ทายาทรุ่น 3 นำทัพ "ไชยแสง สิงห์บุรี" ห้างค้าปลีกภูธรพันล้าน

23 มิ.ย. 2568 | 07:31 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มิ.ย. 2568 | 07:54 น.

ผ่าอาณาจักร "ไชยแสง สิงห์บุรี" ฝ่าวิกฤตกําลังซื้อหดตัว ไม่หวั่นยอดขายติดลบครั้งแรกรอบ 5 ปี หวังรัฐหนุนฐานราก พร้อมเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ ขยายอาณาจักรสู่จังหวัดใกล้เคียง

KEY

POINTS

นอกจากนี้ การสร้างประสบการณ์ที่นอกเหนือจากการช้อปปิ้งก็เป็นอีกปัจจัยที่ดึงดูดลูกค้า โครงการ CS Market ที่เปิดตัวในปี 2567 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน โดยเป็นพื้นที่ขนาดกว่า 2,000 ตารางเมตร ที่รวบรวมร้านอาหารและแบรนด์แฟรนไชส์ยอดนิยม พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษตลอดทั้งปี เช่น คอนเสิร์ต การประกวดร้องเพลง และตลาดกลางคืน เพื่อสร้างสีสันและเป็นจุดนัดพบสำหรับคนในชุมชน

นอกจากนั้น ไชยแสงยังขยายไปสู่ธุรกิจบริการ โดยเปิดโรงแรม 2 แห่ง ได้แก่ “โรงแรมไชยแสงพาเลส” ซึ่งมีห้องพักและห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ และ “ไชยแสงวิลล่า” โรงแรม 7 ชั้นพร้อมร้านอาหาร กลายเป็นจุดพักหลักของนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านตัวเมือง

กำลังซื้อหดตัวฉุดยอดขาย "ไชยแสง" ตกครั้งแรกในรอบ 5 ปี

นางสาวโชว์สิริ ตรีชัยรัศมี ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ค้าปลีก-ค้าส่ง บริษัทซีเอส พาร์ค จำกัด กำลังซื้อในต่างจังหวัดได้รับผลกระทบอย่างหนักตั้งแต่ปี 2567 สัญญาณการชะลอตัวชัดเจนขึ้นหลังจากที่ปี 2566 กำลังซื้อยังคงประคองตัวได้ดีจากนโยบายเงินช่วยเหลือของรัฐบาล เช่น โครงการคนละครึ่ง หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย

อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 การลดลงของนโยบายเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ ประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้รายได้และกำลังซื้อของประชาชนรากหญ้าลดลง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจค้าปลีกเป็นทอดๆ

นางสาวโชว์สิริ ระบุว่า ปี 2567 เป็นปีแรกในรอบ 5 ปีที่ยอดขายรวมของบริษัทติดลบอย่างเห็นได้ชัด โดยเริ่มเห็นสัญญาณตั้งแต่ไตรมาส 2 และยังคงติดลบต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน แม้ช่วงไตรมาสแรกจะยังพอประคองตัวได้จากเทศกาลปีใหม่ เมื่อพิจารณาในแต่ละประเภทธุรกิจของไชยแสง พบว่ากลุ่มเสื้อผ้า (ดีพาร์ทเมนท์สโตร์) ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง และมีการแข่งขันจากช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้สินค่าอุปโภคบริโภค (FMCG)  ยังคงพอประคองตัวได้ แต่ก็ยังมียอดขายติดลบอยู่เล็กน้อย โดยพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน "ลดไซส์" ลดขนาดการซื้อจากเดิมที่เคยซื้อสินค้าในแพ็กไซส์ใหญ่ เปลี่ยนมาเป็นการซื้อในปริมาณน้อยลง หรือแพ็กไซส์ที่เล็กลงในแต่ละครั้ง รวมถึงเน้นร้านค้าใกล้บ้าน ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากร้านค้าใกล้บ้านหรือร้านสะดวกซื้อบ่อยขึ้น แทนการเดินทางไปยังโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่

