จากกรณีนางแบบสาวชาว เบลารุส วัย 26 ปี ถูกหลอกมาเป็นนางแบบใน กรุงเทพฯ ประเทศไทย ก่อนถูกลวงพาข้ามชายแดนไปเมียนมา บังคับทำงาน ศูนย์สแกมเมอร์ ไม่ทำยอด
สุดท้ายถูกขายให้ แก๊งค้าอวัยวะ ทรมานเสียชีวิต เผาศพทำลายหลักฐาน แถมครอบครัวถูกเรียกค่าไถ่เรื่องศพซ้ำ โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา และเริ่มมีการรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างๆเพิ่มขึ้น รวมถึงในโลกออนไลน์
ล่าสุดนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่าททท.กังวลกลัว โลกออนไลน์ขยายผลต่อทำให้ นักท่องเที่ยวทั่วโลกเกิดความไม่มั่นใจ เรื่องนี้ได้ ให้ สำนักงาน ททท. มอสโกว เร่ง ประเมิน ททท. สำนักงานมอสโก
รายงานในเบื้องต้น พบว่ามีการรายงานข่าวดังกล่าวนี้เมื่อช่วง 2-3 วันก่อน ในข่าวพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอธิบายว่านางแบบคน
ดังกล่าวมิใช่นักท่องเที่ยว แต่มีความต้องการหางาน/ ทำงานต่างประเทศ และเคยมีประสบการณ์ทำงานที่จีนแล้ว
หลังจากข่าวเผยแพร่ไม่พบว่าการจอง หรือการขายลดลงโดยเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าว แต่ได้ให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวไม่ให้ติดต่อกับคนที่ไม่คุ้นเคยระหว่างเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ และแนะนำให้แจ้งตำรวจหรือสถานทูตหากมีเหตุน่าสงสัยเกิดขึ้น
ทั้งนี้ททท. จะติดตามในแง่มุม Social Media และรายงานอีกครั้ง นางฐาปนีย์ กล่าวทิ้งท้าย
เหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้ ระบุว่า “เวรา คราฟต์โซวา” หญิงสาวชาว เบลารุส วัย 26 ปี ซึ่งมีถิ่นฐานอยู่ในเมืองมินสก์ ถูกหลอกและพบจุดจบสุดสลดที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทย
รายงานระบุว่า เวรา ได้เดินทางมายัง กรุงเทพฯประเทศไทย ในเดือนกันยายน โดยมีเป้าหมายเพื่อทำงานเป็น นางแบบ แต่หลังจากมาถึง เธอกลับถูกหลอกพาข้ามชายแดนไปยังประเทศเมียนมา โดยหนังสือเดินทางและโทรศัพท์มือถือถูกยึดทั้งหมด ก่อนถูกส่งตัวไปยัง ศูนย์สแกมเมอร์ และถูก บังคับให้ทำงาน หลอกลวงรีดไถเงินจากชายต่างชาติที่มีฐานะ โดยการลงทะเบียนบัญชีปลอมในเว็บไซต์หาคู่
มาเมื่อเวรา ไม่สามารถทำยอดตามเป้าหมายของทางแก๊งสแกมเมอร์ได้ จึงถูก ทำร้ายอย่างรุนแรง ก่อนขาดการติดต่อไปในวันที่ 4 ตุลาคม และมีรายงานว่า เธอถูก ขายต่อให้กับแก๊งค้าอวัยวะ และถูกทรมานจนเสียชีวิตในที่สุด โดยอวัยวะของเธอถูกนำไปขาย ส่วนศพที่เหลือถูก เผาทำลายหลักฐานทิ้ง
ขณะเดียวกัน แก๊งสแกมเมอร์ ยังได้ติดต่อรีดไถเงินจากครอบครัวของเวรา เป็นจำนวนสูงถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 16 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการนำศพส่งคืน และจะให้ความร่วมมือในการสืบสวน แต่ต่อมากลับปฏิเสธ แม่ของเวรา จึงพยายามโน้มน้าวขอให้อีกฝ่ายมอบอัฐิของลูกสาวให้แทน และตั้งใจจะเดินทางไป เมียนมา ด้วยตนเองเพื่อจัดการงานศพ
ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศเบลารุส ยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนทางการทูตที่จำเป็น เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของเวรา ในการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ อย่างราบรื่นต่อไป