นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง และรักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่าการนัดพูดคุยกับคิงเพาเวอร์พรุ่งนี้ (วันที่ 17 มิถุนายน 2568) ช่วงบ่ายเพื่ออยากทราบความคิดเห็นครบถ้วนในเรื่องของสัญญา
พร้อมชี้บอร์ดอนุมัติว่าควรมีคณะที่ปรึกษากลั่นกรอง การเงิน กฎหมาย ธุรกิจ เพื่อให้เห็นภาพสัญญาให้ชัดเจนมากขึ้น เลือกที่ปรึกษา 2 ราย คาดว่าจะได้ที่ปรึกษาประมาณ 2 อาทิตย์ โดยมีระยะเวลาจ้างในระยะเวลา 2 เดือน จากกรอบเดิมของคิงเพาเวอร์ขีดเส้นภายใน 45 วัน
หลังจากได้รับหนังสือจากคิง เพาเวอร์ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 คณะกรรมการทอท. ได้ให้ความสำคัญและขอแนวทางการดำเนินงานจากฝ่ายบริหาร โดยทอท. จะดำเนินการเบื้องต้นโดยแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองทางเลือก ทอท. จะตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองเพื่อศึกษาปัญหาและทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร คณะกรรมการชุดนี้จะประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย การบริหารธุรกิจ และการเงิน เพื่อดูองค์ประกอบของสัญญาอย่างรอบด้านและเป็นกลาง
จ้างที่ปรึกษาภายนอก 2 รายจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ เพื่อให้การวิเคราะห์เป็นกลางและปราศจากข้อกังขา AOT มีแนวคิดที่จะจ้างที่ปรึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างน้อย 2 ราย เข้ามาช่วยวิเคราะห์สถานการณ์และผลกระทบอย่างเป็นกลาง
จัดประชุมหารือกับ คิงเพาเวอร์ อย่างเร่งด่วน ทอท. ได้นัดประชุมกับคิง เพาเวอร์ ในช่วงบ่ายของวันที่ 17 มิถุนายน 2568 เพื่อรับทราบความคิดเห็นเพิ่มเติมในรายละเอียดที่ชัดเจนขึ้นจากหนังสือที่ส่งมา และหารือถึงแนวทางการแก้ไขสัญญาให้เกิดความเป็นธรรม กระบวนการศึกษาและกลั่นกรองทั้งหมดจะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 60 วัน หรือภายในเดือนสิงหาคม 2568
นอกจากนี้นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง และรักษาการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เปิดเผยว่า การส่งหนังสือของคิง เพาเวอร์ มีเนื้อหาหลักๆ 7 ข้อ ที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของบริบททางธุรกิจและปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของสัญญาจนถึงปัจจุบัน
7 ข้อเรียกร้องจาก King Power สะท้อนบริบทธุรกิจที่เปลี่ยนไป เนื้อหาสำคัญ 7 ข้อในหนังสือทั้ง 3 ฉบับ (ซึ่งเกี่ยวข้องกับสัญญา 3 ฉบับของคิง เพาเวอร์) ได้แก่
การเจรจาครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจ เนื่องจากรายได้ของคิงเพาเวอร์มีสัดส่วนสำคัญต่อ ทอท. โดยคิดเป็น 17% ของรายได้ทั้งหมดของ ทอท. ซึ่งอยู่ที่ 63,000 ล้านบาท การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญาหรือการยกเลิกสัญญาจึงอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของ ทอท. อย่างมีนัยสำคัญ แต่นางสาวปวีณา เล่าต่อว่า ทาง ทอท. ยังมีรายได้จาก 2 ช่องทางหลักอีกกว่า 83% นอกจากนี้ผู้โดยสารทั้งหมดจำนวน 79.62 ล้านคน จากเป้าหมายเดิม 120 ล้านคน ถ้าเทียบกับปีที่แล้วเพิ่ม 16.7% จำนวนเที่ยวบิน 4.8 แสนเที่ยว เที่ยวบินเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 12.1%
ปัจจุบันได้คุยกับทางคิงเพาเวอร์เบื้องต้นว่าต้องดำเนินตามทางสัญญากันไปก่อน ปัจจุบันก็ต้องดำเนินการจากเงื่อนไขอื่น ส่วนรายอื่น ๆ ที่เป็นตัวสัญญาของ ทอท. มีเกือบ 1,000 สัญญากับรายค้าอื่น ๆ มองว่าถ้าคิงเพาเวอร์ทำได้แต่ร้านค้ารายอื่น ๆ อาจจะมีการได้พูดคุยกันไปหมดแล้วเลยไม่ได้กังวล