สำหรับร้านค้าส่งหรือ "ยี่ปั๊ว" ซึ่งเป็นกลุ่มค้าส่งสำคัญในต่างจังหวัด พบว่าการซื้อต่อครั้งของลูกค้าลดลงอย่างมาก จากที่เคยตุนสต็อกสินค้าเป็นเดือน ปัจจุบันจะซื้อเท่าที่จำเป็นและขายออกไปทันที (ซื้อมาขายไป) โดยไม่มีการตุนสต็อกเหมือนเดิม ทำให้ยอดขายโดยรวมของยี่ปั๊วลดลง

นอกจากนี้ ตลาดยี่ปั๊วยังเผชิญปัญหาจาก "มือปืน" ซึ่งเป็นกลุ่มที่ซื้อสินค้าล็อตใหญ่จากส่วนกลางในราคาที่ถูกกว่า และนำมาตัดราคาขายปลีกในพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อยอดขายและกลไกราคาของร้านค้าปลีกทั่วไป ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น

ภาคเอกชนวอนรัฐเร่งแก้ปัญหาฐานราก

ภาคธุรกิจค้าปลีกในต่างจังหวัดต่างฝากความหวังไว้กับภาครัฐ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาพื้นฐานของเศรษฐกิจรากหญ้า โดยเฉพาะภาคเกษตรกร ให้มีรายได้และกำลังซื้อที่แข็งแรงขึ้น ผ่านนโยบายที่ทำให้ราคาผลผลิตดีขึ้นและเกษตรกรอยู่ได้อย่างยั่งยืน

ในส่วนของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ เช่น โครงการ "ดิจิทัลวอลเล็ต" ในฐานะร้านค้าส่ง-ค้่าปลีกในพื้นที่ต่างจังหวัด แม้จะมีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ แต่ด้วยความไม่แน่นอนทางการเมืองทำให้โครงการยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ส่งผลให้ไม่เกิดการกระตุ้นกำลังซื้ออย่างที่คาดหวังไว้

เมื่อเทียบกับนโยบาย "คนละครึ่ง" ซึ่งเป็นการกระตุ้นที่ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบมากกว่า เนื่องจากมีการออกคนละครึ่งและการจำกัดยอดใช้จ่ายต่อวัน ทำให้เกิดการจับจ่ายที่ถี่และสม่ำเสมอ ในขณะที่นโยบายการให้เงินสดแก่กลุ่มเปราะบางแม้จะถึงมือผู้รับโดยตรง แต่เงินส่วนใหญ่มักถูกนำไปใช้หนี้สิน ไม่ได้เข้าสู่ระบบการจับจ่ายค้าปลีกในวงกว้างอย่างที่ควรจะเป็น จึงไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง นางสาวโชว์สิริ กล่าวทิ้งท้าย

"ไชยแสง สิงห์บุรี" ไม่ได้เป็นเพียงธุรกิจครอบครัวที่สามารถอยู่รอดในจังหวัดเล็ก ๆ ได้เท่านั้น แต่ยังได้พิสูจน์ตัวเองและกำลังก้าวขึ้นสู่การเป็นต้นแบบของ Local Modern Retail ที่มีความพร้อมในการเติบโตและขยายขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาค พร้อมวางแผนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ภายใน 5 ปี เพื่อระดมทุนสำหรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต โดยจะเน้นการขยายในรูปแบบ "ไชยแสง ซูเปอร์สโตร์" ไปยังจังหวัดใกล้เคียงที่มีศักยภาพและฐานลูกค้าคล้ายคลึงกัน ได้แก่ จังหวัดลพบุรีและชัยนาท โดยมีการเตรียมที่ดินรองรับแผนการขยายตัวดังกล่าวไว้แล้ว

 

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจผันผวนและกำลังซื้อที่ชะลอตัวในต่างจังหวัด "ห้างไชยแสง สิงห์บุรี" หนึ่งในโมเดลค้าปลีกท้องถิ่นพันล้านบาท ภายใต้การนำทัพของเจนเนอเรชันที่ 3 กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ โดยระบุว่า ปี 2567 เป็นปีแรกในรอบ 5 ปีที่ยอดขายรวมติดลบอย่างมีนัยสำคัญ

