MGM Osaka ดันยูเมะชิมะ ศูนย์กลางท่องเที่ยวโลก คมนาคมครบวงจร

01 ก.ย. 2568 | 11:44 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.ย. 2568 | 11:57 น.

“ยูเมะชิมะ” แห่งญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่กาสิโน แต่คือเมืองใหม่เชื่อมครบทุกมิติ ทั้งรถไฟฟ้าสายชูโอ ที่เปิดถึงเกาะแล้ว ต่อยอด MGM Osaka สู่ศูนย์กลางท่องเที่ยวระดับโลก

KEY

POINTS

  • มีการลงทุนพัฒนาระบบคมนาคมครบวงจรบนเกาะยูเมะชิมะ โดยมีหัวใจหลัก คือ การขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสาย Chūō และแผนเชื่อมต่อกับรถไฟสายอื่น ๆ ในอนาคต
  • พัฒนาการเดินทางทางบกด้วยการขยายถนนและสะพาน ควบคู่กับมาตรการจำกัดรถยนต์ส่วนตัวและใช้ระบบ Park & Ride เพื่อจัดการจราจร
  • เพิ่มทางเลือกการเดินทางทางน้ำด้วยเรือโดยสารและวอเตอร์ชัตเทิล เพื่อลดความแออัดและสร้างประสบการณ์ใหม่ให้นักท่องเที่ยว
  • การวางรากฐานระบบขนส่ง ที่ครอบคลุมทุกมิตินี้ เป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันให้ยูเมะชิมะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก

 

การพัฒนาภาคพื้นฐานขนส่งของ MGM Osaka เส้นเลือดใหญ่สู่เกาะ Yumeshima

เมื่อพูดถึงโครงการ MGM Osaka หรือ รีสอร์ทแบบบูรณาการ หรือ รีสอร์ทครบวงจรแห่งแรกของญี่ปุ่น สิ่งที่คนส่วนใหญ่มักให้ความสนใจคือขนาดของกาสิโน โรงแรมหรู หรือศูนย์จัดแสดงนิทรรศการยักษ์ 

แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของโปรเจกต์นี้ คือ การลงทุนและการวางแผน ระบบคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานขนส่ง ที่จะกลายเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงเกาะ Yumeshima ให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกได้จริง

"รถไฟฟ้า" หัวใจการเดินทางสู่ Yumeshima

เส้นทางที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการพัฒนา คือ การต่อขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสาย Chūō (ชูโอ) ของ Osaka Metro มาถึงเกาะ Yumeshima โดยเปิดให้บริการแล้วในเดือนมกราคม 2025 เพื่อรองรับงาน Expo 2025 และวางรากฐานสำหรับ MGM Osaka ในอนาคต 

การเดินทางจากสถานี Osaka Station มาถึงเกาะใช้เวลาเพียงประมาณ 30 นาที เท่ากับการทำให้เกาะเทียมกลางอ่าวโอซาก้าไม่ใช่ดินแดนห่างไกลอีกต่อไป

แต่เพียงแค่ Metro ไม่พอที่จะรองรับผู้คนหลายหมื่นในแต่ละวัน ทางการและเอกชนจึงผลักดันโครงการต่อขยาย Kintetsu Nara Line และรางบนดินสายใหม่ โดยตั้งเป้าว่า จะเปิดใช้งานก่อนรีสอร์ตเปิดเล็กน้อยในปี 2030 และยังมีการพูดถึงการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Keihan Railway ในอนาคต เพื่อเพิ่มมิติของการเข้าถึงจากเกียวโตและเมืองใกล้เคียง

ถนน สะพาน และ การจัดการจราจร

แม้ Yumeshima จะเป็นเกาะเทียม แต่ก็ไม่ใช่เกาะที่ถูกตัดขาดออกไป การเดินทางทางถนนอาศัยสะพานหลักอย่าง Yumemai Bridge ที่เชื่อม Maishima และ Yumeshima รวมถึงถนนวงแหวนรอบอ่าวโอซาก้า ที่เชื่อมเข้าสู่ตัวเมือง ในช่วงเตรียมงาน Expo มีการลงทุนขยายถนนและสะพานรอบเกาะเป็น 6 เลน พร้อมทางแยกต่างระดับเพื่อรองรับการจราจรขนาดใหญ่ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลท้องถิ่นเลือกใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการจราจรหนาแน่น โดยช่วงแรกของการเปิดใช้งาน จะห้ามรถส่วนตัวเข้าสู่เกาะเกือบทั้งหมด ยกเว้นพื้นที่จอดสำหรับผู้พิการที่ต้องจองล่วงหน้า ผู้ขับขี่ทั่วไปต้องใช้ระบบ Park & Ride ที่ Maishima แล้วต่อด้วย รถชัตเทิลบัส เข้าไปในพื้นที่

การเดินทางทางน้ำ-การเชื่อมต่อใหม่

ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่กลางอ่าวโอซาก้า การเดินทางทางน้ำ กลายเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่น่าสนใจ มีการเปิดเส้นทางเรือโดยสารและวอเตอร์ชัตเทิลจากท่าเรือสำคัญ เช่น Universal City มายังเกาะโดยตรง วิธีนี้ไม่เพียงช่วยลดความหนาแน่นบนถนน แต่ยังสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสู่ MGM Osaka

การเชื่อมต่อสำหรับผู้ใช้จักรยานและการเดินเท้า

แม้จะเป็นโครงการระดับหลายแสนล้านเยน แต่รายละเอียดเล็กน้อยก็ไม่ได้ถูกละเลย มีการสร้างที่จอดจักรยานทั้งฝั่ง Yumeshima และ Cosmosquare รวมถึงเส้นทางเดินและปั่นข้ามสะพาน Tsuneyoshi ที่ใช้เวลาเดินเพียง 8 นาทีจากจุดจอดถึงพื้นที่งาน

นอกจากนี้ Yumemai Bridge เองยังมีเลนสำหรับคนเดินและนักปั่นเพื่อเสริมทางเลือกการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

                              MGM Osaka ดันยูเมะชิมะ ศูนย์กลางท่องเที่ยวโลก คมนาคมครบวงจร

ความท้าทายในช่วงเปลี่ยนผ่าน

แม้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะขยายตัวมาก แต่ในช่วงแรกที่ MGM Osaka เปิดดำเนินการ โครงข่ายทางรางบางส่วน เช่น รางบนดินของ Kintetsu อาจยังไม่แล้วเสร็จเต็มรูปแบบ ทำให้การเดินทางของผู้เข้าชมหลายหมื่นคนต้องอาศัย Metro + รถบัส/แท็กซี่/เรือ เป็นหลัก การบริหารจัดการคิว การจัดจราจรที่จุดขึ้นลง และการจัดระบบชัตเทิลจะเป็นตัววัดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว

สู่อนาคตเมืองท่องเที่ยวระดับโลก

การพัฒนา Yumeshima ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างรีสอร์ทกาสิโน แต่เป็นการสร้าง “เมืองใหม่” ที่มีการเชื่อมต่อครบทุกมิติ ตั้งแต่รถไฟความเร็วสูงระดับภูมิภาค ไปจนถึงการเดินเท้า และจักรยาน 

ภาคพื้นฐานขนส่งที่ถูกวางไว้อย่างรอบด้านนี้ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ MGM Osaka ไม่ได้เป็นเพียงกาสิโนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย แต่ยังเป็นประตูเชื่อมญี่ปุ่น เข้าสู่เวทีการแข่งขันการท่องเที่ยวระดับนานาชาติอย่างแท้จริง

ที่มา: ASGAM (Asia Gaming Brief) / iGamingToday