หลีเป๊ะเป็นเกาะท่องเที่ยวสตูลขอชะลอไล่รื้อรอกฎหมายใหม่จัดระเบียบ

หวังไม่ถึงขึ้นไล่รื้อทุบทิ้ง เสนอชะลอบังคับใช้กฎหมายรอร่างแก้ไขเพื่อเปิดทางให้เข้าระบบ 

             
    จังหวัดสตูลเสนอชะลอการบังคับใช้ระหว่างรอแก้กฎหมาย แก้ปัญหาอนุญาตก่อสร้างโรงแรมเกาะหลีเป๊ะ ชี้การพัฒนาล้ำหน้ากฎหมาย  ฝากประธานฯชั่งน้ำหนักผลดีผลกระทบ ยืนยันผู้ประกอบการไม่ได้ดื้อรั้น พร้อมทำถูกต้องตามกฎหมาย เผยกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจ.สงขลาหารือมาตรการความปลอดภัยรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่รับรู้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก 

นายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ" เกี่ยวกับปัญหาใบอนุญาตโรงแรม รีสอร์ท ที่พัก เกาะหลีเป๊ะ ว่า ขณะนี้ทางเจ้าของพื้นที่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาประกอบธุรกิจโรงแรมโดยที่ไม่รับอนุญาต   อยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวนแล้ว 

“ทางฝ่ายปกครองในพื้นที่เป็นคนดำเนินการแจ้งความ พนักงานสอบสวนก็มีการสอบสวน ว่ามีความผิดจริงตามตัวบทกฎหมายหรือไม่ อยู่ระหว่างการดำเนินการ เนื่องจากมีหลายที่รวมแล้วเป็น 100 ราย หรือจะเรียกว่าเกือบทั้งหมด เนื่องจากในพื้นที่กฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้ประกอบธุรกิจโรงแรมได้ โดยในส่วนที่ไม่ได้เป็นความผิดกฎหมายอื่นยังให้ดำเนินการ แต่มีบางส่วนที่มีความผิดชัดเจนในกฎหมายอื่น คือไปรุกล้ำพื้นที่ของอุทยานฯ ตรงนี้ต้องหยุดกิจการและรื้อถอน"

สำหรับผลกระทบจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีรายงานขึ้นมา  แต่เท่าที่รับรู้รับทราบก็เป็นความกังวลของผู้ประกอบการ และได้พยายามให้ช่วยหาช่องทางที่จะผ่อนคลายปัญหาให้ โดยบอกว่าเขาไม่ใช่เป็นอาชญากร หรือไปประกอบอาชญากรรมที่ไหน การประกอบการในช่องที่เสียภาษีได้เขาก็เสียภาษีกัน 

อีกทั้งการประกอบการของเขา ก็นำมาซึ่งรายได้กับการท่องเที่ยวในภาพรวม ซึ่งก็ถือว่าเป็นรายได้หลักของจังหวัด ฉะนั้นสิ่งที่ทางจังหวัดจะนำเสนอคณะกรรมการแก้ไขปัญหาก็คือ เสนอข้อมูลให้ทราบว่าปัญหาอยู่ตรงนี้ หากจะเอาแต่บังคับใช้กฎหมายอาจไม่เกิดผลดีในช่วงนี้ เนื่องจากยังไม่มีทางออกให้เขา และเราอยู่ในกระบวนการแก้ไขกฎหมายอยู่ หากเลยเถิดไปถึงต้องรื้อ ต้องทุบทิ้ง ระบบเศรษฐกิจตรงนี้ก็พัง และเชื่อมโยงไปอีกหลายมิติ 

รองผู้ว่าฯสตูลกล่าวอีกว่า ในสถานประกอบการแต่ละที่ จะมีหลายครอบครัวของคนบนเกาะเข้ามาเป็นลูกจ้างทำงาน  เป็นการช่วยเหลือการเดินทางของนักท่องเที่ยว แม้แต่ผู้ประกอบการเรือเล็กนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำตามเกาะแก่งต่าง ๆ ก็มีเป็นร้อยราย ไม่รวมถึงคนงานในสถานประกอบการต่าง ๆ อีก
 

“ถ้าต้องหยุดมันก็จะกระทบถึงอาชีพถึงรายได้ของคนกลุ่มนี้ และระบบโดยรวมซึ่งเราจะเห็นว่า กิจการตั้งแต่เรือสปีดโป๊ท เรือเล็ก ผู้ประกอบการในพื้นที่ คนงานต่าง ๆ ที่เป็นคนบนเกาะ ส่วนมากก็จะมีอาชีพการงานอยู่ตรงนั้น ใน 1 รายที่เป็นผู้รับจ้างเป็นคนงาน เขามีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบอีก" 

รวมถึงผลกระทบนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาแล้ว ถ้าไม่มีที่พักก็อาจจะเป็นปัญหา ซึ่งแนวการนำเสนอจะใช้คำว่าชะลอการบังคับใช้กฎหมายออกไปก่อนได้หรือไม่ เพราะที่จริงก็ดำเนินคดีกันไปหมดแล้ว อยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันจะไปถึงขั้นต้องรื้อต้องทุบอะไรหรือไม่ หรือหากสามารถรอการแก้ไขกฎหมายให้แล้วเสร็จ ให้เขาสามารถเข้าระบบเข้ากระบวนการได้ต่อไป จะดีกว่าหรือไม่ 

นายชาตรีกล่าวอีกว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำสงขลา เดินทางมาเยี่ยมจังหวัดสตูล เพื่อหารือถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีน รวมถึงมาตรการดูแลด้านต่าง ๆ ทั้งความปลอดภัย การท่องเที่ยวในพื้นที่ การดูแลสุขภาพอนามัย การรักษาพยาบาล ว่าในพื้นที่มีมาตรการรองรับอย่างไร 

"ท่านถามว่าเวลานี้นักท่องเที่ยวจีนมามากหรือไม่ ก็ได้เรียนไปว่ายังไม่มาก แต่คาดว่าจะมีตามมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่ผ่านมาในอดีตถือเป็นนักท่องเที่ยวหลักเลยก็ได้ ซึ่งท่านก็เน้นในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนที่มาอาจจะไม่ชินกับทะเล และอาจมีอุบัติเหตุจากการท่องเที่ยวทางน้ำ การดำน้ำ ซึ่งหลีเป๊ะเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจีนอย่างดี สวยงามมีชื่อเสียง คนจีนก็อยากมาเที่ยว ซึ่งได้เรียนไปว่าในพื้นที่เราส่วนใหญ่ผู้ที่จะนำนักท่องเที่ยวออกไปดำน้ำดูปะการัง เขาจะมีประสาบการณ์ ได้รับการอบรมก่อน" 

รองผู้ว่าฯสตูล กล่าวด้วยว่า สำหรับการดูแลรักษาในพื้นที่เราได้สร้างโรงพยาบาลเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ต่อไปจะมีแพทย์มาประจำ ส่วนการลำเลียงผู้ป่วย สามารถประสานการลำเลียงทางอากาศได้ จากหน่วยกำลังทหารที่มีอุปกรณ์เครื่องมือ 

ในสภาพความเป็นจริงสำหรับเกาะหลีเป๊ะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เขาจัดลำดับต้น ๆ ของโลก อยู่ในกลุ่มสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวมาก  ซึ่งเราก็นำเสนอเพิ่มเติมไปว่า เราไม่ได้มีเฉพาะหลีเป๊ะเท่านั้น เรายังมีน้ำตกที่อยู่ฝั่งอีกเยอะ เราจะมีกิจกรรมการท่องเที่ยวแบบล่องแก่งเราก็มี  แต่เบื้องต้นที่เขารู้จักดีคือหลีเป๊ะ

ตรงนี้ก็ทำให้ต้องชั่งน้ำหนัก ว่าเกาะหลีเป๊ะกำลังจะเป็นเพชรเม็ดใหม่ของจังหวัดสตูลและอันดามัน ทางด้านแหล่งท่องเที่ยว ในขณะที่การบังคับใช้กฎหมายอีกด้านหนึ่ง  ซึ่งเราก็คิดว่าทางฝ่ายบ้านเมืองเราจะมองทั้งในแง่ของทางด้านรัฐศาสตร์ ในด้านของนิติศาสตร์ พยายามชั่งน้ำหนักให้มันสมดุล 

“ถ้ามันไม่เกิดความเดือดร้อนต่อส่วนรวมอะไรยังไงแล้ว ก็จะดูว่าประโยชน์อันไหนมันจะดีมากกว่า บางทีการจะบอกว่าละเว้น ในเมื่อกฎหมายไม่ได้เปิดให้เขาทำได้ แล้วในสภาพข้อเท็จจริงสภาพพื้นที่มันพัฒนาไปแล้ว มันไปอยู่ในจุดที่มีความจำเป็นแล้ว เราก็ต้องชั่งน้ำหนักว่าส่วนได้ส่วนเสียเป็นอยู่ยังไง”

จากข้อมูลจังหวัดสตูลรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว เนื่องจากพื้นที่มีไม่มาก และก็ถูกจำกัดด้วยเป็นที่อนุรักษ์เสียเยอะ บนฝั่งก็เป็นป่าเป็นเขาทำมาหากินไม่ได้ เป็นส่วนที่ยังอนุรักษ์อยู่อีก พอในน้ำเราก็เป็นเขตอุทยานเสียเยอะ บางทีบางจุดก็ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง    เราไปขีดเขียนเขตตั้งแต่สมัยที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมราชทัณฑ์ 

อย่างไรก็ตามรองผู้ว่าฯย้ำว่า แต่ทั้งหมดอยู่ที่คณะกรรมการฯ โดยเฉพาะประธานฯ ซึ่งเป็นผู้กำหนดการแก้ปัญหา เราก็ไม่รู้ว่ามันจะพัฒนาการไปจนถึงรื้อหรือเปล่า แต่ที่ผ่านมาทางพื้นที่เขาก็พยายามแก้ไขปัญหา แต่ปัญหามันก็คือ จะมองว่าเขาสร้างโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตแต่อย่างเดียวนั้น  ในพื้นที่เขาก็ไม่ได้ให้น้ำหนักอย่างนั้น   เนื่องจากที่ผ่านมาเขาดูถึงความจำเป็นด้วย ว่าเกาะหลีเป๊ะมันเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว และในความเป็นจริงนั้นนักท่องเที่ยวก็หลั่งไหลเข้าไปในพื้นที่เป็นจำนวนมาก พอมองถึงความจำเป็นที่จะต้องมีโรงแรมให้เขาพัก ให้เขานอนหรือมีที่กินที่อยู่ มันก็จำเป็น

“แต่ประเด็นคือกฎหมายของเรามันยังช้าอยู่ ไม่ทันกับการพัฒนาการเติบโตของพื้นที่ ในอดีตที่ผ่านมาก็เคยมีการจับกุมกันอยู่ แล้วก็มันก็เข้าห้วงของการแก้ไขสภาพการประกอบการจากที่พักอาศัยเป็นโรงแรม มีอยู่ห้วงหนึ่งที่คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เขาออกมาให้ในพื้นที่แก้ไขไป”

ช่วงนั้นพอเข้ากระบวนการก็กลายเป็นว่าคำสั่ง คสช.ไปไม่ถึง เพราะว่าพื้นที่ยังมีการห้ามการก่อสร้างอาคารที่มีลักษณะเป็นการสร้างโรงแรม  ทำได้แต่เพียงสร้างที่พัก พอพ้นช่วงนั้นก็จะมาเข้าช่วงโควิด-19 อีก มันก็เลยทำให้การประกอบการหยุดไปช่วงหนึ่ง และมาเริ่มใหม่ตอนที่สถานการณ์โควิดคลี่คลายไปแล้ว

โดยข้อกฎหมายก็ยังประกอบการในลักษณะโรงแรมไม่ได้ ถึงทางผู้ประกอบการจะขออนุญาตก็ไม่สามารถทำได้ เพราะว่าอนุญาตไม่ได้   ซึ่งที่ผ่านมาในพื้นที่ทั้งอำเภอหรือจังหวัดในช่วงนั้น ก็มองถึงความจำเป็นอย่างอื่น ในมิติอื่น ๆ ด้วย ก็เห็นว่ายังมีความจำเป็นอยู่  ฉะนั้นการที่จะไปดำเนินคดีตามกฎหมายในเมื่อกฎหมายไม่สามารถให้เขาทำได้ เขาก็ไม่มีทางไป แต่ว่าในสภาพของเจ้าหน้าที่ก็จะมีการกล่าวอ้างกันว่าละเว้นการปฏิบัติ 

ฉะนั้นในส่วนที่จะต้องไปทุบทิ้ง ไปอะไรยังไง มันก็ไม่รู้ว่ามันจะไปถึงจุดนั้นหรือเปล่า ผมก็ยังตอบยากอยู่ ก็ต้องว่าคณะกรรมการฯ โดยเฉพาะประธานฯจะพิจารณาเป็นยังไง  เพราะอำนาจอยู่ที่ประธานฯ จังหวัดเป็นเพียงแต่กรรมการ และผู้ปฏิบัติด้วย

“สำหรับความเห็นของจังหวัดก็คิดว่ามันมีความจำเป็น เพราะพื้นมีการพัฒนาไปถึงจุดนั้นแล้ว มันถึงขนาดที่มีความจำเป็นที่จะต้องมีโรงแรม เพียงแต่ว่ากฎหมายของเรามันยังไม่เปิดช่องแค่นั้นเอง แต่เราไม่รู้ว่าคณะกรรมการฯจะเห็นด้วยกับเราหรือเปล่า”

เพราะทางผู้ประกอบการก็อยากจะให้ชะลอไปก่อน และเขาเองก็ไม่ได้อยากจะฝ่าฝืนกฎหมาย หรืออยากจะดื้อรั้น เพียงแต่กฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้เขา ซึ่งคณะกรรมการฯชุดนี้ตั้งขึ้นมาหลังจากมีกรณีพิพาทที่ดินที่เกาะหลีเป๊ะเมื่อเร็ว ๆ นี้ เรื่องรั้วโรงเรียน เป็นคณะกรรมการแก้ไขข้อพิพาทที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ และได้ลามมาถึงการตรวจสอบใบอนุญาตโรงแรม ที่อาจจะเชื่อมโยงกันในลักษณะการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ที่ดินในพื้นที่ ซึ่งอาจจะมีโจทย์อยู่หรือมีข้อเท็จจริงอยู่ว่า ที่ดินบางส่วนบางแปลง ที่อยู่บนเกาะหลีเป๊ะ อาจจะได้เอกสารสิทธิมาโดยมิชอบ ไม่ถูกต้องประมาณนี้

แต่พอไปดูเรื่องที่ดินมันก็เห็นส่วนอื่น ๆ ที่อาจจะเป็นส่วนควบที่อยู่บนที่ดินอะไรด้วย ก็เลยไปพบการกระทำความผิดอย่างอื่นด้วย แต่เราก็จะพยายามชี้แจงให้กับประธานคณะกรรมการฯด้วยว่า จังหวัดเรารับผิดชอบพื้นที่ การบังคับใช้กฎหมายบางครั้งต้องประเมินความหนักความเบา  และก็พื้นที่เองบางทีปัญหาบางเรื่อง บางราว มันไม่สามารถที่จะหลักนิติศาสตร์มาแก้ได้ ถ้าไม่ใช่หลักรัฐศาสตร์เข้ามาร่วมด้วย