CRC จับ 5 อินไซต์ผู้บริโภค เร่งปรับพอร์ตค้าปลีก-ค้าส่ง ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์
เซ็นทรัล รีเทล (CRC) ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่! ถอดรหัส 5 อินไซต์ผู้บริโภคยุคใหม่ ตั้งแต่ 'ใจร้อน-ชอบความสะดวก' ไปจนถึง 'ต้องพิเศษเฉพาะตัว' เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างแม่นยำ
KEY
POINTS
- เซ็นทรัล รีเทล (CRC) ใช้ 5 อินไซต์ผู้บริโภคเป็นแกนหลักในการปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง
- อินไซต์สำคัญ 5 ประการ ได้แก่ ความรวดเร็ว, ความสะดวกสบาย, ความแปลกใหม่, การตลาดเฉพาะบุคคล และการบริการที่ครบวงจร
- บริษัทนำเทคโนโลยี AI และ Big Data มาใช้ ควบคู่กับการขยายสาขาทั้งออฟไลน์และออนไลน์ และพัฒนาแพลตฟอร์ม Omnichannel
- เป้าหมายคือการปรับพอร์ตธุรกิจให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์และทุกกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่ตลาดแมส พรีเมียม จนถึงกลุ่มธุรกิจ (B2B)
ในภาวะที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นและความคาดหวังสูงขึ้นกว่ายุคก่อน ผู้ประกอบการค้าปลีกไทยต่างเผชิญแรงกดดันให้ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาฐานลูกค้าและสร้างความแตกต่าง ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้น ล่าสุด เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ประกาศเดินเกมใหม่ภายใต้ยุทธศาสตร์ “New Heights, Next Growth” โดยใช้ “อินไซต์ลูกค้า” เป็นแกนกลางเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ
นางสาวปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล รีเทล ระบุว่า ปัจจุบัน CRC มีฐานสมาชิก The 1 กว่า 22 ล้านคน ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อนำไปสู่การปรับพอร์ตสินค้าและบริการที่ครอบคลุมทุกช่วงชีวิตและไลฟ์สไตล์
5 อินไซต์ผู้บริโภคที่ CRC จับมาใช้เป็นทิศทางธุรกิจ
1. Speed First – เร็วคือหัวใจ
ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการบริการที่รวดเร็วและตรงเวลา CRC จึงนำ AI และระบบสต๊อกเรียลไทม์มาใช้เพื่อลดเวลาในการจัดการคำสั่งซื้อ รวมถึงพัฒนาสินค้า “Easy-to-Cook” และ “Easy-to-Eat” รองรับวิถีชีวิตเร่งรีบ
2. Effortless Everything – ความสะดวกต้องมาก่อน
ขยายทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ โดยเพิ่มสาขาของ Tops, Go Wholesale, ไทวัสดุ และออโต้วัน พร้อมต่อยอดแพลตฟอร์ม Omnichannel เช่น Central App, Chat & Shop และ Click & Collect
3. Constant Newness – ความสดใหม่และไม่ตกเทรนด์
CRC ใช้กลยุทธ์การจัดอีเวนต์ การเพิ่มแบรนด์ใหม่ และปรับห้างโรบินสันไลฟ์สไตล์ด้วยแนวคิด Localisation First เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความแปลกใหม่ตลอดเวลา
4. Made for Me – การตลาดเฉพาะบุคคล
นำ Big Data และ AI Marketing Personalisation มาช่วยวิเคราะห์ความต้องการลูกค้าแบบเรียลไทม์ ส่งผลให้ยอดซื้อเพิ่มขึ้นกว่าหลายเท่าตัว และเป็นอีกเครื่องมือสำคัญในการรักษาฐานลูกค้า
5. One-Stop Shopper – ครบทุกความต้องการในที่เดียว
เดินหน้าพัฒนา Tops Daily ในรูปแบบ Hybrid Format เพิ่มโซนไวน์ เบเกอรี่ และบิวตี้ รวมถึงขยายตลาด B2B ผ่าน Go Wholesale และเสริมพอร์ต Private Label ขณะที่ธุรกิจบ้านและวัสดุอย่าง ไทวัสดุ และ BNB Home ถูกปรับสู่ “ศูนย์รวมบ้านครบวงจร” รองรับเทรนด์ Smart Home และ Well-being
ปรับพอร์ตเชิงรุก ตอบโจทย์ทุกเซ็กเมนต์
การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนว่า CRC กำลังขยายบทบาทจากผู้ให้บริการค้าปลีกแบบดั้งเดิม สู่การเป็นแพลตฟอร์มค้าปลีก-ค้าส่งที่ใช้ “ข้อมูลและเทคโนโลยี” เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก โดยครอบคลุมทั้งตลาดระดับแมส พรีเมียม และ B2B ซึ่งเป็นโอกาสใหม่ที่ยังเติบโตได้
“เป้าหมายของเราไม่ใช่เพียงก้าวทันผู้บริโภค แต่ต้องการสร้างเทรนด์ใหม่ให้ตลาด ผ่านสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์” นางสาวปิยวรรณกล่าว