สงกรานต์ 2567 คึกคักเที่ยวไทยสะพัดแสนล้าน คนไทยแห่เที่ยวนอก 3 แสนคน

เทศกาลสงกรานต์ปี 2567 นี้ คึกคักกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากประเทศไทยมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทั่วประเทศ ตลอด 21 วันช่วงเดือนเมษายนนี้ หลังจากสงกรานต์ในประเทศไทยได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของยูเนสโกและผลักดันให้สงกรานต์ไทยเป็นเฟสติวัลระดับโลกในการดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยสงกรานต์ปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ประเมินว่าจะขับเคลื่อนรายได้จากการท่องเที่ยวไม่ตํ่ากว่า 1 แสนล้านบาท ทั้งจากไทยเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทย

จากดีมานด์การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้อัตราการจองห้องพักในเมืองท่องเที่ยวหลักๆ อาทิ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ มียอดจองกว่า 90% และหลายแห่งห้องพักเต็มแล้ว ขณะที่จำนวนเที่ยวบินของไทยในภาพรวมทั้งประเทศเพิ่มขึ้น 20% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) คาดการณ์ว่าระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. นี้ จะมีเที่ยวบินรวม 16,307 เที่ยวบิน เฉลี่ย 2,330 เที่ยวบินต่อวัน

• สงกรานต์ท่องเที่ยวสะพัดแสนล้าน

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า สงกรานต์ 21 วัน ที่จะทยอยจัดงานสงกรานต์ ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ททท.คาดการณ์ว่าจะช่วยขับเคลื่อนการสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวของไทยได้ไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท

โดยสำหรับตลาดในประเทศ คาดว่าจะมีการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 1-21 เม.ย.67 ราว15.03 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 52,500 ล้านบาท ซึ่งภาคอีสานจะมีการเดินทางสูงสุดอยู่ที่ 3.73 ล้านคน-ครั้ง ตามมาด้วยภาคกลางรวมภาคตะวันตก 3.43 ล้านคน-ครั้ง ภาคตะวันออก 2.78 ล้านคน-ครั้ง ขณะที่ภาคที่สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 1 คือ ภาคตะวันออก อยู่ที่ราว 10,600 ล้านบาท รองลงมาคือ กรุงเทพฯ 9,900 ล้านบาท ตามมาด้วยภาคเหนือ 9,700 ล้านบาท

ทั้งททท.ยังได้คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยตลอดทั้งเดือนเมษายน จำนวน 2,908,600 คน เพิ่มขึ้น 33% สร้างรายได้ 131,992 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% ซึ่งน่าจะมีโอกาสได้เข้าร่วมงานสงกรานต์ในประเทศไทย

โดยในปีนี้ททท.ได้จัดงานได้เตรียมจัดงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 หรือ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567” อย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 11-15 เม.ย.นี้ บริเวณถนนราชดำเนินกลางและพื้นที่ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ โดยนำเสนอภาพลักษณ์ความสวยงามของประเพณีสงกรานต์ไทย รวมถึงสนับสนุนการจัดงานสงกรานต์ในพื้นที่ 16 จังหวัด ทั้งในกลุ่มจังหวัดที่มีอัตลักษณ์การจัดเทศกาลสงกรานต์ที่โดดเด่น รวมถึงการจัดงานในกลุ่มจังหวัดนำร่อง และกลุ่มจังหวัดที่มีศักยภาพและมีการจัดงานประเพณีสงกรานต์ที่มีเอกลักษณ์

• โรงแรม-สายการบินตีปีกบุ๊กกิ้งล้น

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยอดจองห้องพักของโรงแรมต่างๆ ในเครือดุสิต ถือว่าดีและคึกคักมากหากเทียบกับสงกรานต์ปีก่อน หลายโรงแรมก็มีการจองล่วงหน้าจนเต็มแล้ว โดยเมืองที่ได้รับการตอบรับดีมากจะเป็น กรุงเทพฯ พัทยา หัวหิน เขาใหญ่ ภูเก็ต และได้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยที่สูงขึ้นกว่าเดิมด้วย

ด้านนายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี เผยว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 13-14 เมษายน 2567 โรงแรมต่างๆในพัทยามียอดจองห้องพักเข้ามาเกือบ 100% โดยจะมีการจัดกิจกรรมงานวันไหลเมืองพัทยา ในวันที่ 18 เม.ย.นี้ บริเวณสวนสาธารณะลานโพธิ์ นาเกลือ และวันที่ 19 เม.ย. ณ ลานกิจกรรมเมืองพัทยากลาง โดยคาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวนักต่างชาติและคนไทยในพื้นที่ เพราะเป็นการจัดงานในวันธรรมดา แต่ก็เป็นกิจกรรมในการกระตุ้นท่องเที่ยว

ทั้งนี้จากดีมานต์การเดินทางที่เพิ่มขึ้นในช่วงสงกรานต์ ส่งผลให้ 6 สายการบินของไทย ได้เพิ่มเที่ยวบิน รวมขึ้นอีก 38 เที่ยวบิน เพิ่มที่นั่งบนเครื่องบินอีก 1.3 หมื่นที่นั่ง อาทิ การบินไทยเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางไป-กลับ เชียงใหม่ จำนวน 4 เที่ยวบิน และภูเก็ต จำนวน 4 เที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน 2567 นกแอร์ เพิ่ม 10 เที่ยวบิน ใน 3 เส้นทาง ภูเก็ต เชียงใหม่ อุดรธานี ในวันที่ 11-17 เม.ย.นี้ ไทยเวียตเจ็ท เพิ่ม 12 เที่ยวบิน

บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้เสริมกว่า 4,500 เที่ยว เพื่อรองรับผู้โดยสารกว่า 1 แสนคนที่จะเดินทางกลับบ้านในช่วงสงกรานต์ ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษในเส้นทางสายเหนือและสายอีสาน รวม 8 ขบวนในเที่ยวไป และเที่ยวกลับอีก 8 ขบวน ทำให้สามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารเพิ่มเติมได้ไม่ตํ่ากว่า 100,000 คนต่อวัน รวมถึงเตรียมรถโดยสารสำหรับหมุนเวียนเพิ่มเติม 40 คัน สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการซื้อตั๋วในวันเดินทาง ให้เพียงพอและไม่มีผู้โดยสารตกค้างอีกด้วย

• คนไทยเที่ยวนอก 3 แสนคน

ไม่เพียงแต่การเดินทางเที่ยวในไทยเท่านั้น ในช่วงสงกรานต์นี้ ก็มีคนไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกันอย่างคึกคักเช่นกัน

นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศของคนไทยในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์นี้ มีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงสงกรานต์ปีก่อนราว 15% โดยคาดว่าจะมีคนไทยเดินทางออกเที่ยวต่างประเทศอยู่ที่ราว 2-3 แสนคน มีการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ 4.5 หมื่นบาทต่อคน รวมแล้วในช่วงสงกรานต์นี้มีการใช้จ่ายในการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศรวมอยู่ที่ 9 พัน-1.35 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้การเดินทางเที่ยวต่างประเทศของคนไทยส่วนใหญ่ จะเดินทางเที่ยวด้วยตัวเองมากกว่าครึ่ง และที่เหลือเป็นการเดินทางผ่านบริษัททัวร์เอ้าท์บาวด์ เส้นทางหลักๆที่ได้รับความนิยม คือ ญี่ปุ่น อันดับ 1 ตามมาด้วย จีนเป็นอันดับ 2 โดยมีมาตราการวีซ่าฟรีเป็นแรงสนับสนุนทำให้คนไทยเดินทางไปเที่ยวได้ง่ายขึ้น รวมถึงการกลับมาเปิดเส้นทางบินเข้า 2 ประเทศนี้ เพื่อรองรับการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ตามมาด้วยไปเที่ยวเวียดนาม เกาหลีใต้ และสิงคโปร์

“ช่วงสงกรานต์เป็นช่วงที่มีความต้องการในการเดินทางเที่ยวต่างประเทศสูงสุดของคนไทย ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา คนไทยก็ทยอยเดินทางเที่ยวต่างประเทศกันเพิ่มขึ้น เพราะอั้นมานาน ทำให้ตลอดทั้งปีนี้ คาดว่าสถานการณ์จะกลับมาใกล้เคียงกับปีก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งมีคนไทยเดินทางเที่ยวต่างประเทศ 14 ล้านคน มีการใช้จ่ายรวมกว่า 3.5 แสนล้านบาท” นายเจริญ กล่าวทิ้งท้าย

