"ตัวเลขมหัศจรรย์"กับความท้าทายของสถานบันเทิงครบวงจรในเอเชีย

13 ส.ค. 2568 | 10:35 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ส.ค. 2568 | 10:56 น.

"ตัวเลขมหัศจรรย์" คือเป้าหมายรายได้ขั้นต่ำ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งเป็นเกณฑ์ชี้วัดความสำเร็จและความอยู่รอดทางการเงินของธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร

KEY

POINTS

  • "ตัวเลขมหัศจรรย์" คือเป้าหมายรายได้ขั้นต่ำ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งเป็นเกณฑ์ชี้วัดความสำเร็จและความอยู่รอดทางการเงินของธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Integrated Resort)
  • การลอกเลียนแบบโมเดลความสำเร็จของมาเก๊าและสิงคโปร์เป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง เนื่องจากต้องอาศัยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น การสนับสนุนจากรัฐบาล ระบบนิเวศทางการเงิน และทำเลที่ตั้ง ซึ่งประเทศอื่นอาจไม่มี
  • การสร้างรายได้ให้ถึงเป้าหมายเป็นเรื่องยาก เพราะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลในการก่อสร้างและบริหารจัดการที่ซับซ้อน ทั้งยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านกฎหมาย การแข่งขัน และสภาวะตลาด

อุตสาหกรรมเกมและการท่องเที่ยวเชิงบันเทิงสมัยใหม่ การเกิดขึ้นของ “รีสอร์ทแบบครบวงจร” หรือ Integrated Resort (IR) ได้กลายเป็นโมเดลธุรกิจที่หลายประเทศในเอเชีย ใฝ่ฝันจะพัฒนา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้มหาศาลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ มาเก๊า และ สิงคโปร์ สร้างมาตรฐานและความสำเร็จจนกลายเป็นตัวอย่างที่ใคร ๆ ต่างก็อยากเลียนแบบ แต่แท้จริงแล้ว “ตัวเลขมหัศจรรย์” หรือ The Magic Number หรือ รายได้ในระดับ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงความสำเร็จของรีสอร์ทเหล่านี้ มีความซับซ้อน และไม่ใช่เรื่องง่ายที่ประเทศอื่น ๆ จะทำตามได้

“ตัวเลขมหัศจรรย์”หมายถึงอะไร? 

เดวิด บอนเน็ต (David Bonnet) สื่อผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกาสิโน ของ IAG ได้วิเคราะห์ถึงความท้าทายที่หลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย ต้องเผชิญในการจะพัฒนารีสอร์ทแบบครบวงจร (Integrated Resort-IR) ที่สามารถทำรายได้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเน้นย้ำถึงปัจจัยสำคัญที่จำเป็นต้องมี เพื่อให้ประสบความสำเร็จ โดยยกตัวอย่างจาก IR ที่ประสบความสำเร็จ โดยจำแนกเป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้

ความท้าทายในการจำลองโมเดลของมาเก๊าและสิงคโปร์

หลายประเทศพยายามที่พยายามจะจำลองโมเดลของมาเก๊า และสิงคโปร์ โดยมองว่า เป็นวิธีที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลได้ แต่ในความเป็นจริง การจำลองนี้มักประสบปัญหา เนื่องจากขาดปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ระบบนิเวศทางการเงินที่แข็งแกร่ง และ การสนับสนุนจากรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ 

เดวิด ชี้ให้เห็นว่า เพื่อให้รีสอร์ทแบบครบวงจรในระดับโลกประสบความสำเร็จในแง่รายได้ ต้องมี “ตัวเลขมหัศจรรย์” คือ รายได้ต่อปีขั้นต่ำ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท) ขึ้นไป ซึ่งเป็นระดับที่ช่วยให้รีสอร์ท สามารถครอบคลุมต้นทุนก่อสร้าง การดำเนินงาน รวมทั้งคืนทุนแก่นักลงทุนได้อย่างคุ้มค่า

ตัวเลขนี้ถือเป็น “เป้าหมายสำคัญ” ที่หลายประเทศที่อยากพัฒนาธุรกิจเกม และ รีสอร์ทครบวงจรต้องการให้บรรลุ เพราะถ้าไม่ถึงจุดนี้ รีสอร์ท จะประสบปัญหาทางการเงิน และไม่สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว

เหตุผลที่การสร้างรายได้ 1 พันล้านดอลลาร์เป็นเรื่องยาก

การสร้างรีสอร์ทครบวงจรต้องลงทุนจำนวนมากในหลายด้าน ทั้งโรงแรม, กาสิโน, ร้านอาหาร, แหล่งบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เพื่อให้สามารถดึงดูดลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง รายจ่ายหลัก ๆ คือ การก่อสร้างห้องพัก ซึ่งมีต้นทุนสูงถึง 2-3 ล้านดอลลาร์ต่อห้อง และการบริหารจัดการที่มีความซับซ้อนสูง การบริหารต้นทุนเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นกุญแจสำคัญ

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยด้านทำเลที่ตั้ง, กฎหมาย, ภาวะตลาด และการแข่งขันระดับโลกที่ต้องนำมาพิจารณา ประเทศที่ไม่มีเงื่อนไขครบถ้วนแบบเดียวกับมาเก๊าหรือสิงคโปร์ อาจพบว่า โมเดลธุรกิจนี้ไม่เหมาะสมกับบริบทของตนเอง และเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินลงทุนมหาศาล 

