เผยเทรนด์การทำงานปี 2025 ผู้นำยุคใหม่ต้อง “เข้าใจ” พนักงาน!

17 เม.ย. 2568 | 22:26 น.

โรเบิร์ต วอลเทอร์ส เผยเทรนด์การทำงานปี 2025 อนาคตกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้นำที่มี "ความเข้าใจ" พนักงานเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันองค์กรให้ก้าวหน้า

ประเทศไทยในปี 2568 จะเผชิญกับความท้าทายใหม่ในการดึงดูดและรักษาคนเก่งให้คงอยู่กับองค์กร โดยผลสำรวจจาก บริษัท โรเบิร์ต วอลเทอร์ส ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านการจัดหางานระดับโลก พบว่า

 

"30% ของพนักงานมองว่าองค์กรควรให้ความสำคัญกับการรับฟังความต้องการของพนักงาน เพื่อตอบรับโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว"

เผยเทรนด์การทำงานปี 2025 ผู้นำยุคใหม่ต้อง “เข้าใจ” พนักงาน!

โดยพนักงานยังมองเห็นความพยายามของนายจ้างในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอกองค์กร

นางปุณยนุช ศิริสวัสดิ์วัฒนา ผู้จัดการประจำประเทศไทยของโรเบิร์ต วอลเทอร์ส กล่าวว่า

"การสรรหาบุคลากรในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงขึ้น และองค์กรไม่สามารถหยุดนิ่งได้

ดังนั้น หลายองค์กรจึงเริ่มให้ความสำคัญกับความคล่องตัว การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และการพัฒนา ภาวะผู้นำแบบเน้นคนเป็นศูนย์กลาง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานและการเปลี่ยนแปลงในตลาดธุรกิจ"

รายงานเทรนด์บุคลากรปี 2025 (Talent Trends 2025)  

จากรายงาน Talent Trends 2025 ของโรเบิร์ต วอลเทอร์ส ซึ่งศึกษาดูแนวโน้มการจ้างงานในประเทศไทย พบว่า AI  ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสรรหาบุคลากร โดย 9 ใน 10 ขององค์กรในไทย ได้นำ AI มาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การลดระยะเวลาการสรรหาพนักงานจาก 6,700 ชั่วโมง เป็นผลจากการใช้เทคโนโลยี AI

ในส่วนของ "ภาวะผู้นำยุคใหม่ ผู้นำที่มีความเข้าอกเข้าใจ (empathy)" กลายเป็นทักษะที่มีความสำคัญสูงสุดในองค์กรไทย โดย 70% ของพนักงานเชื่อว่าผู้นำที่เข้าใจผู้ร่วมงานสามารถส่งเสริมผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ดีกว่า

 

นอกจากนี้ แนวโน้มของการทำงานแบบ ไฮบริด หรือการทำงานแบบยืดหยุ่นกำลังเป็นที่นิยม โดย 95% ของพนักงาน ในประเทศไทยต้องการให้องค์กรทดลองใช้ระบบทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์

 

ทักษะแห่งอนาคต ที่องค์กรไทยเริ่มให้ความสำคัญได้แก่

1.การสื่อสาร

2.ความยืดหยุ่นทางจิตใจ

3.ความตระหนักรู้ทางวัฒนธรรม

เนื่องจากทักษะเหล่านี้จะช่วยให้พนักงานสามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆ และเติบโตในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

แนวโน้ม การจ้างงานผู้เกษียณ หรือ “Un-retiring” ก็เป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยหลายองค์กรเริ่มเปิดรับผู้เกษียณกลับมาทำงานในลักษณะงานชั่วคราวหรือโปรเจกต์ระยะสั้น เพื่อเติมเต็มตำแหน่งงานว่างและสร้างทีมข้ามรุ่น (multi-generational teams) ที่มีทั้งทักษะประสบการณ์และการคิดเชิงนวัตกรรม

 

การพัฒนา ทักษะความเป็นผู้นำ และการมุ่งพัฒนา ทักษะที่ไม่ใช่ด้านเทคนิค เช่น อารมณ์ฉลาด (Emotional Intelligence) และ ความสามารถในการปรับตัวกับเทคโนโลยี จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพและความยั่งยืนให้กับองค์กรในอนาคต

 

องค์กรไทย ควรมองทักษะเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคตท่ามกลางความท้าทายที่ไม่หยุดนิ่ง