ศึกทีวี 2 หมื่นล้านเดือด 'ซัมซุง' ขนทัพ AI TV เจาะตลาดพรีเมียม ชิงแชร์
'ซัมซุง' ประกาศศักดาผู้นำตลาดทีวีโลกและไทย รุกหนักปี 2568 ส่งทัพ 'AI TV' เจาะกลุ่มพรีเมียม ชูเทคโนโลยีอัจฉริยะพลิกโฉมอุตสาหกรรม หวังรักษาเบอร์หนึ่งตลาด 2 หมื่นล้าน รับแรงหนุนมหกรรมกีฬาโลก
นายชวพจน์ เทียนทอง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ประเมินว่า ตลาดรวมทีวีประเทศไทยในปี 2567 จะมีการเติบโตด้านจำนวนเครื่องถึง 20% เฉพาะในช่วงที่มีการแข่งขันกีฬาระดับโลก โดยซัมซุงในฐานะผู้นำตลาดทีวีโลกและในไทย ด้วยส่วนแบ่งตลาด 30.1% ในปี 2566 พร้อมที่จะรุกตลาดอย่างหนักด้วยเทคโนโลยี Samsung AI TV ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมทีวีสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์ พร้อมเน้นเจาะตลาดสินค้าระดับพรีเมียมที่มีราคาสูงกว่าทีวีทั่วไปในตลาดถึง 50%
ซัมซุงเตรียมส่งไลน์อัปสินค้าใหม่ถึง 6 รุ่น ได้แก่ Neo QLED 8K, Neo QLED 4K, Samsung OLED, Micro LED, Lifestyle TV และ Sound Device โดยมีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ Neo QLED 8K รุ่นเรือธง ที่มาพร้อมระบบประมวลผลเร็วกว่าเดิม 2 เท่า และสามารถอัปสเกลคอนเทนต์ให้ใกล้เคียง 8K รวมถึง OLED Glare-Free รุ่นแรกของโลกที่ลดการสะท้อนแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับฟีเจอร์ใหม่ ยังเน้นการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Smart Mobile Connect ที่เปลี่ยนมือถือให้เป็นรีโมทคอนโทรลได้ รวมถึง AI Energy Mode ที่ช่วยประหยัดไฟได้ถึง 30% สอดรับกับเทรนด์ความยั่งยืน ในด้านราคา ทีวีซัมซุงรุ่นพรีเมียม QLED ขนาด 70 นิ้ว เริ่มต้นที่ 3 หมื่นบาท ไปจนถึงรุ่น Micro LED เทคโนโลยีล่าสุด ที่มีราคาสูงถึงหลักล้านบาท (3.5 - 6 ล้านบาท)
สมรภูมิตลาดทีวีไทยมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท กลับมาทวีความร้อนแรงอีกครั้งในปี 2567 โดยเฉพาะในช่วงกลางปีที่ได้รับแรงหนุนจากมหกรรมกีฬาระดับโลก ทั้งฟุตบอลยูโร 2024 ที่เยอรมนี (14 มิ.ย. - 14 ก.ค.) และโอลิมปิก 2024 ที่ฝรั่งเศส (26 ก.ค. - 11 ส.ค.) ซึ่งเป็นอีเวนต์สำคัญที่กระตุ้นความต้องการทีวีจอใหญ่ของผู้บริโภค
เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ซัมซุงยังได้ร่วมกับ บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล ให้บริการสินเชื่อ Samsung Finance+ ที่ให้ลูกค้าสามารถผ่อนนานสูงสุดถึง 24 เดือน จากเดิม 11 เดือน โดยใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียว พร้อมขยายวงเงินผ่อนสูงสุดถึง 45,000 บาท จากเดิม 15,000 บาท เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการทีวีขนาดใหญ่ขึ้น
จากแผนการรุกตลาดดังกล่าว ซัมซุงคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างยอดขายเติบโต 10% และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดรวมทีวีอีก 1-2% จากปัจจุบันที่ 30.1% โดยมีสัดส่วนสินค้ากลุ่ม AI TV ประมาณ 40-50% ของสินค้าทีวีทั้งหมด
สำหรับภาพรวมตลาดทีวีซัมซุงในปี 2566 มีการเติบโตสูงกว่าตลาดถึง 8% โดยสินค้ารุ่นเรือธงขนาด 75 นิ้วได้รับความนิยมอย่างมาก และมียอดขายจากช่องทาง B2C สูงถึง 93%
ทั้งนี้ กลยุทธ์การรุกตลาดทีวีจอใหญ่และกลุ่มพรีเมียม QLED และ Neo QLED ที่ซัมซุงดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 ได้สร้างยอดขายทั่วโลกสะสมกว่า 40 ล้านเครื่อง โดยในปี 2566 มียอดขาย QLED สูงถึง 8.31 ล้านเครื่อง