KEY
POINTS
‘ไอคอนสยาม’ สร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่อีกครั้งบนเวทีอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกระดับโลก ขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 3 สุดยอดโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการค้าปลีกที่ทรงอิทธิพลที่สุดในรอบ 30 ปี หรือ Most Influential Retail Property Project of the Past 30 Years จากเวทีระดับโลก MAPIC Awards 2025 ซึ่งเป็นเวทีที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "รางวัลออสการ์ของวงการ Retail"
ตอกย้ำภาพลักษณ์ของไอคอนสยามที่เป็นสัญลักษณ์แห่งนวัตกรรมและการสร้างสรรค์ที่ล้ำเลิศ สร้างแรงบันดาลใจและสามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จอีกครั้งหนึ่งของสยามพิวรรธน์ ซึ่งเป็นเจ้าของคอนเซปต์ในการพัฒนา Global Destination ที่สร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมาย เป็น Game Changer ที่แสดงให้โลกเห็นชัดเจนแล้วว่าศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยนั้นไม่แพ้ชาติใดในโลก
ไอคอนสยาม คืออภิมหาโครงการเมืองที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นสัญลักษณ์แห่งความภูมิใจของคนไทย โดยเกิดจากการร่วมลงทุนของสามองค์กรชั้นนำ ได้แก่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด, แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 60,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 55 ไร่ และพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 750,000 ตารางเมตร ไอคอนสยามถูกออกแบบให้เป็นอภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต
ซึ่งรวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดของโลกกับสิ่งที่ดีที่สุดของไทยเข้าไว้ด้วยกัน ประกอบด้วยอาณาจักรศูนย์การค้าสุดอลังการ คอนโดมิเนียมหรูระดับโลก 2 อาคาร และ “7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม” ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ไอคอนสยาม เป็น “World-Class Destination” ที่เป็นต้นแบบการพัฒนาเมืองที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย โดยได้เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
ไอคอนสยาม มีปณิธานในการรังสรรค์โครงการระดับโลกที่เป็นการปฏิวัติวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยการนำเสนออัตลักษณ์ไทยในทุกมิติทั้งในสถาปัตยกรรม งานศิลปะ และทุกองค์ประกอบสำคัญของโครงการด้วยความวิจิตรล้ำสมัย ให้เป็นตัวแทนของจินตนาการแห่งยุคที่จะถ่ายทอดเรื่องราวที่เป็นภูมิปัญญา ประเพณีและวัฒนธรรมที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยจากทุกภูมิภาคต่อสายตาชาวโลกอย่างสง่างาม ไอคอนสยามมุ่งหมายให้โครงการนี้เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของประเทศไทย เพื่อสามารถออกไปแข่งขันได้ทัดเทียมกับโครงการใหญ่ระดับ World-class ในประเทศอื่นๆ ได้อย่างภาคภูมิ
MAPIC คือเวทีระดับโลกด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส โดยมีผู้เข้าร่วมงานนิทรรศการและสร้างเครือข่าย กว่า 4,000 คนจากกว่า 75 ประเทศทั่วโลก ทั้งนักลงทุน ผู้พัฒนาโครงการ ผู้บริหารแบรนด์ค้าปลีก และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมค้าปลีกโลก เพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ นวัตกรรม และแนวโน้มใหม่ๆ ในวงการค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์
ภายในงานประจำปีของ MAPIC มีการจัดมอบรางวัล MAPIC Awards ในสาขาต่างๆ ซึ่งถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติระดับโลก เพื่อยกย่องโครงการและแบรนด์ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมและการพัฒนาเมือง โดย MAPIC ได้มอบรางวัลในสาขาต่างๆ ทุกปี เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในธุรกิจค้าปลีกและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ค้าปลีกที่คนในวงการทั่วโลกรอคอย และให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งไอคอนสยามเคยได้รับรางวัลชนะเลิศสาขา Best Shopping Centre หรือศูนย์การค้าที่ดีที่สุดในโลก มาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2562
ยิ่งไปกว่านั้นในปีนี้ MAPIC ได้จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี จึงได้จัดให้มีการมอบรางวัลพิเศษ “Most Influential Retail Property Project of the Past 30 Years” เฉพาะในปีนี้เท่านั้น เพื่อยกย่องโครงการที่มีอิทธิพลสูงสุดของโลกในรอบสามทศวรรษ และรางวัลเชิดชูเกียรติ “PIONEERS OF PLACES AWARDS” แก่บุคคลที่เป็นผู้นำวิสัยทัศน์และมีผลงานอันโดดเด่นที่ได้กำหนดบรรทัดฐานใหม่ของโครงการที่ล้ำเลิศ เป็นผู้จุดประกายแรงบันดาลใจให้แก่อุตสาหกรรมค้าปลีกโลก และเป็นผู้ทรงอิทธิพลต่อการพัฒนาเมืองที่มอบประโยชน์ให้แก่ผู้คนและสังคม ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา
ไอคอนสยาม สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญบนเวทีโลก ด้วยการเป็นโครงการหนึ่งเดียวจากประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย (Finalist) ร่วมกับอีกสองโครงการ คือ Puerto Venecia จากประเทศสเปน และ Westfield London จากสหราชอาณาจักร โดยไอคอนสยามได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 3 สุดยอดโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกที่ทรงอิทธิพลที่สุดในรอบ 30 ปี หรือ Most Influential Retail Property Project of the Past 30 Years จากเวที MAPIC Awards 2025 อย่างสง่างาม
วิธีการคัดเลือกรางวัลพิเศษสาขา “Most Influential Retail Property Project of the Past 30 Years” ในรอบแรกคณะกรรมการ MAPIC ได้คัดเลือกโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ค้าปลีกที่เยี่ยมยอดจากหลายประเทศทั่วโลกจำนวน 15 โครงการ ในรอบ 30 ปี โดยคณะกรรมการให้ความสำคัญกับโครงการที่มีวิสัยทัศน์อันมุ่งมั่น สามารถเปลี่ยนมุมมองของอุตสาหกรรมและพลิกโฉมจุดหมายปลายทางด้านค้าปลีก โดยดูจากการออกแบบสถาปัตยกรรมที่แปลกใหม่ แนวคิดการผสมผสานร้านค้าแบบใหม่ และนำเสนอคุณค่าที่สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ โดยได้เข้าร่วมแข่งขันกับโครงการระดับโลกอย่าง Dubai Mall (UAE), Battersea Power Station (UK), Marina Bay Sands (Singapore), Westfield London (UK), La Maquinista (Spain), American Dream (UK), Mall of Emirates (UAE), Puerto Venezia (Spain), Blue Water (UK), Centro Columbo (Portugal), Forum Istanbul (Turkey), II Centro (Italy), Beaugrenelle (France), Manufaktura (Poland)
หลังจากนั้น MAPIC ได้เปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วโลกเข้าร่วมโหวตตั้งแต่เดือนกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคม ศกนี้ ผ่านระบบออนไลน์บนแพลตฟอร์มกลางของ MAPIC คอมมูนิตี้ เพื่อให้ประชาคมโลกได้ลงคะแนนคัดเลือกโครงการที่สมควรถูกยกย่องมากที่สุด ให้เหลือเพียง 3 โครงการ ซึ่งก็ได้ปรากฏว่าคนไทยได้เข้าร่วมแสดงพลังสนับสนุนโครงการไอคอนสยาม หนึ่งเดียวจากประเทศไทยบนเวทีระดับนานาชาติกันอย่างเต็มที่ ทำให้ไอคอนสยามเป็นโครงการเดียวจากเอเชียที่ติด Finalist เป็น 1 ใน 3 ของโลก โดยการประกาศผลและพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ณ เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ท่ามกลางการรวมตัวของผู้นำอุตสาหกรรมค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์จากทั่วโลก
นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ได้กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า “ความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์นี้เกิดขึ้นจากพลังแห่งความร่วมมือ ศรัทธาและจิตวิญญาณของบริษัทคนไทยที่ได้ตั้งใจสร้างแลนด์มาร์กใหม่ของประเทศ เพื่อนำเสนออัตลักษณ์ของความเป็นไทย โดยมีแรงบันดาลใจจากการที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นแบบอย่างของการนำเสนอความเป็นไทยที่งดงาม โดยทั้งสองพระองค์ได้ทรงงานตลอดพระชนม์ชีพ
เพื่อพัฒนาความสามารถของคนไทยจากภูมิปัญญาไทยในเรื่องต่างๆ ให้กลายเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ทรงคุณค่าและมีมูลค่ามหาศาล ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้เรามุ่งมั่นดำเนินรอยตาม และน้อมนําความเป็นไทยมาใช้ในการพัฒนา Global Destination เพื่อแข่งขันในเวทีโลกอย่างภาคภูมิ ในวันนี้ที่ไอคอนสยามได้เป็นโครงการหนึ่งเดียวจากประเทศไทยและเอเชีย ที่ได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 3 โครงการที่ทรงอิทธิพลของโลกนั้น ถือว่าได้บรรลุปณิธานแรกเริ่ม ที่จะให้โครงการนี้สร้างชื่อเสียงและเกียรติภูมิให้แก่ประเทศไทย ให้โลกได้รู้ว่าคนไทยไม่เป็นรองใครในเวทีโลก”
“โอกาสนี้ในนามของผู้ร่วมทุนทั้งสามฝ่าย คือ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด, แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งผู้บริหารและพนักงานของไอคอนสยาม ขอขอบคุณ The Makers ผู้ร่วมสร้างโครงการนี้ อันได้แก่คนไทยทั้งประเทศ และบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ จาก 15 ชาติ ใน 4 ทวีปทั่วโลก ที่รวมพลังกันเนรมิตแลนด์มาร์กแห่งนี้ให้เกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงชุมชนโดยรอบ และผู้ประกอบการทั้งหมดริมแม่น้ำเจ้าพระยา พันธมิตรทางธุรกิจ ที่ร่วมสร้างและสนับสนุนไอคอนสยามอย่างดียิ่งตลอดมาจนประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดของโลกในวันนี้ พวกเราได้ทำให้ผู้คนทั้งโลกหันกลับมามองที่แม่น้ำเจ้าพระยาสายนี้ และได้เห็นความเจริญรุ่งโรจน์ของประเทศไทย อีกทั้งได้สัมผัสประสบการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจและมีคุณค่าอย่างไม่มีที่ใดเสมอเหมือน”
“ตั้งแต่เปิดดำเนินการมาเป็นเวลา 7 ปี ไอคอนสยามได้พิสูจน์ให้เห็นถึงบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมเมืองธนบุรี ให้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่ยิ่งใหญ่ทัดเทียมฝั่งกรุงเทพมหานคร และยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบให้เติบโตไปพร้อมกัน โครงการนี้จึงมีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะร่วมสร้างคุณค่า (Shared Value) และเป็นแม่เหล็กที่ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อให้ประเทศไทยยืนหยัดได้อย่างสง่างามตลอดไป”
การที่ไอคอนสยาม ได้รับรางวัลนี้ ถือเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จในฐานะผู้ปฏิวัติวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกที่มีอิทธิพลระดับโลก (Revolutionary Retail Development) ซึ่งไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบที่ล้ำสมัย แต่ยังแสดงถึงบทบาทของประเทศไทยในเวทีนานาชาติด้านการพัฒนาเมืองและการค้าปลีกอย่างยั่งยืน โดยรางวัลนี้เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยสำคัญ ได้แก่
นางสาวชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติจากเวที MAPIC Awards 2025 คว้ารางวัล “PIONEERS OF PLACES AWARDS” ซึ่งเป็นรางวัลเชิดชูเกียรติระดับ Lifetime Achievement ในฐานะคนไทยและชาวเอเชียคนแรกที่ได้รับเกียรติอันทรงคุณค่านี้ เคียงข้างกับผู้นำธุรกิจค้าปลีกระดับโลกที่มีผลงานโดดเด่นอีก 4 ท่าน ได้แก่ Mr. Maurice Bansay ประธานและผู้ก่อตั้ง APSYS ผู้พัฒนาโครงการระดับแลนด์มาร์กทั้งในฝรั่งเศสและโปแลนด์ Mr.Philippe Journo ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Compagnie de Phalsbourg ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ของฝรั่งเศสที่มุ่งมั่นพัฒนาโครงการที่มีมาตรฐานด้านสถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อม Mr. Alexander Otto ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ECE ผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ค้าปลีกในยุโรปกว่า 200 แห่ง Mr. Alain Taravella ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัท ALTAREA หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ใน 3 ประเทศ ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน
รางวัลนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ ความมุ่งมั่น และความเป็นผู้นำของสยามพิวรรธน์ในการพัฒนาโกลบอลเดสติเนชัน อาทิ สยามพารากอน “The Pride of Bangkok” และ ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ผสานศูนย์การค้า ศิลปวัฒนธรรม ที่อยู่อาศัย และไลฟ์สไตล์เข้าไว้ด้วยกันอย่างงดงาม จนกลายเป็นต้นแบบใหม่ของโครงการที่เป็น Global Destination ความสำเร็จนี้ไม่เพียงตอกย้ำบทบาทของสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้บุกเบิกที่มีส่วนสำคัญในการยกระดับกรุงเทพมหานครสู่การเป็นศูนย์กลางค้าปลีกระดับโลก อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเป็น “Game Changer” ตัวจริงที่สามารถพลิกทุกวิกฤตให้เป็นโอกาส สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่วงการโลก
หนึ่งในความภาคภูมิใจสูงสุดของสยามพิวรรธน์ คือการมีส่วนร่วมในการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยบนเวทีโลก และการประกาศให้โลกรู้ว่า คนไทยมีความคิดสร้างสรรค์และความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก รางวัลอันทรงเกียรตินี้จึงไม่ใช่เพียงความสำเร็จขององค์กร หากแต่เป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ ความภาคภูมิใจ และแรงบันดาลใจของคนไทยทุกคน เสมือนการนำธงชาติไทยไปโบกสะบัดอย่างสง่างามบนเวทีโลก
กว่า 13 ปีนับตั้งแต่การประกาศวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ ไอคอนสยามได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงด้วยการพลิกพื้นที่ฝั่งเมืองธนบุรีให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ สังคม และสถานการณ์บ้านเมือง โครงการนี้ได้ฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ตั้งแต่การวางผังเมือง การสร้างความเข้าใจในวิสัยทัศน์ ไปจนถึงการเปิดตัวอย่างสง่างามในปี 2561 และการยืนหยัดผ่านวิกฤตโควิด-19 อย่างแข็งแกร่ง
วันนี้ไอคอนสยามได้พิสูจน์ให้โลกเห็นถึงพลังของการพัฒนาเมืองที่สร้างประโยชน์อย่างมหาศาลในทุกภาคส่วนทั้งชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างเป็นรูปธรรม สะท้อนแนวคิดการดำเนินธุรกิจแห่งโลกยุคใหม่ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของการแบ่งปันคุณค่าร่วมกันอย่างแท้จริง โดยไอคอนสยามเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาสที่เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการไทยกว่า 35,000 ครอบครัว และดีไซเนอร์ไทยกว่า 800–1,000 ราย ให้สามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนเป็นเจ้าของกิจการ สร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลผ่านโมเดิร์นเทรดและเวทีโลกอย่างแท้จริง
