"บั้งไฟพญานาค 2566" เช็คกำหนดการ-พิกัดรับชมลูกไฟ

29 ต.ค. 2566 | 01:36 น.

"บั้งไฟพญานาค 2566" เช็คกำหนดการ-พิกัดรับชมลูกไฟ มีที่ไหนบ้าง ฐานเศรษฐกิจรวบรวมไว้ให้หมดแล้ว ทั้งประวัติการเกิด ปรากฎการร์ที่เกิดขึ้นคืออะไร หลังใกล้จะถึงวันออกพรรษาประจำปี

"บั้งไฟพญานาค 2566" วันไหน กำลังเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในช่วงออกพรรษา

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" เกี่ยวกับปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาค 2566 พบว่า 

ที่จังหวัดหนองคายจะมีการจัดงาน "ประเพณีออกพรรษา และบั้งไฟพญานาคโลก" ในพื้นที่แต่ละอำเภอมีกิจกรรมที่หลากหลายที่เป็นอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี ของชาวจังหวัดหนองคายอย่างแท้จริง อาทิ พิธีรำบวงสรวงบูชาพญานาค ,ไหลเรือไฟบูชาพญานาค และการลอยกระทงกาบกล้วย

ซึ่งมีเพียงจังหวัดหนองคายเท่านั้นที่มีการลอยกระทง 2 ครั้ง ใน 1 ปี เพื่อสักการะบูชาแม่น้ำโขง และองค์พญานาคราชตามความเชื่อ 

ส่วนไฮไลท์คือการชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค โดยมีความเชื่อว่าเป็นการสักการะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มายังโลกมนุษย์ โดยในปีนี้ทางจังหวัดหนองคายได้จัดกิจกรรมพิธีรำบวงสรวงบูชาพญานาคราช 

และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายทั้ง 6 อำเภอ ได่แก่อำเภอเมืองหนองคาย ,อำเภอโพนพิสัย ,อำเภอศรีเชียงใหม่ ,อำเภอสังคม ,อำเภอรัตนวาปี และอำเภอท่าบ่อ ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค.​ -​ 6 พ.ย.​ 2566นี้

จุดชมบั้งไฟพญานาค

นายประทีบ อุ่ยเจริญ ปลัดจังหวัดหนองคาย ระบุว่า วันออกพรรษาในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 29 ต.ค. 2566 ตามความเชื่อในใสมัยก่อนนั้นเชื่อว่าหากเดือนนี้มีเดือน 8 สองหน หรือเรียกว่าอธิกมาส จะเกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค จำนวน 2 วัน คือวันที่ 29 และ 30 ตุลาคม 

โดยทางพื้นที่ในแต่ละอำเภอมีการกำหนดจุดพื้นที่และจำนวนผู้เข้าร่วมรับชมบั้งไฟพญานาคไว้อย่างชัดเจน ประกอบด้วย 

  • วัดไทย ลานนาคาเบิกฟ้า อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย 
  • บริเวณริมโขงบ้านท่าม่วง อำเภอรัตนวาปี 
  • บ้านโพนแพง อำเภอรัตนวาปี
  • บ้านน้ำเป อำเภอรัตนวาปี 
  • บ้านหนองกุ้ง อำเภอโพนพิสัย 
  • บ้านตาลชุม อำเภอรัตนวาปี 
  • บ้านหนองแก้ว อำเภอรัตนวาปี 
  • บ้านอาญา อำเภอรัตนวาปี 
  • บ้านเปงจาน อำเภอรัตนวาปี 
  • บ้านเปงจานนคร อำเภอรัตนวาปี 
  • บ้านต้อนน้อย อำเภอรัตนวาปี 
  • บ้านต้อนใหญ่ อำเภอรัตนวาปี 

รู้จักบั้งไฟพญานาค

“บั้งไฟพญานาค” เป็นปรากฏการณ์ของการเกิดลูกไฟสีแดงอมชมพูพวยพุ่งขึ้นจากลำน้ำโขง ซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะช่วงจังหวัดหนองคาย โดยจะเริ่มปรากฏจากเหนือผิวน้ำ แล้วจะพุ่งขึ้นสูงประมาณระดับ 50 – 150  เมตร เป็นเวลาประมาณ  5 -10 วินาที  แล้วดับหายวับไปในอากาศและไม่มีลักษณะโค้งตกลงมาเหมือนดอกไม้ไฟ  โดยลูกไฟไม่มีกลิ่น   ไม่มีควัน   ไม่มีเสียง  ขนาดของลูกไฟมีขนาดตั้งแต่เท่าหัวแม่มือ  กระทั่งขนาดเท่าฟองไข่ไก่ จะเริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่เวลาหลังพระอาทิตย์ตกดินจนถึงประมาณ  23.00 น.

ประวัติการเกิดบั้งไฟพญานาค

ตามพุทธประวัติกล่าวว่าเมื่อพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้  พระองค์ได้เสด็จเผยแพร่ศาสนาไปทั่วชมพูทวีป  พญานาคีบังเกิดความเลื่อมใสและศรัทธายิ่ง  จึงจำแลงกายเป็นบุรุษขอบวชเป็นสาวก ค่ำคืนหนึ่งพญานาคีเผลอหลับใหลคืนร่างเดิม  พระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่องจึงขอให้ลาสิกขา  เนื่องจากเป็นเดรัจฉานจะบวชเป็นภิกษุมิได้  พญานาคียอมตามคำขอ แต่ขอว่ากุลบุตรทั้งปวงที่จะบวชให้เรียกขานว่า “นาค”  เพื่อเป็นศักดิ์ศรีของพญานาคก่อนค่อยเข้าโบสถ์ 

จากนั้นเป็นต้นมาจึงเรียกขานกุลบุตรทั้งหลายที่จะบวชว่า  “พ่อนาค” ต่อมาเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าได้เสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  หลังจากเสด็จไปโปรดพุทธมารดาเป็นเวลา 3 เดือน  เมื่อกลับสู่โลกมนุษย์  เหล่าบรรดาพญานาคี  นาคเทวี  พร้อมทั้งเหล่าบริวารจัดทำเครื่องบูชา และพ่นบั้งไฟถวาย  ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “บั้งไฟพญานาค”