มูลนิธิสิริวัฒนภักดี ร่วมกับกลุ่มบริษัทชั้นนำ ได้แก่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน), บริษัท บีเจซี บิ๊กซี ดีเวลลอปเม้นท์ เซ็นเตอร์ จำกัด, บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท วัน แบงค็อก จำกัด ได้จัดแสดงดนตรีเฉลิมพระเกียรติฯ อย่างยิ่งใหญ่ “ROYAL JAZZ FOR THE CHAIPATTANA FOUNDATION”
ณ วัน แบงค็อก ฟอรั่ม (One Bangkok Forum) เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวาระ 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยนำรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้มูลนิธิชัยพัฒนา การจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงเป็นมหกรรมดนตรีที่น่าประทับใจ แต่ยังเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและสร้างการรับรู้ถึงคุณค่าของบทเพลงพระราชนิพนธ์และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
งาน “ROYAL JAZZ FOR THE CHAIPATTANA FOUNDATION” ได้รวบรวมศิลปินคุณภาพระดับแนวหน้าของไทยมาร่วมขับขานบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อาทิ นภ พรชำนิ, เบน ชลาทิศ, คิว สุวีระ, รัดเกล้า อามระดิษ, บี พีระพัฒน์, ลีเดีย ศรัณย์รัชต์, โก้ Mr.Saxman, อาร์ม กรกันต์, มาเรียม เกรย์, แนน สาธิดา, นิว นภัสสร, ฟางข้าว The Voice, เบิร์ด เอกชัย, เกล โสพิชา และ VIETRIO โดยมี คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติเป็นประธานในงาน ซึ่งจัดแสดงสองรอบ ได้แก่ รอบนักเรียน นักศึกษาในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 และรอบบุคคลทั่วไปในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นไปเพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงอุทิศพระองค์เป็นแบบอย่างของการ "ทำงานเพื่อแผ่นดิน" และทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชดำริและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งภารกิจของ "มูลนิธิชัยพัฒนา" ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและพึ่งพาตนเองได้
มูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งอยู่ภายใต้พระปณิธานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้นำหลักปรัชญา "เศรษฐกิจพอเพียง" มาผลักดันและเผยแพร่ เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคงและสมดุล ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเกษตร นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการเกษตรแบบพอเพียง พัฒนาศักยภาพทางการตลาดให้ชุมชนเข้มแข็ง ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (เช่น โครงการกังหันน้ำชัยพัฒนา) การสนับสนุนด้านสาธารณสุขและการศึกษา รวมถึงการฟื้นฟูผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นภารกิจสำคัญที่สร้างประโยชน์สุขแก่ประชาชนชาวไทยอย่างต่อเนื่อง
ความพิเศษของการแสดงดนตรีในครั้งนี้ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์อันไพเราะและถูกต้องครบถ้วนทุกโน้ตดนตรีเท่านั้น แต่ยังมอบประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งและครบวงจรแก่นักท่องเที่ยวและผู้เข้าร่วมงาน
เรื่องราวเบื้องหลังบทเพลงพระราชนิพนธ์ ผู้เข้าชมงานได้รับทราบเรื่องราวเบื้องหลังอันทรงคุณค่าของบทเพลงพระราชนิพนธ์ ซึ่งเรียบเรียงเนื้อหามาจากหนังสือประมวลบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์” ทำให้เข้าใจความเป็นมา เกร็ดความรู้ สาระ และคติธรรมแห่งชีวิตที่แฝงอยู่ในบทเพลงได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น
นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ มีการจัดแสดงภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งภาพถ่ายเหล่านี้ยังเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ภาพประกอบบทเพลงอีกด้วย
นิทรรศการมูลนิธิชัยพัฒนา บอกเล่าความเป็นมาและผลงานของมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อสร้างความเข้าใจในพระราชกรณียกิจและโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
โซนจัดแสดงงานศิลปะและการออกร้าน "ภัทรพัฒน์": ผู้เข้าร่วมงานยังได้เลือกซื้อสินค้าของมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิฯ โดยตรง และยังเป็นการส่งเสริมงานศิลปะและผลิตภัณฑ์จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
การจัดงาน “ROYAL JAZZ FOR THE CHAIPATTANA FOUNDATION” ณ วัน แบงค็อก ฟอรั่ม ถือเป็นการนำเสนอ "Soft Power" ของประเทศไทยผ่านมิติทางดนตรี ศิลปะ และพระราชกรณียกิจอันเป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล ไม่เพียงแต่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สนใจศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ไทย แต่ยังเป็นช่องทางในการสร้างการรับรู้ถึง "การท่องเที่ยวเชิงความรับผิดชอบ" (Responsible Tourism) และการท่องเที่ยวที่ส่งเสริมคุณค่าทางสังคม โดยรายได้ทั้งหมดมอบให้มูลนิธิชัยพัฒนาโดยไม่หักค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่มีเอกลักษณ์และคุณค่าทางจิตใจ
การจัดแสดงดนตรีเฉลิมพระเกียรติฯ ครั้งนี้จึงปิดฉากลงได้อย่างยิ่งใหญ่และน่าประทับใจ ทั้งแสง สี และเสียงดนตรีอันไพเราะที่หาชมได้ยาก เป็นการรวมพลังจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนภารกิจของมูลนิธิฯ และสร้างความสุข ความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน และเป็นการส่งเสริมคุณค่าของวัฒนธรรมไทยสู่สายตาโลกอีกด้วย