค่ายมวย จัดแพ็คเกจขายมวยไทย มาฝึกซ้อมตามค่ายมวย “Spirit of Thailand Fight” เพื่อเอาคนชนะไปขึ้นเวทีที่ราชดำเนินหรือลุมพินี เพราะเป็นความใฝ่ฝันของเขา

ขณะที่ตลาดตุรกี จัดว่าเป็นตลาดดาวรุ่ง เติบโตถึง 23% ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 เนื่องจากมีเที่ยวบินตรงเข้าไทย ทั้งจากสายการบิน Turkish Airlines มีเที่ยวบินเข้ากรุงเทพฯ ถึง 17 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเข้าภูเก็ตอีก 3 เที่ยวบิน โดยมีอัตราบรรทุกผู้โดยสาร สูงถึง 90%

รวมถึงการเปิดบินของการบินไทยเข้าตรุกี นอกจากนี้มีเรื่องของวีซ่าฟรี ทำให้เป็นตลาดที่มีโอกาสขยายได้อีก ซึ่งททท.จะเน้นเจาะกลุ่มตลาดไฮเอนด์เป็นหลัก โดยตั้งเป้าตลาดนี้ 120,000 คนภายในสิ้นปี 2568

นอกจากนี้ททท.ยังเน้นการเจาะกลุ่มนิซ มาร์เก็ต ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มสปอร์ต ที่ค่อนข้างมาแรงในตลาดยุโรปใต้ โดยเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา โดยมีการสื่อสารเพื่อเจาะกลุ่ม Football Lover, Golf Lover, Volleyball Lover, มวยไทย Lover, และ “Marathon Lover เพื่อสร้างพื้นที่สื่อและทำให้มีการพูดถึงประเทศไทยในวงกว้างการเจาะกลุ่ม LGBT

เนื่องจากประเทศไทยเป็นมิตร (Friendly) ต่อกลุ่ม LGBT จึงเจาะกลุ่มนี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะตลาดอิสราเอล สเปน และอิตาลี เพื่อวางตำแหน่งประเทศไทยให้เป็น Friendly Destination สำหรับ LGBT

การเจาะกลุ่ม Digital Nomads และ Start up อาทิ เกาะพะงันมีความโดดเด่นในเรื่องของกลุ่ม Nomad โดยเฉพาะตลาดอิสราเอล เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับ ทั้ง Wifi และ Coworking Space ซึ่งททท.ก็จะขยายไปยังตลาดอื่นๆ ด้วย และการผนวกบริการเสริมเพื่อเพิ่มการใช้จ่าย (Spending) โดยหารือกับทัวร์โอเปอเรเตอร์ เพื่อเพิ่มบริการด้าน Wellness เช่น การดีท็อกซ์ หรือการดิฟวิตามิน ซึ่งไม่ใช่บริการทางการแพทย์ เพื่อเสนอขายในแพ็คเกจเพื่อเจาะตลาดยุโรปใต้ด้วย

ทั้งหมดล้วนเป็นกลยุทธในการกระตุ้นตลาดยุโรป ที่ยังคงหัวหอกหลักในการเติบโต สวนทางกลับการหดตัวของตลาดระยะใกล้ที่เกิดขึ้น

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,134 วันที่ 25 - 27 กันยายน พ.ศ. 2568