เศรษฐา ประกาศดันท่องเที่ยว "เชียงราย" เมืองแห่งสุขภาพ

13 ก.ค. 2567 | 12:06 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.ค. 2567 | 12:12 น.

นายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” เรียกประชุมแผนพัฒนา จ.เชียงราย พร้อมยกระดับเป็นเมืองน่าเที่ยว และเมืองแห่งสุขภาพ เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปพืชผลทางการเกษตร สั่งฝ่ายความมั่นคงแก้ปัญหายาเสพติด

วันนี้ (13 กรกฎาคม 2567) ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตเชียงราย ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือ แผนพัฒนาจังหวัดเชียงราย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ได้รับฟังแผนพัฒนาจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนที่สอดคล้องกับนโยบาย IGNITE THAILAND ของรัฐบาลในด้านต่าง ๆ ที่มุ่งเป้าพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สู่อนาคตที่ยั่งยืน 

โดยในการพัฒนาให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Chiang Rai Wellness City) จังหวัดเชียงรายได้บูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จนเกิดการลงนาม MOU เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 เพื่อขับเคลื่อนเชียงรายให้เป็นเมืองแห่งสุขภาพ โดยมีประเด็นการพัฒนา 3 ด้าน ดังนี้

  1. ด้าน Wellness Food พัฒนาผลผลิตท้องถิ่นให้เป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ Wellness Food Chiang Rai Gastronomy 
  2. ด้าน Health Care การยกระดับมาตรฐานสถานประกอบการ การบริการสุขภาพและศูนย์บริการสุขภาพให้ได้มาตรฐานสากล 
  3. ด้าน Tourism การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness tourism) เช่น เส้นทางธรรมชาติ บ่อน้ำพุร้อน

 

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือ แผนพัฒนาจังหวัดเชียงราย

นายกฯ ได้กล่าวถึงศักยภาพจังหวัดเชียงรายว่าเป็นเมืองน่าเที่ยว ไม่ใช่เมืองรอง โดยจะพยายามยกระดับให้จังหวัดเชียงรายเป็น “เมืองน่าเที่ยว” โดยได้รับทราบประวัติศาสตร์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกำแพงเมือง ซึ่งความจริงแล้วเป็นเมืองหลวงแรกของประเทศไทย และมีอายุกว่า 1,000 ปี โดยมีสภาพสมบูรณ์แบบพอสมควร 

ขณะเดียวกันก็มีสนามบินที่เชียงรายแล้ว จึงขอสั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงวัฒนธรรมช่วยกันโปรโมทเรื่องนี้ด้วย เพราะที่ผ่านมายังโปรโมทน้อยอยู่ รวมทั้งให้มีการเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ถูกเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มที่สนใจทางด้านวัฒนธรรม และกลุ่มที่อนุรักษ์วัฒนธรรม

ส่วนเรื่องของสินค้าการเกษตรนั้น นายกฯ ระบุว่า จังหวัดเชียงรายมีพืชเศรษฐกิจหลักที่มีศักยภาพหลายชนิด ทั้งข้าว ชา กาแฟ ลิ้นจี่ สับปะรด เป็นต้น ซึ่งปีที่ผ่านมาราคาพืชผลทางการเกษตรอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งเรื่องของโลจิสติกส์เป็นเรื่องที่สำคัญ นอกจากนี้ จังหวัดเชียงรายยังอยู่ติดกับชายแดนประเทศเมียนมา ซึ่งมีประเด็นในหลายเรื่อง เช่น เรื่องสินค้าเถื่อนที่เข้ามา 

โดยในปีที่ผ่านมากรมศุลกากรก็ทำงานร่วมกับฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดี ทำให้สามารถสกัดกั้นสินค้าเถื่อนที่จะเข้ามาประเทศไทยได้จำนวนมาก ส่งผลให้ราคาพืชผลทางการเกษตรในประเทศไทยสูงขึ้นโดยเฉพาะราคายางพารา ทำให้รายได้ของพี่น้องประชาชนในประเทศไทยดีขึ้น 

 

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมแผนพัฒนาจังหวัดเชียงราย

ทั้งนี้ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ จากพืชผลทางการเกษตรที่มีศักยภาพของจังหวัดเชียงราย เช่น ลำไย ลิ้นจี่ และสับปะรด ฯลฯ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเหล่านั้นด้วย

พร้อมรับฟังรายงานสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังผาเมือง โดยได้มีการเพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้นปราบปรามป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ 24 อำเภอชายแดน โดยแผนการปฏิบัติในการสกัดกั้นปราบปราม แบ่งเป็น 

  • พื้นที่นอกชายแดนในประเทศเพื่อนบ้านเป็นการประสานการปฏิบัติและแลกเปลี่ยนข่าวสาร พื้นที่จากแนวชายแดนเข้ามาในประเทศ 
  • พื้นที่ระยะ 5-10 กิโลเมตรจะใช้มาตรการสกัดกั้นอย่างเข้มข้น
  • พื้นที่พ้นระยะ 5-10 กิโลเมตรจากแนวชายแดนเข้ามาจะใช้มาตรการปราบปรามเป็นหลัก
  • พื้นที่หลังแนวอำเภอชายแดนลงมา จากแนวชายแดนเข้ามา จะใช้การประสานงานกับ ตร.บช.ปส. กอ.รมน. จังหวัดบูรณาการร่วมกัน เป็นต้น

นายกฯ ได้ย้ำถึงเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงได้มีการนำเสนอเกี่ยวกับการสกัดกั้นตามชายแดนก็เป็นเรื่องสำคัญ เช่น กรณีที่มีการจับยาบ้าได้เพิ่มเป็น 3 เท่า รวมทั้งเฮโรอีนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงขอฝากทีมงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานไปยังทูตสหรัฐอเมริกาด้วย เพราะต้องอาศัยความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกา

 

นายกฯ เป็นประธานการประชุมหารือ แผนพัฒนาจังหวัดเชียงราย