นายสัตวแพทย์จดล สุวรรณฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรยัล คานิน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในไทยยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเติบโตเฉลี่ยสูงกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ราว 1-2% ทุกปี และไม่มีปีใดที่อัตราการเติบโตต่ำกว่า GDP ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มองสัตว์เลี้ยงเป็น “สมาชิกในครอบครัว” มากกว่าสัตว์เลี้ยงแบบเดิม
การดำเนินธุรกิจในปีนี้โรยัล คานิน ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับเทรนด์ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งพบว่าปัจจุบันสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัขและแมวมีอายุยืนขึ้น ทำให้สังคมสัตว์เลี้ยงสูงวัยมีปริมาณเพิ่มขึ้น ความต้องการอาหารและผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยงสูงวัยเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
บริษัทจึงเปิดตัวไลน์อาหารสำหรับแมวและสุนัขอายุ 12 ปีขึ้นไป ภายใต้สูตร Ageing 12+ ซึ่งออกแบบเม็ดอาหารให้เหมาะกับสัตว์ที่มีปัญหาสุขภาพฟัน พร้อมสูตรโภชนาการที่ดูแลระบบภายใน ขน และผิวหนัง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของสัตว์เลี้ยงสูงวัย
“จากเดิมเรามีสูตร 7+ แต่ปัจจุบันเริ่มเห็นแมวและหมาอายุเกิน 10 ปีมากขึ้น เราจึงนำเข้าสูตรเฉพาะกลุ่มอายุ 12+ เพิ่มเติมในปีนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากเจ้าของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะกลุ่มแมวสูงวัย”
นอกจากอาหารทั่วไปแล้ว โรยัล คานิน ยังเน้นพัฒนาอาหารเฉพาะโรค เช่น เบาหวาน ระบบทางเดินอาหาร ไต และระบบทางเดินปัสสาวะ เพื่อสนับสนุนสัตวแพทย์ในการใช้โภชนาการประกอบการรักษา โดยเฉพาะในโรคที่ต้องดูแลระยะยาว เช่น เบาหวาน ที่การควบคุมอาหารมีผลต่อประสิทธิภาพของการรักษาอย่างชัดเจน
หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญปีนี้ คือ การเจาะตลาดกลุ่ม Gen Z และ Gen Alpha ซึ่งกำลังกลายเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงรุ่นใหม่ โดยเฉพาะหลังโควิด-19 ที่คนรุ่นใหม่เริ่มเลี้ยงแมวหมามากขึ้น ปัจจุบันกว่า 25% ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงเป็นกลุ่ม Gen Z ซึ่งให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย ความรู้ และการดูแลที่มีคุณภาพและเพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่
โรยัล คานินจึงมุ่งสร้างคอนเทนต์ดิจิทัล เช่น วิดีโอสั้นใน TikTok การใช้ KOL เพจสัตว์เลี้ยง และเปิดตัว “Friend of Royal Canin” เช่น “น้องสกาย” และ “น้องแนน” เพื่อถ่ายทอดแนวคิด “สุขภาพที่ดี คุ้มค่าที่สุด” สู่กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่
นายสัตวแพทย์จดล กล่าวอีกว่า จากข้อมูลจากบริษัทชี้ว่าแม้ Gen X จะยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมากที่สุด แต่ Gen Z คือกลุ่มที่ “ซื้อบ่อย” และเลือกสินค้าตามความสะดวก เช่น ขนาดเล็ก พกพาง่าย หรือซื้อผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งโรยัล คานินก็ได้ปรับผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับพฤติกรรมดังกล่าว
“แม้ราคาสินค้าจะสูงเมื่อเทียบกับแบรนด์ทั่วไป แต่เรามั่นใจในคุณภาพ เพราะอาหารของเราถูกพัฒนาขึ้นมาให้เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยง ทำให้สัตว์เลี้ยงกินในปริมาณน้อยกว่าปกติเมื่อเทียบต่อมื้อ และนั่นหมายถึงความคุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในแง่สุขภาพและค่าใช้จ่ายในการรักษา”
นอกจากนี้โรยัล คานิน ยังเร่งสร้างฐานข้อมูลลูกค้าและเสริมความสัมพันธ์ผ่านแอปพลิเคชันของแบรนด์ ที่ให้ความรู้เฉพาะสายพันธุ์ คำแนะนำเรื่องโภชนาการ และการดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยงในแต่ละช่วงวัย รวมถึงโปรโมชั่น สิทธิพิเศษ และกิจกรรมสะสมแต้ม เพื่อลดช่องว่างระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค
ข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงไทยระบุว่า ปี 2566 มูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงในไทยทะลุ 4.8 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตขึ้นเป็น 5 หมื่นล้านบาทในปี 2568 โดยมีอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นสัดส่วนมากที่สุดกว่า 45% รองลงมาคือของใช้ บริการ และสุขภาพสัตว์
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,094 วันที่ 8 - 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568