ผู้ว่าททท.ระบุว่าประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอีเวนต์ระดับโลกอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการยืนยันการจัดเทศกาลดนตรี EDM ระดับตำนาน Tomorrowland ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในเอเชีย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Amazing Thailand Grand Tourism and Sport Year และ Ignite Thailand ซึ่งมีเป้าหมายในการผลักดันประเทศไทยให้เป็น World Class Event Hub
Tomorrowland คือ เทศกาล EDM ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งมีต้นกำเนิดและจัดงานหลักที่ เบลเยียม มาเป็น 10ปีแล้ว และจัดได้ดีมากๆ นอกจากนี้ยังเคยจัดที่ อเมริกา บราซิล และยังจัดที่ ฝรั่งเศส ในช่วงฤดูหนาว สำหรับที่เบลเยียมจะจัดในเดือนกรกฎาคม การที่เขาเลือกจัดในไทย ถือเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยม
โดยในแต่ละครั้งจะมีผู้เข้าร่วมจากกว่า 200 ประเทศ การนำ Tomorrowland มาจัดในประเทศไทย ถือเป็นการสร้าง Festival Economy ที่เห็นผลเป็นรูปธรรม และยังสอดคล้องกับการนำเสนอจุดแข็งของ Soft Power ของไทย หรือ เสน่ห์ไทย ซึ่งจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์และอัตลักษณ์ของประเทศไทย
อีกทั้งยังดึงดูดกลุ่มแฟนคลับ และดึงดูด นักท่องเที่ยวคุณภาพสูง ที่เป็น High Spending ซึ่งมาแล้วพร้อมจ่ายทันที นอกจากนี้ ยังเป็นการเชื่อมโยง เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่มีดนตรี เทคโนโลยี และการท่องเที่ยวที่ชัดเจนมาก และงานนี้ยังเป็นลักษณะของ Cultural Diplomacy คือการทูตที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมผ่านความสุขด้านดนตรี ซึ่งจะนำความสุขมาสู่ผู้คน และจะทำให้ประเทศไทยเป็น ต้นแบบของ Green Festival
ทั้งนี้ที่ผ่านมา Tomorrowland ให้ความสำคัญกับการเลือกพื้นที่เป็นหลัก เนื่องจากหลายประเทศพยายามทาบทามให้เขาไปจัดงาน ซึ่ง Tomorrowland ถือเป็นองค์กรที่ทำเพื่อสังคมและชุมชนด้วย เป็นเหมือน Tomorrowland Foundation
ดังนั้น ทุกที่ที่พวกเขาไปจัดงานต้องมีความพร้อมสูง เพราะมีแฟนคลับที่เป็นกลุ่ม High Spending ซึ่งเขาเลือกจัดงานที่ “Wisdom Valley” พัทยา จังหวัดชลบุรี โดย Tomorrowland พิจารณาจากความพร้อมของพื้นที่เป็นหลัก เนื่องจากเป็นองค์กรที่ทำเพื่อสังคมและชุมชน มีแฟนคลับที่เป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง พื้นที่จัดงานต้องรองรับ Main Stage , Festival Zone รวมถึงพื้นที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ
เหตุผลสำคัญที่ Tomorrowland เลือกจัดงานในพื้นที่นี้ เนื่องจากการคมนาคมสะดวก ใกล้สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา, สุวรรณภูมิ และดอนเมือง มีทางหลวงเชื่อมพัทยากับกรุงเทพฯ รวมถึงเขาทราบเรื่องการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะมีโครงการรถไฟความเร็วสูงในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับแผนการจัดงานของ Tomorrowland ระยะยาว 5 ปี
ทั้งยังมีห้องพักครอบคลุมทุกระดับ ในชลบุรี พัทยา และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ระยอง จันทบุรี ตราด มีห้องพักรวมกันไม่ต่ำกว่า 60,000 ห้อง มีโรงพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน JCI ซึ่งรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ ภายในระยะเวลาประมาณ 30 นาท และระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า น้ำ และระบบสื่อสาร สามารถรองรับการจัดงานขนาดใหญ่ได้ โดยเฉพาะชลบุรีที่กำลังพัฒนา 5G
ทั้งนี้หลังจากนี้ครม.เดิมได้อนุมัติงบสนับสนุนให้ททท.สนับสนุนการจัดงานแล้ว ภายใต้กรอบวงงบประมาณกว่า 2 พันล้านบาท เป็นเวลา 5 ปี
ต่อไปททท.จะลงนามในบันทึกแสดงเจตจำนง (LOI) กับ Tomorrowland International ซึ่งเป็นบริษัทแม่โดยตรง เพื่อยืนยันการจัดงาน 5 ปี โดยการลงทุนจัดเทศกาลดนตรี Tomorrowland มีค่าใช้จ่ายในการจัดงานอยู่ที่ราว 8,800 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายหลักในการจัดงาน เช่น ค่าศิลปิน ค่าการตลาด และค่าผลิตเวที
