วันนี้(วันที่ 3 กันยายน 2568) สำนักข่าว BBC รายงานว่า สนามบินมิวนิกของเยอรมนี แถลงเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (3 ก.ย.) ว่า โดรนหลายลำที่บินเข้าใกล้สนามบินช่วงเย็นวานนี้ (2 ก.ย.) ทำให้ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศต้องระงับการให้บริการ
สนามบินนานาชาติมิวนิก ประเทศเยอรมนี ต้องปิดให้บริการชั่วคราวและประกาศยกเลิกเที่ยวบินกว่า 30 เที่ยวบิน เมื่อคืนวันพฤหัสบดี หลังพบโดรนปริศนาลอยเข้ามาใกล้น่านฟ้า กระทบผู้โดยสารเกือบ 3,000 คน
เที่ยวบินถูกยกเลิก 17 เที่ยวบิน ขณะที่เที่ยวบินขาเข้าอีก 15 เที่ยวบิน ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังเมืองสตุทท์การ์ดต นูเรมเบิร์ก และแฟรงก์เฟิร์ตของเยอรมนี ขณะที่บางเที่ยวบินไปลงที่กรุงเวียนนา ของออสเตรีย
ทั้งนี้ถือเป็นการหยุดชะงักการบินของยุโรปครั้งล่าสุดจากการพบโดรนบินรุกล้ำน่านฟ้า หลังจากสนามบินในเดนมาร์กและนอร์เวย์ต้องปิดทำการชั่วคราวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินสั่งระงับเที่ยวบินขาออกทั้งหมดทันที และเร่งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกลางเพื่อสอบสวนต้นตอและที่มาของโดรนดังกล่าว
ด้านโฆษกตำรวจกลาง สเตฟาน ไบเออร์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่าขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลากลางคืน ทำให้ยังไม่สามารถยืนยันประเภท ขนาด หรือที่มาของโดรนได้แน่ชัด โดยโดรนถูกพบครั้งแรกเวลา 21.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และถูกพบอีกครั้งหนึ่งชั่วโมงต่อมา จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการยืนยันว่าผู้ใดอยู่เบื้องหลัง
ขณะที่สนามบินมิวนิกเปิดเผยว่า มีการจัดเตียงสนาม ผ้าห่ม น้ำดื่ม และอาหารว่างให้ผู้โดยสารหลายพันคนที่ติดค้างภายในอาคารผู้โดยสารตลอดทั้งคืน
ความวุ่นวายครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่นครมิวนิกกำลังจัดงาน เทศกาลเบียร์ "Oktoberfest" ซึ่งถือเป็นเทศกาลใหญ่ระดับโลก มีนักท่องเที่ยวกว่า 6 ล้านคนเข้าร่วมในแต่ละปี โดยเทศกาลจะสิ้นสุดในวันที่ 5 ตุลาคมนี้
เหตุการณ์ที่สนามบินมิวนิกเป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวล่าสุดที่หลายประเทศในยุโรปต้องเผชิญกับโดรนปริศนาใกล้สนามบินและพื้นที่ทหาร ก่อนหน้านี้ สนามบินในโคเปนเฮเกนและออสโลก็ต้องปิดให้บริการชั่วคราวเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ มีกรณีที่ โดรนรัสเซีย 20 ลำ รุกล้ำน่านฟ้าโปแลนด์ และเครื่องบินรบ MiG-31 ของรัสเซียถูกกล่าวหาว่าเข้าสู่น่านฟ้าเอสโตเนีย แม้รัสเซียจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ถึงกับหัวเราะเยาะข้อกล่าวหาว่าเขาเป็นผู้สั่งการโจมตีโดรนต่อเดนมาร์ก
การพบเห็นโดรนรุกล้ำน่านฟ้าทั่วสหภาพยุโรป ทำให้ยุโรปต้องจัดการประชุมสุดยอดผู้นำที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์กในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเรื่องการสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซีย และการเสริมสร้างความมั่นคงของยุโรป
ยุโรปอยู่ในภาวะเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากพบเห็นโดรนรุกล้ำน่านฟ้าหลายครั้ง รวมถึงกรณีที่โปแลนด์และโรมาเนีย ก็ถูกโดรนของรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าก่อนหน้านี้ด้วย ขณะที่เครื่องบินขับไล่ของรัสเซียก็ละเมิดน่านฟ้าของเอสโตเนียด้วย