นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแคปปิตอล เอ บริษัทแม่ของแอร์เอเชีย เปิดเผยกับสำนักข่าวเบอร์นามา ว่า แอร์เอเชียกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อจัดตั้งสายการบิน ภายใต้แบรนด์แอร์เอเชียในเวียดนาม แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ
'ความพยายามผลักดันการมี AOC (Air Operator Certificate) ในเวียดนามมีมาตั้งแต่ปี 2548 และยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญ เพราะเวียดนามถือเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในอาเซียน ในฐานะสายการบินของภูมิภาคอาเซียน มันสมเหตุสมผลที่เราต้องมีธุรกิจในประเทศที่มีศักยภาพสูงเช่นนี้ พร้อมยืนยันว่ากำลังเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่น แต่ยังไม่สิ้นสุด' นายเฟอร์นานเดส กล่าว
นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างการหารือเบื้องต้นเกี่ยวกับการขยายสู่ สปป.ลาว และบรูไน แต่ยังไม่มีแผนสำหรับเมียนมาและสิงคโปร์ โดยเขายอมรับว่า ได้ยกเลิกความพยายามเข้าสู่ตลาดสิงคโปร์แล้ว
ปัจจุบัน แอร์เอเชียมีสายการบินร่วมทุนในหลายประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และล่าสุดกัมพูชา
สำหรับการขยายฝูงบินของแอร์เอเชีย นายเฟอร์นานเดส กล่าวกับนิตยสาร Skift ว่า แอร์เอเชียอยู่ระหว่างเจรจาขั้นสุดท้ายเพื่อสั่งซื้อเครื่องบินเจ็ทภูมิภาคจำนวนราว 100 ลำ โดยกำลังพิจารณาระหว่างแอร์บัส A220 และ Embraer E2 ซึ่งมีขนาดที่นั่ง 145–160 ที่นั่ง
เครื่องบินขนาดกลาง เหมาะกับการสร้างเครือข่ายเชื่อมต่อเส้นทางบินสั้น คล้ายโมเดลในสหรัฐฯ และจะช่วยให้แอร์เอเชียสามารถเปิดเส้นทางใหม่ๆ สู่เมืองรองได้มากขึ้น ต่างจากเครื่องบินขนาดใหญ่ 240 ที่นั่งที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามเขายอมรับว่าการเพิ่มเครื่องบินอีกประเภทจะทำให้ต้นทุนซับซ้อนขึ้น แต่เชื่อว่าจะสามารถบริหารได้ โดยชี้ว่าตลาดเชื่อมต่อมีความคุ้มค่าและน่าลงทุน
ก่อนหน้านี้ แอร์เอเชียเพิ่งสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A321XLR ถึง 70 ลำ เพื่อเสริมศักยภาพในเส้นทางบินระดับกลางถึงไกล ขณะที่การเร่งปิดดีลเครื่องบินเจ็ทภูมิภาคครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของกลยุทธ์การขยายเครือข่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)