"เอมิเรตส์" เปิดเส้นทางบินใหม่ ดานัง-เสียมราฐ ผ่านกรุงเทพฯ หนุนไทยเป็นฮับการบิน

สายการบินเอมิเรตส์ เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์เส้นทางใหม่จากดูไบสู่ ดานัง ประเทศเวียดนาม และ เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา  เมื่อแห่งอารยธรรม โดยใช้ กรุงเทพมหานคร เป็นจุดพักเครื่องที่สำคัญ เผยมีแผนเปิดบินอีกหลายประเทศ สะท้อนถึงการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจและการท่องเที่ยวในตลาดอินโดจีนที่กำลังเติบโต 

นายนาบิล ซุลตาน รองประธานบริหารฝ่ายบริหารผู้โดยสารและการบริหารระดับประเทศ สายการบินเอมิเรตส์  กล่าว่า ความสำคัญของการเปิดเส้นทางบินใหม่ครั้งนี้ว่า "การเปิดตัวเส้นทางบิใหม่ทั้งสองเส้นทางผ่านกรุงเทพฯ ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของสายการบินเอมิเรตส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การขยายเครือข่ายเส้นทางการบินในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของเราที่มีต่อประเทศไทย ในฐานะประตูยุทธศาสตร์เพื่อเชื่อมต่อในภูมิภาคนี้"

โดยผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางอย่างไร้รอยต่อระหว่างสามจุดหมายปลายทาง ได้แก่ ดูไบ กรุงเทพฯ และดานังหรือเสียมราฐ ซึ่งคาดว่าจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า และความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสให้นักท่องเที่ยวจากยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา สามารถเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ในเวียดนามและกัมพูชาได้อย่างง่ายดายผ่านเครือข่ายของเอมิเรตส์

เอมิเรตส์จะให้บริการเที่ยวบินสู่ดานัง สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน (จันทร์ พุธ ศุกร์ อาทิตย์) สู่ซึ่งดานังถือเป็นเมืองที่สามในเวียดนามที่เอมิเรตส์เข้าถึงต่อจากฮานอยและโฮจิมินห์ซิตี้ ตารางบินถูกออกแบบให้เชื่อมต่อไปยังเมืองสำคัญในยุโรป อาทิ ลอนดอน ปารีส อัมสเตอร์ดัม ตลอดจนเมืองสำคัญในสหรัฐอเมริกา 

สำหรับเสียมราฐ สายการบินจะให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน (อังคาร พฤหัสบดี เสาร์) เช่นกัน ตารางบินถูกจัดวางให้เหมาะสมกับการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนเมืองแห่งอารยธรรม โดยสามารถเชื่อมต่อกับเที่ยวบินรายวันจากฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร สเปน เยอรมนี โปรตุเกส และรัสเซีย โดยเที่ยวบินใหม่เหล่านี้จะให้บริการด้วยเครื่องบิน โบอิ้ง 777 ซึ่งเป็นเครื่องบินลำตัวกว้าง 3 ชั้นโดยสาร โดยสารชั้นหนึ่ง (First Class) 

ทั้งนี้การตัดสินใจของเอมิเรตส์ในการใช้กรุงเทพฯ เป็นจุดเชื่อมต่อสำหรับเส้นทางบินใหม่นี้  ตอกย้ำให้เห็นถึง ศักยภาพของประเทศไทย ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลก แต่ยังเป็น เมืองแห่งการช้อปปิ้ง ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือการก้าวขึ้นสู่การเป็น "เมดิคอลฮับ (Medical Hub) ที่สำคัญ" ของภูมิภาค ที่รองรับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และการดูแลสุขภาพระดับโลก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้กรุงเทพฯ มีความเหมาะสมเป็น "ฮับการบิน" ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง

อย่างไรก็ดีปัจจุบัน เอมิเรตส์มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่งในตลาดไทย โดยให้บริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ และดูไบมากถึงวันละ 5 เที่ยวบิน ประกอบด้วยเครื่องบิน แอร์บัส A380 จำนวน 4 เที่ยวบิน และ โบอิ้ง 777 อีก 1 เที่ยวบิน นอกจากนี้ ยังมีเที่ยวบินระหว่างภูเก็ตและดูไบ วันละ 2 เที่ยวบิน และเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ และฮ่องกง วันละ 1 เที่ยวบิน  ซึ่งทั้งหมดนี้เชื่อมต่อประเทศไทยกับกว่า 140 จุดหมายปลายทางใน 6 ทวีปทั่วโลก

ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป จะเริ่มให้บริการเที่ยวบินสู่กรุงเทพฯ ด้วย เครื่องบิน แอร์บัส A380 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ด้วยการจัดระดับที่นั่งโดยสารถึง 4 ชั้น ซึ่งรวมถึงการเพิ่ม ที่นั่งชั้น Premium Economy นอกเหนือจากห้องโดยสารชั้นหนึ่ง (First Class) ชั้นธุรกิจ (Business Class) และชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ได้รับการยกระดับใหม่ทั้งหมด

ซึ่งกรุงเทพฯ จึงเป็นหนึ่งใน 8 เมืองทั่วโลกที่ได้รับบริการด้วยเครื่องบิน A380 รุ่นใหม่และ Boeing 777 ที่ได้รับการตกแต่งภายในใหม่ทั้งหมดจากเอมิเรตส์

นอกจากนี้ เมื่อมกราคม 2568 สายการบินเอมิเรตส์ได้เปิด ห้องพักรับรองพิเศษที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งนับเป็นห้องพักรับรองที่ใหญ่ที่สุดนอกเมืองดูไบ ณ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 175 ล้านบาท (ประมาณ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) มีพื้นที่รวม 1,454 ตารางเมตร

และสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 250 คน เพื่อสร้างประประสบการณ์ภาคพื้นดินที่หรูหราและสะดวกสบายสูงสุดแก่ลูกค้าพรีเมียมระหว่างรอเปลี่ยนเครื่อง ถือเป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยยังสะท้อนผ่านการลงทุนครั้งสำคัญ