การประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดสงขลา ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 ที่ผ่านมาสำนักงานจังหวัดได้นำเสนอการประชาสัมพันธ์ประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชการอาณาจักร ซึ่งรวมถึงพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา
ประกอบด้วย อำเภอจะนะ, อำเภอเทพา, อำเภอนาทวี, อำเภอสะบ้าย้อย จากที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดสงขลา ครั้งที่ 6/2566 วันที่ 20 ธันวาคม 2566โดยมีมติเห็นชอบข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชนจังหวัดสงขลา (กกร.) ในการขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศ ในการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว และผู้เกี่ยวข้องในต่างประเทศได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง
ตามประกาศเรื่องพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชการอาณาจักร ลงวันที่ 27 กันยายน 2566 โดยในส่วนของจังหวัดสงขลา ครอบคลุมเฉพาะ อำเภอจะนะ, อำเภอเทพา, อำเภอนาทวี, อำเภอสะบ้าย้อยเท่านั้น
ส่วนพื้นที่อีก 12 อำเภอของจังหวัดสงขลาเหตุการณ์ปกติ จังหวัดสงขลาขอแจ้งกระทรวงการต่างประเทศว่า การประชาสัมพันธ์ให้นักลงทุน นักท่องเที่ยว และผู้ที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศรับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง
ตามเรื่องพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชการอาณาจักรดังกล่าว มีความสำคัญต่อการส่งเสริมด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวและการจัดกิจกรรมระดับนานาชาติทุกรูปแบบในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน มีความยินดีในการสนับสนุนและการอำนวยความสะดวกให้บรรลุเป้าหมายทุกประการ
โดยทางสำนักงานจังหวัดได้ทำหนังสือที่ สข.0017.2/270 วันที่ 5 มกราคม 2567 เรียน ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เรื่อง การขอรับการสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ประกาศ เรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชการอาณาจักร ซึ่งรวมถึงพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย อำเภอจะนะ, อำเภอเทพา, อำเภอนาทวี, อำเภอสะบ้าย้อย
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เราพยายามที่จะกันพื้นที่อำเภอสะเดาออก เพื่อที่จะให้ทางกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งไปประเทศต่าง ๆที่เขามีนักท่องเที่ยวเข้ามา ในพื้นที่ ว่า พื้นที่ ๆ ใช้กฎหมายความมั่นคงก็จำเป็นต้องใช้ แต่ว่าความมุ่งหมายก็เพื่อความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งอำเภอสะเดาไม่ได้เกี่ยวข้องเลย เหมือนที่บางคนพยายามที่จะให้เข้าไปเกี่ยวข้อง โดยเรื่องเหล่านี้ต้องพยายามทำความเข้าใจ สร้างการรับรู้ กันอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นมานาน
“ขนาดคนสงขลาเองที่ไปอยู่กรุงเทพฯ ก่อนนี้ให้ลงมาสงขลาไม่กล้ามา อย่าไปพูดว่าไป 4 อำเภอ หรือลงไปชายแดน ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ให้ลงมาสงขลายังไม่กล้ามา”
เนื่องจากรับรู้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นก็คงต้องใช้เวลาในการที่จะไปเปลี่ยนเรื่องของการรับรู้ และยิ่งเป็นชาวต่างประเทศก็ยิ่งไปกันใหญ่ จึงต้องอาศัยกระทรวงการต่างประเทศได้ช่วยทำความเข้าใจให้ ก็ต้องขอขอบคุณ
นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสืบเนื่องจากที่ทางหอการค้าจังหวัดสงขลาเคยนำเสนอผ่านเวที กรอ.จังหวัดตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว (2566) คือหยิบยกประเด็นที่จังหวัดสงขลาถูกประกาศแล้วต่างชาติเข้าใจว่าทั้งจังหวัด ทั้งที่อีก 12 อำเภอไม่ได้มีสถานการณ์แบบเดียวกัน
แต่ถูกเหมารวมทั้งจังหวัด ซึ่งมีผลต่อการเดินทางของนักเดินทางต่างประเทศที่เวลาที่เขาเห็นประกาศในเว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศของประเทศเขา ที่เตือนว่าเป็นพื้นที่ ๆ ต้องพิจารณาอีกครั้งถ้าจะเดินทางมา เป็นพื้นที่อันตราย