“มาเก๊า”ตัวอย่างความสำเร็จที่แข็งแกร่งแต่มีข้อจำกัด 

มาเก๊าเป็นรีสอร์ทครบวงจรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก โดยสามารถทำรายได้ในอุตสาหกรรมเกมสูงกว่าที่อื่น ๆ เพราะมีข้อได้เปรียบเรื่องสถานะทางกฎหมาย ที่เปิดเสรี และ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล จากจีนแผ่นดินใหญ่มาเยือน 

อย่างไรก็ตาม การที่มาเก๊าจะขยายธุรกิจออกไปได้ในระดับเดียวกับเดิมนั้น เป็นเรื่องที่ยากขึ้น เนื่องจากการแข่งขันที่สูงและการเปลี่ยนแปลงของตลาด 
 
ในปี 2556 มาเก๊าสร้างรายได้รวมจากการเล่นเกม (GGR) สูงถึง 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในจำนวนนี้ ประมาณสองในสามมาจากการเล่นแบบ VIP ซึ่งคำนวณจากอัตราการชนะทางคณิตศาสตร์ ที่ประมาณ 3% คิดเป็นมูลค่าการเดิมพันสมมติกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ 

                                 "ตัวเลขมหัศจรรย์"กับความท้าทายของสถานบันเทิงครบวงจรในเอเชีย

“สิงคโปร์”โมเดลการวางแผนที่รอบคอบ 

สิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของรีสอร์ทครบวงจร ที่ประสบความสำเร็จ ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบ และการควบคุมคุณภาพมาตรฐานสูง อย่างเช่น Marina Bay Sands ที่สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวและเกมในระดับพรีเมียม แต่การจะทำซ้ำโมเดลนี้ในประเทศอื่น ๆ ที่ขาดโครงสร้างพื้นฐานและการสนับสนุนของรัฐที่แข็งแรง อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเลย 

สิงคโปร์ดำเนินกิจการแบบผสมผสานที่เน้นความมีชื่อเสียง โดยเกมจะถูกรวมเข้ากับระบบนิเวศ ที่กว้างขึ้นของผลิตภัณฑ์หรูมากมาย ท่ามกลางเศรษฐกิจการเงินที่ขึ้นชื่อเรื่องความมั่งคั่งส่วนบุคคล 
องค์ประกอบที่ไม่ใช่เกม หรือ กาสิโนทำหน้าที่เป็นตัวกำหนดราคา เช่น ห้องพักโรงแรมระดับพรีเมียม โดยมีการเปรียบเทียบที่สอดคล้องกับการใช้จ่ายด้านเกมที่ตรวจสอบแล้ว การสร้างแบรนด์ระดับประเทศ และการวางตำแหน่งระดับโลก ซึ่งได้รับการส่งเสริมจากกิจกรรมต่างๆ เช่น การแข่งขัน Formula 1 Grand Prix ตอกย้ำภาพลักษณ์ของความพิเศษเฉพาะและอำนาจในการกำหนดราคา

ลาสเวกัส 

ลาสเวกัสเป็นตัวอย่างของตลาดที่มีลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำจำนวนมาก รูปแบบนี้ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายต่อหัวที่สูง และอัตราการเข้าพักที่แข็งแกร่ง ประกอบกับแหล่งรายได้ที่หลากหลาย ได้แก่ ธุรกิจเกม โรงแรม อาหารและเครื่องดื่ม ความบันเทิง ค้าปลีก และงานประชุมขนาดใหญ่

มาเลเซีย

แม้ว่าเก็นติ้งไฮแลนด์จะมีรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เราขอไม่รวมไว้ในการวิเคราะห์นี้ เนื่องจากความโดดเด่นของธุรกิจและทำเลที่ตั้งที่เกี่ยวข้อง โดยมีห้องพักมากกว่า 10,000 ห้อง ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง 

อย่างที่เราเห็นกันไปแล้ว อาจกล่าวได้ว่า เป็นเรื่องยากมากที่อสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาค จะเลียนแบบขนาด และเศรษฐกิจของมาเก๊า หรือแม้แต่สิงคโปร์ได้ ปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้ตลาดเหล่านี้ประสบความสำเร็จนั้นไม่ง่ายนัก และต้องใช้เงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์

ข้อคิดสำหรับประเทศอื่น ๆ ที่ต้องการพัฒนา IR 

เดวิดเน้นย้ำว่า ประเทศอื่น ๆ ที่หวังจะสร้างรีสอร์ทครบวงจรให้ประสบความสำเร็จ จะต้องไม่มองเพียงแค่การเลียนแบบโมเดลของมาเก๊า หรือ สิงคโปร์ เท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เช่น
ความเหมาะสมของทำเลที่ตั้งและโครงสร้างพื้นฐาน

การสนับสนุนจากภาครัฐในด้านกฎหมายและนโยบาย
การวางแผนการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
การวิเคราะห์ตลาดเป้าหมายและการแข่งขันอย่างรอบด้าน
การบริหารจัดการความเสี่ยงและการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลก
 
สรุปว่า การจะสร้างตัวเลขมหัศจรรย์ หรือ การสร้างรายได้ระดับ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในธุรกิจกาสิโน และ รีสอร์ท จำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการอย่างเต็มรูปแบบของอุตสาหกรรมและบริการเสริมต่าง ๆ เพื่อสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง และมีมวลวิกฤต (critical mass) ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดใจและประสิทธิภาพของตลาด เช่นเดียวกับกรณี  มาเก๊าและ สิงคโปร์ ที่มีการจัดตั้งตลาดและระบบธุรกิจที่เข้มแข็ง
 

อ้างอิง : IAG

The Magic Number Can a regional property unlock US$1 billion?