การลงทุนเป็นของเอกชนเป็นส่วนใหญ่ เป็นส่วนที่รัฐสนับสนุน 2,000 ล้านบาท และสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นหลัก และในการจัดงานครั้งนี้จะมีการบูรณาการวัฒนธรรมไทย Soft Power หัตถศิลป์ไทย ศิลปะไทย อาหารไทย เข้ากับแนวคิดของงาน เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของ “Tomorrowland Thailand” ให้ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก
โดยทาง Tomorrowland ก็มีการแต่งตั้งพันธมิตรในประเทศนั้นๆ เพื่อมาดำเนินงาน ซึ่งการจัดในไทย เขาก็เลือก บริษัท วัน เอเชีย เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเคยมีประสบการณ์ในการจัดงาน Creamfield และ Siam Songkran มาก่อน ซึ่งเอกชนก็จะมีรายได้จากการจำหน่ายบัตรและแพ็คเกจต่างๆ บัตรหลายประเภท ทั้ง บัตร 3 วัน, 1 วัน, และ 2 วัน ผู้ที่มาเข้าร่วมส่วนใหญ่มักจะต้องการมาทั้ง 3 วัน
เนื่องจากงานจัดศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และมีหลายเวทีราคาบัตรยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่า แพงมาก และบางแพ็คเกจในเบลเยียมอาจมีราคาสูงถึงหลักแสน หรือเต็นท์หรูบางเต็นท์มีราคาเป็นล้านบาท นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสให้ผู้จัดงาน หรือ ออแกไนเซอร์ในประเทศไทยได้ทำงานในระดับนานาชาติอีกด้วย
ทั้งนี้รูปแบบการจัดงานเทศกาลดนตรี Tomorrowland ในไทย จะจัดปีละ 1 ครั้ง ครั้งละ 3 วัน โดยในปีแรกที่จะจัด คือ ปีหน้าในช่วงเดือนธันวาคม 2569 และจัดต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี คาดการณ์เบื้องต้นว่าในปีแรกจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 50,000 คน และจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 75,000 คนในปีที่ 5 โดย 60% ของผู้เข้าร่วมในปีแรกจะเป็นชาวต่างชาติ
การที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ได้เป็นเจ้าภาพ ดังนั้นจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน และโอเชียเนียจำนวนมาก ก่อนที่จะขยายไปยังนักท่องเที่ยวยุโรป และอเมริกา
การที่รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณการลงทุนปีละ 10 ล้านยูโรในครั้งนี้ คาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมไม่ต่ำกว่า 21,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 5 ปี และการจ้างงาน Tomorrowland ให้ความสำคัญกับการสร้างงานและถ่ายทอดองค์ความรู้ โดยคาดว่าจะมีการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 8,000 อัตราต่อปี รวมแล้วกว่า 40,000 อัตราตลอด 5 ปี
พร้อมยังจะมีโครงการ Tomorrowland Academy ที่จะสอนทักษะด้านดนตรี เทคโนโลยี และการจัดอีเวนต์ให้กับคนไทย นอกจากนี้ ยังมี multiplier effect ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว และผู้จัดงานอื่น ๆ มายังประเทศไทย ทำให้เกิดการยกระดับการจัดกิจกรรม
รวมไปถึงการมีส่วนร่วมของชุมชน เน้นการใช้อุปทานจากชุมชนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ของที่ระลึก หรือบริการต่างๆ และเน้นเรื่องความยั่งยืน เพราะ Tomorrowland เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและธรรมาภิบาล โดยงานนี้เราให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเรื่อง สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
โดยมีข้อกำหนดเรื่อง Zero Waste, Carbon Neutral, พลังงานหมุนเวียน การจัดงานนี้จะช่วยให้เราได้เรียนรู้จากองค์ความรู้ของต่างประเทศ และเป็นต้นแบบของ Green Festival แห่งเอเชีย ซึ่งจะเสริมเป้าหมาย SDG (Sustainable Tourism Goal) ของททท.
การจัดงาน Tomorrowland Thailand จะเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยยกระดับประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในฐานะจุดหมายปลายทางของเทศกาลดนตรีระดับโลก และส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในระยะยาว
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,127 วันที่ 31 สิงหาคม - 3 กันยายน พ.ศ. 2568