นอกจากนั้นถ้าเป็นพื้นที่อันตรายก็เป็นน่ากังวลในการเข้ามา สร้างความไม่เชื่อมั่นในการที่จะเดินทางเข้ามายังพื้นที่ของเราอยู่แล้ว และมีผลต่อการพิจารณาการประกันภัยของนักเดินทางที่จะเดินทางมาในพื้นที่ บริษัทประกันบางแห่งก็ไม่รับ ซึ่งจะมีผลทำให้การเราจะผลักดันให้จังหวัดสงขลาเป็นไมซ์ซิตี้ เป็นแหล่งรวมของงานอีเว้นท์ต่าง ๆ ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในระดับสากล เพราะว่าพื้นที่เรายังติดประกาศเตือนแบบนี้อยู่เลย จะมีต่างชาติคนไทยจะเอางานมาลงที่เรา พอเขารู้ว่าพื้นที่ของคุณติดประกาศแบบนี้เขาจะดึงงานเข้ามาก็จะติดเงื่อนไขแบบนี้จะไม่สามารถเอางานมาลงได้
“จะมีผลกระทบกับงานอีเว้นท์งานที่เป็นระดับนานาชาติ ก็เลยอยากให้ว่าอย่างน้อยประกาศให้สอดคล้องกับความเป็นจริง อีก 4 อำเภอเราได้รับการชี้แจงจากหน่วยงานความมั่นคงแล้วเราเข้าใจแล้วว่าคงไม่ปลดหรือยกเลิกไม่ได้”
เนื่องจากยังมีพื้นที่ ๆ จำเป็นต้องมีการดูแลเรื่องความมั่นคง เพื่อความปลอดภัยในเมืองส่วนเหลือ เหมือนเป็นพื้นที่กันชนที่คอยป้องกันพื้นที่ ๆ เหลือไม่ให้เกิดเหตุเข้ามาในพื้นที่อื่น ๆ ได้
ฉะนั้นหากเขาไม่มีอำนาจอะไรเลย การที่จะเฝ้าระวังหรือดูแลความปลอดภัยเรื่องการท่องเที่ยวในจังหวัดก็ทำยาก หน่วยงานความมั่นคงให้เหตุผลมาเราก็เข้าใจดี ถ้าอย่างนั้นเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงต่างประเทศให้เขาเข้าใจว่าพื้นที่ ๆ อันตราย ไม่ใช่จังหวัดสงขลาทั้งจังหวัด แต่มีแค่ 4 อำเภอเท่านั้น และให้ระบุไปแค่ 4 อำเภอเท่านั้น ไม่ต้องพูดทั้งจังหวัดสงขลา
นี่คือสิ่งที่เราได้สะท้อนไป ซึ่งทางจังหวัดได้รับเรื่องนี้และส่งเรื่องไปที่กระทรวงการต่างประเทศแล้ว ในการประชุม กรอ.ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา
ขณะที่ทางจังหวัดได้รายงานว่าได้ทำหนังสือไปถึงกระทรวงการต่างประเทศแล้ว หลังจากนี้ทางจังหวัดก็จะมีการติดตามผมเสนอให้เขาขึ้นประกาศที่เว็บไซต์ให้ระบุแค่ 4 อำเภอ อย่าไประบุเป็นทั้งจังหวัดเลย ถ้าทางต่างประเทศเข้าใจสถานการณ์แล้ว ขอให้เขาช่วยปรับเปลี่ยนคำในเว็บไซต์เขาหน่อย ถ้าปลดล็อคตรงนี้ได้ก็จะเป็นผลดีกับจังหวัดสงขลา
นายสมพล ชีววัฒนาพงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ เพราะว่าตอนนี้ 4 อำเภอเป็นพื้นที่สีแดง ทำให้ต่างประเทศเขาตีความเป็นจังหวัดสงขลาทั้งจังหวัด มีการประกาศบนหน้าเพจของประเทศต่าง ๆ ว่า การเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสงขลาไม่สมควร โดยเฉพาะในประเทศยุโรป ทำให้มีผลกระทบกับการท่องเที่ยว และการที่ดึงงานระดับนานาชาติเข้ามาในพื้นที่ ก็เคยเจอกับตัวเองที่เขาสอบถามประเด็นนี้ขึ้นมาว่าเป็นปัญหาที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่
แม้กระทั่งคนที่รู้จักเขาจะเดินทางมา เขาบอกว่าประเทศเขาเตือนว่ามาไม่ได้ เพราะเขาไม่เข้าใจว่าพื้นที่สีแดงคือ 4 อำเภอ แต่เขาตีความจังหวัดสงขลาทั้งจังหวัด
“ทางกระทรวงการต่างประเทศต้องไปชี้แจงพื้นที่ว่ามีความต่างกันอยู่ระหว่าง 4 อำเภอ กับอีก 12 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา เพราะการตีความจังหวัดสงขลาทั้งจังหวัดมีผลกระทบต่อการลงทุนและการท่องเที่ยวในพื้นที่”
ล่าสุดได้เสนอต่อที่ประชุม กรอ.ให้เชิญตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และสมาคมประกันภัย เข้ามาอยู่ใน กรอ.ด้วย
เนื่องจากในพื้นที่ทางสมาคมประกันภัยจะไม่รับประกันสำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสงขลา แต่ควรจะแยกกันระหว่าง 4 อำเภอพื้นที่สีแดงกับ 12 อำเภอที่เหลือ ในพื้นที่ 12 อำเภอที่ไม่ใช่พื้นที่สีแดงคุณควรจะรับประกัน หากมีการประกันผู้ที่จะเดินทางเข้ามาเขาก็มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นที่จะเดินทางเข้ามา
หากสามารถปลดล็อคตรงนี้ได้ ก็จะสามารถที่ดึงงานระดับนานาชาติเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสงขลาได้ง่ายขึ้น รวมถึงการประชาสัมพันธ์งานท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็จะมีความชัดเจนขึ้น