นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ได้ประเมินภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยว การเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเนื่องใน “วันนวมินทรมหาราช” ระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม ปี 2568 คาดว่า บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางภายในประเทศเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ททท. คาดว่า จะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 2.71 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 2 % สร้างรายได้หมุนเวียนประมาณ 11,940 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีที่ผ่านมา และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของสถานพักแรมอยู่ที่ 69 % แบ่งเป็นอัตราการเข้าพักเฉลี่ยที่เกิดจากนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 42 %
สำหรับภูมิภาคที่มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้ามากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ภาคกลาง 658,200 คน-ครั้ง รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 581,800 คน-ครั้ง และภาคตะวันออก 524,900 คน-ครั้ง ส่วนภูมิภาคที่มีรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ กรุงเทพมหานคร 2,780 ล้านบาท รองลงมาคือ ภาคตะวันออก 2,470 ล้านบาท และภาคใต้ 2,290 ล้านบาท
โดย 5 อันดับเมืองหลักที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่มากที่สุด ได้แก่
พฤติกรรมการเดินทางในช่วงวันหยุด จะเป็นการเดินทางระยะใกล้ เพื่อพาครอบครัวไปไหว้พระทำบุญ ช่วงวันออกพรรษาและถวายเป็นพระราชกุศลแด่รัชกาลที่ 9 เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต
นอกจากนี้ คาดว่าจะมีการเดินทางข้ามภาคเพิ่มขึ้น ทั้งจากกลุ่มครอบครัวที่ลูกหลานอยู่ในช่วงปิดภาคเรียน ส่วนหนึ่งมาจากแรงหนุนจากมาตรการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ที่มีการใช้สิทธิ์จองโรงแรม/ที่พักในจังหวัดนอกภาคภูมิที่ตนอาศัย ซึ่งมีสัดส่วนถึง 63% ผนวกกับกลุ่มท่องเที่ยวสายบุญสายศรัทธา
เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลทอดกฐิน พุทธศาสนิกชนนิยมเดินทางไปทอดกฐินตามวัดต่างๆ ที่ตนนับถือและศรัทธากันเป็นหมู่คณะ และมักมีการต่อยอดการเดินทาง ไปท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่
ปัจจัยสนับสนุน
โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ช่วยกระตุ้นบรรยากาศการเดินทางเที่ยวภายในประเทศในช่วงวันหยุดนี้ ให้กลับมาคึกคักทั้งในเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว โดยในช่วงวันที่ 10-12 ตุลาคม พบว่ามีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ จองโรงแรม/ที่พักจำนวน 24,958 สิทธิ์ โดยเป็นการจองที่พักในเมืองหลัก 11,800 สิทธิ์ คิดเป็น 47 % และเมืองน่าเที่ยว 13,158 สิทธิ์ คิดเป็น 53 % (ข้อมูลโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ณ วันที่ 15 กันยายน 2568
การจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติและบำเพ็ญกุศล เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 อาทิ พิธีถวายราชสักการะ วางพวงมาลา พิธีทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ฯลฯ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางเข้าพื้นที่ เพื่อเข้าร่วมถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ
มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวค่อนข้างหลากหลาย ทั้งที่จัดโดย ททท. และพันธมิตรในพื้นที่ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมตามความสนใจของนักท่องเที่ยว เช่น
เทศกาลอาหาร อาทิ เทศกาลอาหารและดนตรี เหนื้อ เหนือ "กินเหนือ ครั้งที่ 5" จ.เชียงใหม่ (8-13 ต.ค.68) งาน “TEA DELIGHT – The First Edition” จ.เชียงใหม่ (11-13 ต.ค.68) งานมหกรรมอาหารฮาลาล “น่าอ้ำ ฮาลาล” จ.พระนครศรีอยุธยา (8-14 ต.ค.68) หมีทะเลมาเสิร์ฟ EP#4 X Central Pattaya จ.ชลบุรี (10-15 ต.ค.68)
งานดนตรี กีฬา และนันทนาการ อาทิ คอนเสิร์ตศิลปินระดับโลกอย่าง Mariah Carey: The Celebration of MIMI - Live In Bangkok เมืองทองธานี นนทบุรี (11 ต.ค.68) งานวิ่งเทรลและมินิมาราธอนท่ามกลางธรรมชาติ เช่น สกาดซีนิคเทรล- SAKAD SCENIC TRAIL 2025 จ.น่าน (12 ต.ค.68) Sukhothai Marathon จ.สุโขทัย (12 ต.ค.68) Paktaitoday mini marathon @Phang Nga 2025 จ.พังงา (12 ต.ค.68) 20 ปี FTE ก้าวแห่งความผูกพัน-RUN for Future” จ.ภูเก็ต (12 ต.ค.68) งาน Krabi Bike Week (10-11 ต.ค.68) และ Street Art King Bhumibol at Chumphon จ.ชุมพร (1-13 ต.ค.68)
เทศกาล งานประเพณี ความเชื่อ ศาสนา และศิลปวัฒนธรรม อาทิ งานคำชะโนดโลก ครั้งที่ 1 อุดรธานี (8-12 ต.ค.68) ประเพณีชักพระ-ทอดผ้าป่าและแข่งขันเรือยาว จ.สุราษฏร์ธานี (4-12 ต.ค.68) งานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์และงานกาชาดจังหวัดสมุทรปราการ ประจำปี 2568 (12-23 ต.ค.68) งานฉลองเจดีย์วัดไร่ขิง 103 ปีชาตกาล ปี 2568 จ.นครปฐม (4-12 ต.ค.68) งานประเพณีวิ่งควาย อ.ปลวกแดง จ.ระยอง (3-12 ต.ค.68)
ปัจจัยอุปสรรค
ค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า ดัชนีความเหมาะสมในการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว มีการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 7 เดือน นับจากเดือน ม.ค. ที่มีค่าดัชนีอยู่ในระดับ 90.6 เหลือเพียง 71.3 ในเดือน ส.ค. 68 สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและความไม่มั่นคงทางรายได้ ส่งผลให้คนไทยระมัดระวังและใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น
การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของคนไทย วันหยุดยาวในเดือนตุลาคมถือเป็นอีกหนึ่งช่วงที่คนไทยนิยมเดินทางไปต่างประเทศมาก เนื่องจากเป็นช่วงปิดภาคเรียนของกลุ่มครอบครัว และการใช้วันลาพักร้อนใกล้สิ้นปีของกลุ่มวัยทำงาน ซึ่งจากสถิติคนไทยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรรายวัน (สตม.) พบว่า ในปี 2567 มีจำนวนคนไทยเดินทางออกในช่วงวันหยุดนี้เฉลี่ยวันละ 52,000 คน และคาดว่าในปีนี้น่าจะมีคนไทยเดินทางออกเพิ่มขึ้น
เนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาท โดยส่วนใหญ่นิยมท่องเที่ยวในประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออก เช่น เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไต้หวัน และมาเลเซีย (แผนการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ไตรมาส4/2568, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)
สภาพอากาศยังมีความแปรปรวน เนื่องจากอยู่ในช่วงปลายฤดูฝน มีโอกาสที่จะมีพายุและมรสุมโดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ อาจเกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก
ปัญหาความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี และสระแก้ว ยังคงมีการปะทะกันอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์และฟื้นฟูความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว