ด่วน! จีนประกาศผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ทั่วประเทศแล้ว

07 ธ.ค. 2565 | 08:16 น.

ด่วน!จีนประกาศผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ทั่วประเทศแล้ว โดยผ่อนปรนให้ผู้ติดโควิดที่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการไม่รุนแรงสามารถกักตัวที่บ้านของตนเองได้ แทนการส่งตัวไปกักตัวที่สถานที่ของรัฐ ยกเลิกหลักเกณฑ์การแสดงผลตรวจเป็นลบในการเข้าพื้นที่สาธารณะส่วนใหญ่

วันนี้ (วันที่ 7 ธันวาคม 2565) คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ประกาศผ่อนปรนการบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 โดยยกเลิกข้อกำหนดที่ให้ผู้ติดเชื้อทั้งหมดจะต้องแยกกักตัวอยู่ในสถานที่ส่วนกลางเท่านั้น มา อนุญาตให้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อาการไม่รุนแรงหรือไม่แสดงอาการของโรคกักตัวที่บ้าน แทนการถูกส่งตัวไปยังสถานที่กักตัวที่ภาครัฐจัดเตรียมไว้ให้

 

การยกเลิกหลักเกณฑ์การแสดงผลตรวจเป็นลบในการเข้าพื้นที่สาธารณะส่วนใหญ่ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ระดับชาติ เพื่อขจัดความไม่พอใจของประชาชนและสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ

รวมถึงการเร่งฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุและห้ามเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำหนดพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น บ้านจัดสรร เป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงการยกเลิกการแสดงผลตรวจเป็นลบสำหรับการเดินทางข้ามเขต และห้ามระงับการดำเนินงานหรือการผลิต หากไม่ใช่สถานที่ที่ถูกกำหนดว่ามีความเสี่ยงสูง

 

ทั้งยังประกาศลดความถี่และขอบเขตของการตรวจพีซีอาร์เพื่อหาเชื้อสำหรับการใช้พื้นที่สาธารณะส่วนใหญ่ลงอีกด้วย ยกเว้นในโรงพยาบาลและโรงเรียนที่ยังต้องให้มีการตรวจหาเชื้อต่อไป

 

คณะกรรมการฯยังประกาศผ่อนคลายกฎระเบียบใหม่ อาทิ ควรใช้ข้อจำกัดอย่างการล็อกดาวน์แบบชี้เป้าพื้นที่ให้ชัดเจนมากขึ้น อย่างการกำหนดอาคาร ยูนิต และชั้นบางชั้น แทนที่จะล็อกดาวน์ทั้งเขตหรือทั้งเมือง

 

ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงควรยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ภายใน 5 วันหากไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ โรงเรียนสามารถเปิดทำการต่อไปได้หากไม่มีการแพร่ระบาดในวงกว้าง ห้ามปิดกั้นทางออกหรือทางหนีไฟอย่างเข้มงวด และประชาชนต้องสามารถเข้าถึงการรักษาทางการแพทย์ได้ในกรณีฉุกเฉิน และเส้นทางหลบหนีจะต้องไม่ถูกกีดขวางโดยมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ โดยมีการออกแถลงการณ์ให้ทุกท้องที่มุ่งปรับปรุงอัตราการฉีดวัคซีนให้ผู้ที่มีอายุ 60-79 ปี และเร่งอัตราการฉีดวัคซีนให้กับผู้มีอายุ 80 ปีขึ้นไป

 

ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าจีนกำลังผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และหาทางอยู่ร่วมกับไวรัสเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในโลก หลังเพิ่งเผชิญกับการประท้วงครั้งใหญ่ที่ยากจะเกิดขึ้นเนื่องจากความไม่พอใจต่อนโยบายคุมเข้ม โดยผู้ประท้วงบางคนถึงกับมีการเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออก

 

การที่จีนประกาศยกเลิกมาตรการต่อต้านโควิด-19 ที่เข้มงวดซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดว่าจีนกำลังเตรียมประชาชนให้อยู่ร่วมกับโรคนี้ หลังจากก่อนหน้าจีน ประกาศแข็งกร้าวนโยบายโควิดเป็นศูนย์ เพื่อรักษาเศรษฐกิจมีการจัดระเบียบ ล็อคดาวน์อย่างเข้มข้น แต่ดูเหมือนไม่ได้ผล รวมทั้งประชาชนหลายเมืองออกมาประท้วงนโยบาย

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเร่งผ่อนปรนมาตรการคุมโควิด-19 นี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเผชิญ ในขณะที่พยายามนำพาประเทศก้าวออกจากวิกฤตการณ์โรคระบาด หลังจากประชาชนไม่พอใจนโยบายโควิดเป็นศูนย์จนเกิดการก่อหวอดประท้วงทั่วประเทศ

 

การผ่อนปรนมาตรการคุมโควิด-19 ระลอกล่าสุดนี้ส่งให้หุ้น 3 สายการบินหลักของจีน ได้แก่ แอร์ ไชน่า จำกัด รวมถึง ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ คอร์ป และไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ โค พุ่งขึ้นกว่า 10% ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในวันนี้

 

สำหรับกรุงปักกิ่งเป็นผู้นำร่องอนุญาตให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 บางส่วนกักตัวที่บ้าน หลังสถานที่กักตัวที่ภาครัฐจัดเตรียมไว้ให้เต็ม เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น โดยการเปลี่ยนมาใช้มาตรการดังกล่าวทั่วประเทศอย่างรวดเร็วนี้นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของจีน และอาจเปลี่ยนมุมมองของสาธารณชนที่มีต่อโรคโควิด-19 จากภัยสุขภาพร้ายแรงเป็นโรคที่ค่อนข้างธรรมดา เพื่อปูทางไปสู่การเปิดประเทศ เช่นเดียวกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่หันมาใช้นโยบายอยู่ร่วมกับโควิด-19

 

การประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิดของจีนมีขึ้นขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 25,321 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่แสดงอาการ 4,409 คน และไม่แสดงอาการ 20,912 คน