วันนี้ (13 กรกฎาคม 2567) ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตเชียงราย ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือ แผนพัฒนาจังหวัดเชียงราย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ได้รับฟังแผนพัฒนาจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนที่สอดคล้องกับนโยบาย IGNITE THAILAND ของรัฐบาลในด้านต่าง ๆ ที่มุ่งเป้าพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สู่อนาคตที่ยั่งยืน
โดยในการพัฒนาให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Chiang Rai Wellness City) จังหวัดเชียงรายได้บูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จนเกิดการลงนาม MOU เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 เพื่อขับเคลื่อนเชียงรายให้เป็นเมืองแห่งสุขภาพ โดยมีประเด็นการพัฒนา 3 ด้าน ดังนี้
นายกฯ ได้กล่าวถึงศักยภาพจังหวัดเชียงรายว่าเป็นเมืองน่าเที่ยว ไม่ใช่เมืองรอง โดยจะพยายามยกระดับให้จังหวัดเชียงรายเป็น “เมืองน่าเที่ยว” โดยได้รับทราบประวัติศาสตร์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกำแพงเมือง ซึ่งความจริงแล้วเป็นเมืองหลวงแรกของประเทศไทย และมีอายุกว่า 1,000 ปี โดยมีสภาพสมบูรณ์แบบพอสมควร
ขณะเดียวกันก็มีสนามบินที่เชียงรายแล้ว จึงขอสั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงวัฒนธรรมช่วยกันโปรโมทเรื่องนี้ด้วย เพราะที่ผ่านมายังโปรโมทน้อยอยู่ รวมทั้งให้มีการเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ถูกเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มที่สนใจทางด้านวัฒนธรรม และกลุ่มที่อนุรักษ์วัฒนธรรม
ส่วนเรื่องของสินค้าการเกษตรนั้น นายกฯ ระบุว่า จังหวัดเชียงรายมีพืชเศรษฐกิจหลักที่มีศักยภาพหลายชนิด ทั้งข้าว ชา กาแฟ ลิ้นจี่ สับปะรด เป็นต้น ซึ่งปีที่ผ่านมาราคาพืชผลทางการเกษตรอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งเรื่องของโลจิสติกส์เป็นเรื่องที่สำคัญ นอกจากนี้ จังหวัดเชียงรายยังอยู่ติดกับชายแดนประเทศเมียนมา ซึ่งมีประเด็นในหลายเรื่อง เช่น เรื่องสินค้าเถื่อนที่เข้ามา
โดยในปีที่ผ่านมากรมศุลกากรก็ทำงานร่วมกับฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดี ทำให้สามารถสกัดกั้นสินค้าเถื่อนที่จะเข้ามาประเทศไทยได้จำนวนมาก ส่งผลให้ราคาพืชผลทางการเกษตรในประเทศไทยสูงขึ้นโดยเฉพาะราคายางพารา ทำให้รายได้ของพี่น้องประชาชนในประเทศไทยดีขึ้น
ทั้งนี้ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ จากพืชผลทางการเกษตรที่มีศักยภาพของจังหวัดเชียงราย เช่น ลำไย ลิ้นจี่ และสับปะรด ฯลฯ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเหล่านั้นด้วย
พร้อมรับฟังรายงานสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังผาเมือง โดยได้มีการเพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้นปราบปรามป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ 24 อำเภอชายแดน โดยแผนการปฏิบัติในการสกัดกั้นปราบปราม แบ่งเป็น
นายกฯ ได้ย้ำถึงเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงได้มีการนำเสนอเกี่ยวกับการสกัดกั้นตามชายแดนก็เป็นเรื่องสำคัญ เช่น กรณีที่มีการจับยาบ้าได้เพิ่มเป็น 3 เท่า รวมทั้งเฮโรอีนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงขอฝากทีมงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานไปยังทูตสหรัฐอเมริกาด้วย เพราะต้องอาศัยความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกา