ฝุ่น PM2.5 ดันยอดขายเครื่องฟอกอากาศพุ่ง 10 เท่า

14 ก.พ. 2568 | 22:10 น.

ฝุ่น PM2.5 ดันยอดขายเครื่องฟอกอากาศพุ่ง 10 เท่าตัว “เพาเวอร์บาย-เพาเวอร์มอลล์” ชี้ราคาเป็นไปตามกลไกของตลาด ย้ำไม่มีการปรับราคา พร้อมอัดโปรชิงยอดขายทุกแพลตฟอร์ม

วิกฤตฝุ่น PM2.5 ที่สูงติดอันดับโลกในหลายจังหวัด ส่งผลให้ “เครื่องฟอกอากาศ” มีความต้องการสูงอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้บรรดาแบรนด์ต่างระดมยกทัพสินค้าออกวางจำหน่าย ก่อสมรภูมิเดือด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ห่วงใยสุขภาพ

นางสาวศิวาพร สัมมุตถี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายบริหารสินค้าแบบออมนิชาแนล บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ที่หลายคนกังวลว่าเมื่อดีมานด์เครื่องฟอกอากาศพุ่งสูงขึ้น น่านน้ำสีแดงดังกล่าวจะปรับราคาเพื่อฉกฉวยโอกาสทองหรือไม่นั้น

ฝุ่น PM2.5 ดันยอดขายเครื่องฟอกอากาศพุ่ง 10 เท่า

“ทางเพาเวอร์บายได้มีการบริหารจัดการสต็อกสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดยได้ประสานงานกับแบรนด์ต่างๆ เพื่อเติมสต็อกสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแบรนด์ที่ได้รับความนิยมส่วนในเรื่องของราคา ไม่มีการปรับขึ้น แต่เรายังมีการจัดส่งเสริมการขายทั้งช่องทางหน้าร้าน และออนไลน์ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ามาซื้อที่เพาเวอร์บายมากขึ้น”

ทั้งนี้ภาพรวมตลาดเครื่องฟอกอากาศในช่วงต้นปี 2568 นี้เติบโตแบบก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยหลักมาจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในปีนี้ค่อนข้างวิกฤตและสูงเกินมาก โดยเฉพาะกรุงเทพที่มียอดขายเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตามด้วยหัวเมืองใหญ่ๆ ส่งผลให้ยอดขายเครื่องฟอกอากาศของเพาเวอร์บายเพิ่มขึ้นในทุกแพลตฟอร์ม ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์

ฝุ่น PM2.5 ดันยอดขายเครื่องฟอกอากาศพุ่ง 10 เท่า

 โดยคาดว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมนี้ ในเขตภาคเหนือซึ่งมีปริมาณฝุ่นสูง จะส่งผลให้พื้นที่โซนภาคเหนือมียอดขายเครื่องฟอกอากาศโตขึ้นอย่างแน่นอน สำหรับการเติบโตของเครื่องฟอกอากาศนั้น เรียกได้ว่าโตขึ้นในทุกๆ segment ทั้งกลุ่มสินค้าพรีเมียม และกลุ่มสินค้าแมส

 อีกทั้งตลาดเครื่องฟอกอากาศในไทยปีนี้ค่อนข้างคึกคักอย่างมาก ทำให้แบรนด์ต่างๆ ส่งสินค้าที่มีความหลากหลายทั้งฟังก์ชันการใช้งาน และด้านราคามาทำการแข่งขันในตลาดมากขึ้น ถือเป็นข้อดีสำหรับผู้บริโภคจะมีทางเลือกในการซื้อเครื่องฟอกอากาศตามกำลังซื้อ และตรงกับการใช้งานได้ง่ายขึ้น

 “วิกฤต PM 2.5 ผลักดันให้ยอดขายเครื่องฟอกอากาศพุ่งสูง บริษัทแข่งขันกันดุเดือด แห่อัดโปรชิงแชร์ ทางพาวเวอร์บายเอง จัดเต็มทั้งส่วนลดสูงสุด 30% และสิทธิพิเศษมากมาย และยังสามารถเข้าร่วมโครงการ easy e-receipt ได้อีกด้วย ทั้งนี้ตลาดเครื่องฟอกอากาศยังมีโอกาสในการเติบโตอยู่มาก จากกลุ่มผู้บริโภคที่ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นเป็นชิ้นที่ 2-3 เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนห้องภายในบ้าน” นางสาวศิวาพร กล่าว

 ด้านนายรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริหารสินค้า POWER MALL, บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ราคาเครื่องฟอกอากาศยังคงเป็นไปตามกลไกของตลาด และไม่มีการปรับราคาขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว อัตราการเพิ่มขึ้นการซื้อเครื่องฟอกอากาศเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์เติบโตขึ้นประมาณ 5 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และในบางวันยอดขายสูงขึ้นมากกว่า 10 เท่า

ฝุ่น PM2.5 ดันยอดขายเครื่องฟอกอากาศพุ่ง 10 เท่า

 สำหรับสินค้าขนาดเครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความสนใจสูง คือ เครื่องที่เหมาะสำหรับพื้นที่ 40 ตร.ม. เนื่องจากเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม ต่อมาเครื่องที่เหมาะกับพื้นที่ขนาด 60 ตร.ม. และพื้นที่ 100 ตร.ม.ขึ้นไป

 ทั้งนี้ตลาดเครื่องฟอกอากาศมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจาก PM2.5 และผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพอากาศภายในบ้านมากขึ้น ทำให้เพาเวอร์มอลล์ ต้องบริหารจัดการหน้าร้านเพื่อให้มีสินค้าเพียงพอกับความต้องการ แบรนด์เครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ ได้แก่ ชาร์ป และอีเลคโทรลักซ์ นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์อื่นๆ จากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเช่นกัน

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,071 วันที่ 16 - 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568