นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า แผนการลงทุนโครงการ ลานนาทีค เชียงใหม่ (Lannatique)
มูลค่าการลงทุน 2.6 -3 หมื่นล้านบาท บนพื้นที่ 21 ไร่ ใจกลางเมืองเชียงใหม่ โดยแบ่งเป็น 1.โครงการที่ได้ดำเนินการลงทุนไปแล้ว และเปิดให้บริการแล้ว 2.โครงการที่อยู่ระหว่างการลงทุน และ 3. โครงการที่มีศักยภาพในการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต
โดยปัจจุบัน AWC ได้มีการลงทุนในเชียงใหม่แล้วประมาณ 12,600 ล้านบาท ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จเรียบร้อย ประกอบด้วยโรงแรม 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรม เชียงใหม่ แมริออท, โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล และโรงแรม Melia รวมถึงโครงการ พันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ เชียงใหม่
ขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินหน้าลงทุนต่อตามแผน 10 ปี (ปี 2567-2576) โดยได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการลงทุนเพิ่มเติมมูลค่า 8,502.2 ล้านบาท หากรวมกับค่าที่ดินที่ซื้อไปแล้วอีก 3,448 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าทั้งหมด 11,950.2 ล้านบาท
ทั้งนี้เพื่อพลิกโฉมย่านช้างคลานให้เป็นไลฟ์สไตล์แลนด์มาร์กระดับโลกด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปะแห่งใหม่ ภายใต้แนวคิด "The Heart of Lanna Art Movement" ที่ถ่ายทอดเรื่องราวศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของอารยธรรมล้านนาที่มีอายุกว่า 700 ปี ออกมาในรูปแบบ “หมู่บ้านศิลปะร่วมสมัย”
เชื่อมโยงมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับการสร้างสรรค์ในโลกปัจจุบันอย่างกลมกลืนผสานกับไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณภาพระดับโลก ด้วยแนวคิด Innovative and Sustainable Tourism
ทั้งนี้องค์ประกอบโครงการลานนาทีค เชียงใหม่ ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ประกอบด้วย 3 พื้นที่สำคัญ ได้แก่
ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 17,500 ตารางเมตร จัดแบ่งเป็น 3 หมู่บ้านศิลป์ คือ Thai Craftsmanship Village (หมู่บ้านศิลปะไทยและหัตถกรรม), Cultural Village (หมู่บ้านวัฒนธรรมชาติพันธุ์) และ Creative Art Village (หมู่บ้านสร้างสรรค์ศิลปะแบบใหม่) พร้อมพื้นที่ Experiential Shop ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์จากไทยผ่านประสบการณ์แบบ interactive โดยจะเปิดให้บริการเฟสแรกในปลายปี 2568
ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้า 22,500 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด Contemporary Art และรวมโครงการโรงแรมที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 25,000 ตารางเมตร
ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้า 87,000 ตารางเมตร ที่อยู่ระหว่างการศึกษาภายใต้คอนเซ็ปต์ในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืน
รวมถึงได้จับมือกับพันธมิตรระดับแนวหน้าของประเทศ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่โดดเด่นให้แก่นักท่องเที่ยว ประกอบด้วย
6ixcret Show โดยกันตภณ เนียมมณี นักออกแบบการแสดงชื่อดัง จะเปิดโรงละครภายใต้แบรนด์ STARGANZA LIVE นำเสนอการแสดง Cabaret Show ร่วมสมัยที่ผสมผสานศิลปะล้านนาท้องถิ่นในรูปแบบอิมเมอร์ซีฟ บนพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร
ร้านเอกฉันท์ โดยเชฟเอก เอกพล พิชวงค์ เชฟชื่อดังจากมิชลินไกด์ในเชียงใหม่ จะเปิดโมเดลใหม่ที่นำเสนออาหารไทยจากวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพสูง บนพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร
ทั้งยังมีโครงการ"Chiang Mai Tram by Lannatique" รถแทรมไฟฟ้าล้อยางนำเที่ยวแห่งแรกของประเทศ ที่จะเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และชุมชนท้องถิ่น รวมถึงร้านอาหาร คาเฟ่ชื่อดัง กว่า 40 แห่งตลอดเส้นทาง
อาทิ ประตูท่าแพ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตลาดวโรรส คลองแม่ข่า และโรงแรมในเครือ AWC เป็นต้น ซึ่งจะมีจุดจอดอยู่ในโครงการลานนาทีค
ทั้งนี้รถแทรมไฟฟ้าล้อยางนี้จะช่วยลดการปล่อยมลภาวะและการจราจรที่หนาแน่นในเขตเมือง โดยรายได้สุทธิจากโครงการจะนำไปสนับสนุนกิจกรรมเพื่อชุมชนยั่งยืนของจังหวัดเชียงใหม่
"การพัฒนาโครงการ "ลานนาทีค" (Lannatique) แลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางย่านช้างคลาน เมืองเชียงใหม่ มุ่งสร้างศูนย์กลางศิลปวัฒนธรรมที่ผสานอัตลักษณ์ล้านนาเข้ากับศิลปะร่วมสมัย พร้อมเชื่อมต่อการท่องเที่ยวด้วยโครงการ "Chiang Mai Tram" รถแทรมไฟฟ้าล้อยางแห่งแรกของประเทศ เตรียมเปิดให้บริการเฟสแรกไตรมาส 4 ปี 2568" นางวัลลภา กล่าว
อีกทั้ง AWC ยังได้ยกระดับศักยภาพการรองรับกลุ่มนักเดินทาง MICE (การประชุม, การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล, การประชุมนานาชาติ และนิทรรศการ) ด้วยการเปิด "Plaii Ballroom" ห้องบอลรูมระบบอิมเมอร์ซีฟแห่งแรกของโลกที่โรงแรมเชียงใหม่ แมริออท โฮเทล โดดเด่นด้วยจอ LED จากพื้นถึงเพดานครอบคลุมผนังทั้ง 4 ด้าน รองรับการจัดงานแบบ Innovative ทุกรูปแบบ
รวมไปถึงยังมีการลงทุนอื่นในพื้นที่โครงการลานนา ทีค ที่อยู่ระหว่างการลงทุน จะประกอบไปด้วยโรงแรมหลายแบรนด์ ได้แก่ โรงแรมโอกุระ ซึ่งจะเป็นโรงแรมโอกุระ เรียวกังแห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น การขยายห้องพักโรงแรมแมริออท ในส่วนของห้องสวีท การลงทุนโรงแรมแบรนด์ใหม่ที่ร่วมกับเครือ Melia เน้นกลุ่มเป้าหมายกลุ่มครอบครัว
นอกจากนี้ยังมีการลงทุนสวนน้ำเชื่อมต่อกับพื้นที่รีเทล และสนามเด็กเล่น และการลงทุนในอินเตอร์คอนติเนนตัลเฟส 2 อีกประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท รวมงบลงทุนลงทุน 2.6 หมื่นล้านบาทที่ได้มีการอนุมัติไปแล้ว
รวมไปถึง AWC ยังมีแผนการขยายการลงทุนในลานนาทีคเชียงใหม่เพิ่มเติมในระยะยาว โดยมีที่ดินในพื้นที่สำคัญหลายแปลง อาทิ อิมท่าแพ รวมถึงพื้นที่ริมแม่น้ำปิงที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นรีสอร์ท รวมถึงการนำประสบการณ์อย่าง โอกุระ ครูซ มาสร้างประสบการณ์ล่องแม่น้ำปิง และโครงการบ้านโบราณเชียงใหม่ รวมถึงพื้นที่ใกล้ตลาดอนุสารอีกด้วย
การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ AWC ในการร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยแนวคิด "Innovative and Sustainable Tourism" ที่ผสานนวัตกรรมเข้ากับการอนุรักษ์วัฒนธรรม เศรษฐกิจชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองเชียงใหม่สู่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ยั่งยืนของประเทศไทย