• บิ๊กค้าปลีกจัดใหญ่งานสงกรานต์

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยว่า ไอคอนสยามร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน จัดงาน “ไอคอนสยามมหัศจรรย์เจ้าพระยามหาสงกรานต์ 2567” ด้วยใช้งบการตลาดกว่า 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสองเท่าจากปี 2566 เพื่อยกระดับการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ให้ยิ่งใหญ่และพิเศษกว่าทุกปี ตั้งแต่วันที่ 10-21 เมษายน 2567 นี้ โดยเทศกาลมหาสงกรานต์เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย มั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่ไอคอนสยามไม่ตํ่ากว่า 1.5 ล้านคน ทำให้เกิดกระแสการจับจ่ายหมุนเวียนภายในศูนย์การค้าสูงขึ้นกว่า 50% คาดมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติเฉลี่ย 2 หมื่นคนต่อวัน พุ่งเป็น 2 แสนคนต่อวันในช่วงจัดงาน คิดเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 60% นักท่องเที่ยวไทย 40% นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในบริเวณคลองสานอีกด้วย

นางสรัลธร อัศเวศน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ จัดแคมเปญขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ทั้งการจัดอีเวนต์ โปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม อาทิ Super Holiday Deals เป็นต้น

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศน่าจะมีลูกค้าเพิ่ม 20% จากปกติประมาณ 1.2 ล้านคน/วัน ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยต่างเริ่มพาครอบครัววางแผนเที่ยวในช่วงเทศกาลแล้ว และช่วงนี้คนไทยน่าจะมีกำลังซื้อจากการได้โบนัสทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัด ส่งผลรายให้ได้ในไตรมาส 2 น่าจะเติบโตขึ้น ซึ่งปีนี้บรรยากาศค่อนข้างคึกคักมากกว่าปี 2566 ที่ผ่านมา เพราะรัฐบาลวางแผนมาดี ในการโปรโมทระยะเวลาจัดเทศกาลให้นานขึ้น โดยภาครัฐและเอกชนก็ร่วมมือกันเป็นอย่างดี

“ในปีที่แล้วเราลงทุนในการจัดงานสงกรานต์ 150 ล้านบาท แต่ในปีนี้ใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น 400 ล้านบาท เพราะต้องการเน้นเรื่องวันสงกรานต์ให้เป็นเฟสติวัลจริง ๆ โดยปักหมุดเทศกาลนี้ให้ติด 1 ใน 10 เทศกาลของโลก ขณะที่สัดส่วนรายได้ที่จะเข้ามาจากคนไทยและต่างชาติยังประเมินไม่ได้ แต่ภาพรวมน่าจะเติมโตขึ้น 20%”

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เผยว่า สงกรานต์ปีนี้ คิงเพาเวอร์ ได้สร้างปรากฏการณ์ใหญ่ในการเนรมิตย่านรางนํ้าสู่เดสติเนชั่นสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยการจัดงาน “อภิมหาสงกรานต์รางนํ้า ม่วน-หนุก-สุข-คัก” ที่คิงเพาเวอร์รางนํ้า วันที่ 11-16 เม.ย.นี้ เพื่อร่วมสืบสานประเพณีไทยกับขบวนแห่สงกรานต์ 4 ภาค จำลองบรรยากาศสงกรานต์ทั่วไทยมาไว้ในที่เดียว จัดเต็มกับอภิมหาความวาไรตี้จากกองทัพศิลปินกว่า 40 คนตลอด 6 วัน สาดสนุกกับเทศกาลดนตรีกลางสายนํ้า ครั้งแรกกับที่สุดแห่งเทศกาลดนตรี ณ ใจกลางเมือง “RANGNAM WATER STREET BY SUPERFLUID” รวมร้านอาหารชื่อดังของไทยและของอร่อยในย่านรางนํ้ากว่า 40 ร้าน เป็นต้น

“การจัดงาน “อภิมหาสงกรานต์รางนํ้า” เราได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ททท. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และชุมชนย่านรางนํ้า จัดงานขึ้นเพื่อยกระดับย่านรางนํ้าสู่การเป็น “FESTIVALISATION” ให้เป็นถนนสายหลักในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสร้างสรรค์ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย ตลอดจนเพิ่มโอกาสในการพัฒนาธุรกิจชุมชนที่รายล้อมในย่านรางนํ้า ก้าวสู่เดสติเนชั่นสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกในทุกเทศกาล” นายอัยยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย