นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG เปิดเผยว่า บริษัทและบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท ทีม เอสคิว จำกัด และ บริษัท เอทีที คอนซัลแตนท์ จำกัด พร้อมพันธมิตรธุรกิจร่วมลงนามในสัญญาจ้างสำรวจและออกแบบโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตระยะที่ 2 กับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT หรือ ทอท. มีมูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท ในการดำเนินงานครั้งนี้ ทางบริษัทเป็น Lead Firm โดยมีสัดส่วนของบริษัทและบริษัทย่อย 44 %
ทั้งนี้โครงการสำรวจและออกแบบท่าอากาศยานภูเก็ตระยะที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานภูเก็ตให้สามารถรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 5.5 ล้านคนต่อปี ทำให้รองรับผู้โดยสารรวมทั้งหมดได้ไม่น้อยกว่า 18 ล้านคนต่อปี เพียงพอต่อปริมาณการจราจรทางอากาศ
สอดคล้องกับแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต และแผนยุทธศาสตร์ประเทศไทยในด้านต่างๆ ตามนโยบายของรัฐบาลและการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย
รวมไปถึงเป็นการพัฒนาศักยภาพของสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบสาธารณูปโภคของท่าอากาศยาน โดยการออกแบบมีเป้าหมายที่จะสร้าง First Impression ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยว
สำหรับขอบเขตการดำเนินโครงการนี้ ประกอบด้วย 3 กลุ่มงานหลัก ได้แก่
“ภูเก็ตเป็น Top 20 Destination ของโลก สนามบินภูเก็ตสามารถบินตรงระหว่างประเทศต่างๆ ได้หลายประเทศ ทั้งภูมิภาคเอเชียและยุโรป ซึ่งช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงมายังประเทศไทย
โดยอาคารที่ออกแบบนี้ เป็นอาคารสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ขยายจากอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเดิม เพื่ออำนวยความสะดวกในการรองรับผู้โดยสารที่มากขึ้น จึงเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศมากขึ้น”นายชวลิต กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับแผนขยายท่าอากาศยานภูเก็ต วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท AOT คาดประมูลก่อสร้างในกลางปี 2569 แล้วเสร็จในปี 2572 รองรับผู้โดยสารจาก 12.5 ล้านคน เป็น 18 ล้านคนต่อปี โดยจะก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มพื้นที่อีกกว่า 1.77 แสนตร.ม. และจะมีการพัฒนาที่จอดอากาศยานสำหรับเครื่องบินทะเล หรือ Seaplane ด้วย