ทายาทรุ่น 3 นำทัพ "ไชยแสง สิงห์บุรี" ห้างค้าปลีกภูธรพันล้าน

ปัญหาหลักมาจากนโยบายช่วยเหลือจากภาครัฐที่ลดลง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปสู่การซื้อสินค้าในปริมาณที่เล็กลง เน้นร้านค้าใกล้บ้าน และการแข่งขันจากผู้ค้าภายนอก ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อระบบเศรษฐกิจฐานรากในภูมิภาค

"ไชยแสง สิงห์บุรี" จากร้านผ้าสู่ค้าปลีกพันล้าน

แม้จะเป็นจังหวัดเล็ก ๆ อย่างสิงห์บุรี แต่ "ห้างไชยแสง" ถือเป็นห้างปลีกแถว 2 ที่ครองส่วนแบ่งไม่แพ้ห้างใหญ่ในต่างจังหวัด ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2508 จากจุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายในชื่อ "ร้านใช่เส็ง" ซึ่งเป็นเพียงร้านขายผ้าเมตรเล็ก ๆ ในตลาดสดอำเภอเมืองสิงห์บุรี อย่างไรก็ตาม เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป จากความนิยมในการซื้อผ้าไปตัดเย็บสู่การหันมาสวมใส่เสื้อผ้าสำเร็จรูปมากขึ้น เจ้าของร้านรุ่นแรกได้ตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะขยับขยายธุรกิจครั้งใหญ่ จนกลายเป็นห้างสรรพสินค้าเต็มรูปแบบแห่งแรกของจังหวัดในปี พ.ศ. 2533 ในนาม "ไชยแสง ดีพาร์ทเมนท์สโตร์"

ทายาทรุ่น 3 นำทัพ "ไชยแสง สิงห์บุรี" ห้างค้าปลีกภูธรพันล้าน

ปัจจุบัน "ไชยแสง" ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ห้างสรรพสินค้าอีกต่อไป แต่ได้พัฒนาสู่การเป็น ศูนย์ค้าปลีกครบวงจร ประกอบด้วย ไชยแสง ดีพาร์ทเมนท์สโตร์, ไชยแสง ซูเปอร์สโตร์ (ครอบคลุมทั้งค้าปลีกและค้าส่ง) และ CS Park (ศูนย์รวมร้านอาหารและความบันเทิงครบครัน) ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่รวมกว่า 50 ไร่ สามารถรองรับลูกค้าได้กว่า 4,500 คนต่อวัน

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ "คุ้มจริง by ไชยแสง" ซึ่งเป็นการร่วมมือกับร้านโชห่วยท้องถิ่นและร้านค้าในจังหวัดใกล้เคียงรวม 25 ราย ซึ่งทำให้ยอดขายรวมทั้งกลุ่มธุรกิจทะลุหลักพันล้านบาทต่อปี ตอกย้ำบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นและสร้างความผูกพันกับชุมชนอย่างยั่งยืน

นางสาวโชว์สิริ ตรีชัยรัศมี และ นายเอกภูมิ ตรีชัยรัศมี สองพี่น้องทายาทรุ่นที่สามของไชยแสง เล่าถึงปัจจัยความสำเร็จของการเติบโตทางธุรกิจนี้ แม้สิงห์บุรีจะเป็นจังหวัดขนาดเล็ก แต่ไชยแสงกลับดึงดูดลูกค้าจากจังหวัดใกล้เคียงได้อย่างสะดวกสบาย เช่น ลพบุรี อ่างทอง ชัยนาท และนครสวรรค์

ทายาทรุ่น 3 นำทัพ "ไชยแสง สิงห์บุรี" ห้างค้าปลีกภูธรพันล้าน

นายเอกภูมิ ตรีชัยรัศมี ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายขาย ห้างหุ้นส่วนจำกัดไชยแสงดีพาร์ทเม้นสโตร์ และ บริษัท ซีเอส พาร์ค จำกัด เปิดเผยว่า หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือ การผสานกลยุทธ์ค้าปลีกสมัยใหม่เข้ากับความเข้าใจในบริบทท้องถิ่น โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับ ธุรกิจซูเปอร์สโตร์ ที่จำหน่ายสินค้าคอนซูเมอร์ซึ่งจำเป็นต่อการครองชีพของประชาชน ถือเป็นแกนหลักที่สร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจ