นายโจว หยุนเจี๋ย ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอของ Haier Group กล่าวว่า กล่าวว่า กลุ่มบริษัทไฮเออร์ ประกาศความสำเร็จในเวทีระดับสากล คว้าอันดับที่ 54 ในรายงาน Kantar BrandZ Top 100 Most Valuable Global Brands ประจำปี 2568 ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน 100 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ด้วยมูลค่ารวมกว่า 47.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.55 ล้านล้านบาทไทย) เพิ่มขึ้นถึง 47.1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ความสำเร็จในครั้งนี้ สะท้อนบทบาทผู้นำในฐานะแบรนด์ Ecosystem ประเภท Internet of Things (IoT) ติดอันดับโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 7
โดยกลยุทธ์แบรนด์ Ecosystem ถูกวางรากฐานไว้บน 3 เสาหลักสำคัญ ได้แก่ ระบบนิเวศการใช้ชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living Ecosystem), ระบบนิเวศอุตสาหกรรมสุขภาพแบบครบวงจร (Comprehensive Health Ecosystem) และระบบนิเวศอุตสาหกรรมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Ecosystem) สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ได้ และยกระดับบทบาทของแบรนด์จากผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบดั้งเดิม สู่การสร้างระบบนิเวศที่เชื่อมโยงผู้ใช้เข้ากับเทคโนโลยีอัจฉริยะได้อย่างไร้รอยต่อ
ในด้าน Smart Living ไฮเออร์ได้พัฒนา “UhomeGPT” โมเดล AI เฉพาะของแบรนด์ที่มีความสามารถหลัก 3 ด้าน ได้แก่ การเข้าใจ การรับรู้ และการเคลื่อนไหว เพื่อขับเคลื่อนประสบการณ์การใช้ชีวิตอัจฉริยะภายในบ้าน โดยเฉพาะการเชื่อมต่อการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น ตู้เย็น เตาอบ และอุปกรณ์ครัวสมัยใหม่ ด้าน Health Ecosystem ก็ได้ขยายขอบเขตจากการแพทย์ดั้งเดิมไปสู่ระบบที่ครอบคลุมตั้งแต่ชีววิทยาศาสตร์ การแพทย์คลินิก จนถึงเทคโนโลยีชีวภาพ และสามารถเติบโตขึ้นเป็นผู้นำในระดับประเทศภายในเวลาเพียง 5 ปี ขณะที่ใน
ด้าน Digital Economy ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม COSMOPlat ให้กลายเป็น “เครื่องจักรอัจฉริยะ” เพื่อการผลิตแบบมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนในอุตสาหกรรมต่างๆ นอกจากนี้ท่ามกลางกระแส AI ที่กำลังปฏิรูปโลกอุตสาหกรรม ไฮเออร์ได้ประกาศให้ปี 2568 เป็น “ปีแห่งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อย่างเต็มรูปแบบ” โดยการฝัง AI เข้าในทุกกระบวนการขององค์กร เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและเสริมพลัง Ecosystem ของแบรนด์ทั้งสามเสาหลักอย่างรอบด้าน เดินหน้าไปสู่การเป็นแบรนด์นวัตกรรมระดับโลกที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง
นายโจว กล่าวว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ยึดผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง ไฮเออร์มุ่งมั่นในการสร้าง ‘คุณค่าของมนุษย์’ ให้เติบโตเคียงคู่ไปกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพราะในปัจจุบัน ความต้องการของผู้ใช้งานได้เปลี่ยนจากการเป็นเพียงผู้รับสารแบบตั้งรับ ไปสู่การมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างสรรค์อย่างแท้จริง
จึงเดินหน้าพัฒนารูปแบบการมีปฏิสัมพันธ์ใหม่ระหว่างแบรนด์กับผู้ใช้ผ่านการผสานพลังของ AI อย่างชาญฉลาด พร้อมกันนี้ยังได้ฝังเทคโนโลยี AI เข้าไปในทุกสถานการณ์การใช้งานในชีวิตประจำวัน เพื่อร่วมสร้างอนาคตที่เทคโนโลยีสามารถ ‘ปรับตัวเข้าหามนุษย์’ เพราะในยุคนี้ใครก็ตามที่ไม่ลุกขึ้นมาพัฒนาและเติบโตร่วมกับ AI ก็ย่อมเสี่ยงที่จะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
ด้าน นายดอรีน หวัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Kantar ประเทศจีน และประธาน Kantar BrandZ ทั่วโลก กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของแบรนด์ระดับโลกมากมาย บางแบรนด์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่บางแบรนด์กลับค่อยๆ หดตัวลง และสำหรับไฮเออร์ คือแบรนด์ที่เดินทางจากรากฐานในเมืองชิงเต่า สู่การเป็นแบรนด์ชั้นนำของประเทศจีน และก้าวขึ้นสู่เวทีระดับโลกอย่างมั่นคง ล่าสุดก็สามารถยกระดับสู่การเป็นแบรนด์ Ecosystem ที่มีโครงสร้างระบบนิเวศครบถ้วน
ที่สำคัญไฮเออร์ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการปรับตัวให้สอดรับกับผู้คนและบริบทที่หลากหลายทั่วโลกอย่างมีประสิทธิภาพ ตอกย้ำสถานะความเป็นแบรนด์ระดับโลกที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง
โดย Kantar BrandZ ถือเป็นหนึ่งในการจัดอันดับมูลค่าแบรนด์ระดับโลกที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในแวดวงธุรกิจ อิงจากการวิเคราะห์ทางการเงินอย่างละเอียดควบคู่กับข้อมูลเชิงลึกจากผู้บริโภคในตลาดสำคัญกว่า 54 ประเทศทั่วโลก สำหรับปี 2568 นี้ มูลค่ารวมของ 100 แบรนด์ชั้นนำพุ่งทะยานสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 10.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 29% เมื่อเทียบกับปี 2567 สะท้อนถึงบทบาทของแบรนด์ชั้นนำที่สามารถปรับตัวและขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ Apple ยังคงครองอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ด้วยมูลค่าแบรนด์สูงถึง 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วย Google, Microsoft, Amazon และ NVIDIA ขณะที่แบรนด์จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วน 6% ของมูลค่ารวมในกลุ่มGlobal Top 100 และการเติบโตของไฮเออร์ในปี 2568 นี้ ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่เด่นชัดของกลยุทธ์การสร้างแบรนด์แบบ Ecosystem ที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง จนสามารถตอบโจทย์ตลาดโลกและสร้างอิทธิพลในระดับนานาชาติได้