ไอคอนสยามเป็นหัวใจของการขับเคลื่อน “แผนแม่บทวิสัยทัศน์แห่งแม่น้ำเจ้าพระยา” แผนความร่วมมือระดับชาติที่มุ่งยกระดับสองฝั่งแม่น้ำให้เป็นสัญลักษณ์และจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนแก่ทุกภาคส่วน พร้อมกันนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจโดยรอบอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำและถนนเจริญนคร ส่งผลให้มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นจาก 250,000 บาท เป็น 700,000 บาทต่อตารางวา ธุรกิจริมแม่น้ำเติบโตกว่า 60% โรงแรมมีอัตราค่าห้องพักและการเข้าพักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังสร้างงานมากกว่า 400,000 อัตราและเป็นจุดหมายปลายทางดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 115 ล้านคน สู่ประเทศไทย
นอกจากนี้ ไอคอนสยามยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่กว่า 60 โครงการ ภายในรัศมี 1 กิโลเมตร และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม เป็นจุดเชื่อมโยงการสัญจรทั้งระบบรถ ราง เรือ และการเชื่อมต่อรถไฟฟ้า ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย
ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกของปี 2569 ไอคอนสยามยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการและแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่างต่อเนื่อง โดยมีแบรนด์ใหม่กว่า 51 ราย ทั้งลักซ์ชัวรีและแบรนด์ไทยชั้นนำ เลือกเปิดสาขาแรกของประเทศไทย ณ พื้นที่ไอคอนสยาม ฝั่งธนบุรี แทนที่จะเลือกฝั่งกรุงเทพฯ สะท้อนถึงศักยภาพของโครงการที่สามารถพลิกฟื้นพื้นที่ฝั่งธนฯ ให้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ระดับโลกอย่างแท้จริง พร้อมด้วยแบรนด์อีกนับร้อยรายที่อยู่ในรายชื่อ Waiting List รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท อาทิ
นับตั้งแต่เปิดดำเนินการในปี 2561 ไอคอนสยามได้สร้างชื่อเสียงให้วงการค้าปลีกไทย ด้วยการได้รับรางวัลชนะเลิศระดับโลกในสาขาต่างๆ มากกว่า 53 รางวัลจากเวทีและสถาบันชั้นนำระดับโลก ทั้งการเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก รางวัลศูนย์การค้าที่เป็นสุดยอดนวัตกรรมการออกแบบ รางวัลด้านการตลาด การสร้างสรรค์ประสบการณ์ และการสร้างคุณค่าให้กับประเทศไทย นอกจากรางวัลจากเวที MAPIC Awards 2019 สาขา Best Shopping Centre หรือศูนย์การค้าที่ดีที่สุดในโลก
รางวัลอันทรงเกียรติระดับโลก ได้แก่ รางวัล Outstanding Store Design of the Year จาก World Retail Awards 2019, รางวัล Gold Award ใน 4 สาขา คือ Design & Development Excellence, Marketing – Support to Business, Marketing – Grand Opening, Expansion & Renovation, และ Public Relations and Events จาก สมาคมศูนย์การค้าโลก หรือ International Council of Shopping Centers (ICSC) ในปี 2019, รางวัลชนะเลิศในระดับภูมิภาค สาขาโครงการค้าปลีกที่ดีที่สุด (Best Retail Development) จากเวที MIPIM Asia Awards 2019, รางวัล VIVA Best-of-the-Best Awards for Best Design and Development จากสมาคมศูนย์การค้าโลก (ICSC) ในปี 2020, รางวัล 1 ใน 4 ศูนย์การค้าที่ดีที่สุดในโลกจากเวที MIPIM Awards 2021, รางวัล Leading Brand in Iconic Shopping Mall of the Year จาก ASEAN Outstanding Business Awards 2023, รางวัล ICONIC THAI BRAND AWARD จาก Tatler Best Asia 2024, รางวัล Best Luxury Shopping Mall in Thailand จาก Luxury Lifestyle Awards 2024 และรางวัล Asia’s Most Innovative Shopping Experience จากงาน Cathay Members’ Choice Awards 2024
“รางวัลอันทรงเกียรติในครั้งนี้ จึงไม่ใช่ของสยามพิวรรธน์ แต่เป็นรางวัลของประเทศไทย เป็นเกียรติยศ และความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่ของคนไทยทุกคน เราจะมุ่งมั่นและทุ่มเททำทุกวิถีทาง เพื่อให้ไอคอนสยามเป็น ‘แม่เหล็ก’ ดึงดูดที่ทรงพลัง ที่จะทำให้คนทั้งโลกกลับมาเยี่ยมเยือนประเทศไทยครั้งแล้วครั้งเล่า และหลงรักประเทศไทยอีกครั้งอย่างไม่มีวันสิ้นสุด” นางชฎาทิพ กล่าวเสริม