"จื้อ-เล่อ พัฒนา" เปิดตัวโรงเรียน 3 ภาษา พัฒนาเด็กไทยสู่ยุคโลกาภิวัตน์

13 ม.ค. 2568 | 06:56 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ม.ค. 2568 | 07:56 น.

"จื้อ-เล่อ พัฒนา" ขานรับวิสัยทัศน์กระทรวงศึกษาธิการ เปิดตัวโรงเรียน 3 ภาษา จีน-ไทย-อังกฤษ ในราคาที่เข้าถึงได้ พร้อมรับเด็กอายุ 2–11 ปี ในปีการศึกษา 2568 โดยเริ่มต้นตั้งแต่ปฐมวัย เพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษาสู่อาชีพในอนาคต

นายวอลเตอร์ ลี ผู้ก่อตั้ง โรงเรียนสามภาษาจื้อ-เล่อ พัฒนา และประธาน กลุ่มบริษัทจื้อ-เล่อ กล่าวว่า ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน การเรียนภาษาจีนถือว่ามีความจำเป็น เพราะอิทธิพลของจีนค่อนข้างสูง มีประชากรมากกว่า 1,400 ล้านคน เป็นประเทศที่ใหญ่ระดับโลกและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน และคนหันมาใช้ภาษาจีนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ถัดมาจึงจะเป็นสเปนและอังกฤษ

ดังนั้น กลุ่มบริษัทจื้อ-เล่อ จึงมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้นักเรียนรุ่นเยาว์ในประเทศไทยได้มีหลักสูตรสามภาษา ไทย อังกฤษ และจีน คุณภาพสูง ในราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยการก่อตั้งโรงเรียนสามภาษา จื้อ-เล่อ พัฒนา ด้วยงบประมาณลงทุนเบื้องต้นเหมือนโรงเรียนทั่วไปโดยประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดทำการในปี 2568 นี้ โดยใช้วิธีการที่แตกต่างจากการเรียนการสอนแบบเดิมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การเรียนที่เกิดผลสัมฤทธิ์มากที่สุด

"จื้อ-เล่อ พัฒนา" เปิดตัวโรงเรียน 3 ภาษา พัฒนาเด็กไทยสู่ยุคโลกาภิวัตน์

สำหรับโรงเรียนสามภาษาจื้อ-เล่อ ศิริเพ็ญ พัฒนา บนถนนรามคำแหง เป็นโรงเรียนแห่งแรกของโรงเรียนสามภาษาจื้อ-เล่อ พัฒนา ซึ่งปัจจุบันเปิดสอนหลักสูตรที่เน้นความเข้มข้นของภาษาอังกฤษ (Intensive English Program หรือ IEP) และจะเปลี่ยนเป็นหลักสูตรสามภาษาที่เน้นภาษาจีนและภาษาอังกฤษแบบเข้มข้น (Intensive Chinese-English Program หรือ ICEP) ในปีการศึกษา 2568 สำหรับเด็กอายุ 2–11 ปี และหลักสูตรภาษาไทย อังกฤษ และจีน จะเรียนภาษาไทย 49% ภาษาอังกฤษ 27% และภาษาไทย 24% 

ทั้งนี้ จะปลี่ยนเป็นภาษาไทย 40% ภาษาอังกฤษ 30% และภาษาจีน 30% ภายใน 2 ปี นอกจากนี้ หลักสูตรของโรงเรียนสามภาษาจื้อ-เล่อ พัฒนา ยังเน้นที่ 5 เสาหลัก ได้แก่ การพัฒนาแบบองค์รวม การคิดเชิงวิพากษ์ ศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งมุมมองระดับโลก

"จื้อ-เล่อ พัฒนา" เปิดตัวโรงเรียน 3 ภาษา พัฒนาเด็กไทยสู่ยุคโลกาภิวัตน์

“เราต้องการสูตรสามภาษาคุณภาพสูงที่มีราคาเอื้อมถึงและเข้าถึงได้ และโรงเรียนสามภาษาจื้อ-เล่อ พัฒนา ได้หนดค่าเล่าเรียนเริ่มต้นที่ประมาณ 5 หมื่นบาทต่อภาคการศึกษา หรือประมาณ 100,000 บาทต่อปี ส่วนโรงเรียนสามภาษาจื้อ-เล่อ ศิริเพ็ญ พัฒนา จะเป็นแคมปัสแห่งแรกของเรา และจะเริ่มรับสมัครนักเรียนในปีการศึกษา 2568 ตั้งแต่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 นี้เป็นต้นไป ตั้งเป้าไว้จะมี 5–7 แคมปัส ภายใน 10 ปีข้างหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้สามภาษาที่มีคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ตั้งแต่ระดับปฐมวัย”

ดร.สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า โรงเรียนสามภาษา จื้อ-เล่อ พัฒนา จะเป็นอีกหนึ่งวามก้าวหน้าของการศึกษาไทยจากอดีตที่เด็กไทยเคยพูดได้ 2 ภาษาคือไทยและอังกฤษ ปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการพยายามสนับสนุนการเรียนภาษาต่างประเทศเพิ่มอีก 1 ภาษา หาเด็กได้เริ่มเรียนตั้งแต่ปฐมวัย จะรับรู้และพัฒนาได้ดีกว่าวัยอื่น ทำให้พัฒนาทักษะ และสามารถคิดวิเคราะห์ได้อย่างมีหลักและเหตุผล โดยกระทรวงศึกษาธิการไม่สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ แต่สามารถสนุบสนุนศุกยภาพของแต่ละหน่วยงานได้ และทำให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาไทยได้ 

"จื้อ-เล่อ พัฒนา" เปิดตัวโรงเรียน 3 ภาษา พัฒนาเด็กไทยสู่ยุคโลกาภิวัตน์

"ในแต่ละปีเรามีเด็กไทยที่แข่งขีนและรับรางวัลมากมาย ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่น แต่การศึกษาไทยมีความเหลื่อมล้ำสูงมาก ซึ่งด้วยหลักคิดของโรงเรียนสามภาษา จื้อ-เล่อ พัฒนา เป็นโรงเรียน 3 ภาษาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ทั้งให้ความสำคัญกับ อังกฤษ จีน ที่ปัจจุบันภาษาเป็นได้มากกว่าการสื่อสาร ยังเห็นมีคุณค่าด้านวรรณกรรม เป็นจุดเริ่มต้น และจุดประกายให้เติบโต เพิ่มโอกาสให้เด็กไทย และจะสามารถนำพาการศึกษาไทยสู่ความสำเร็จได้"

ขณะที่ความสำคัญของการเรียนหลายภาษาในโลกยุคโลกาภิวัตน์ในปัจจุบัน การเรียนรู้สามภาษาตั้งแต่วัยเด็กจะช่วยเพิ่มพัฒนาการทางปัญญา และเตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับโอกาสในอนาคต การวิจัยระบุว่าเด็กที่เรียนหลายภาษาตั้งแต่อายุยังน้อยมีแนวโน้มที่จะมีทักษะการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และมีความจำที่ดีขึ้น กลยุทธ์สำคัญของกระทรวงศึกษาธิการคือ การให้การศึกษาที่มีคุณภาพแก่ทุกคน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 

"จื้อ-เล่อ พัฒนา" เปิดตัวโรงเรียน 3 ภาษา พัฒนาเด็กไทยสู่ยุคโลกาภิวัตน์

ด้าน นายบง ยิก จุย อุปทูตและรองหัวหน้าคณะผู้แทน สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือระหว่างไทยและมาเลเซีย ในเป้าหมายการค้าทวิภาคีถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570 ซึ่งคาดว่าจะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ดังนั้นการส่งเสริมแรงงานที่มีทักษะที่จำเป็นด้านทักษะภาษาจีนกลาง และการก่อตั้งโรงเรียนสามภาษา จื้อ-เล่อ พัฒนา จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและมีความสำคัญ 

เนื่องจากจะช่วยให้นักเรียนมีทักษะภาษาเป็นเครื่องมือสู่ความสำเร็จในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และระดับโลก รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับคนรุ่นต่อไป ในการรับมือกับความท้าทายในอนาคตด้วยการศึกษาตั้งแต่วัยเด็ก
 

"จื้อ-เล่อ พัฒนา" เปิดตัวโรงเรียน 3 ภาษา พัฒนาเด็กไทยสู่ยุคโลกาภิวัตน์
นายเจ้า เยี่ยนชิง ประธานและกรรมการ คณะกรรมาธิการเพื่อกระทรวงศึกษาธิการจีน ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การศึกษาภาษาจีนในประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมาก และด้วยการเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมครั้งที่ 5 ทำให้ความต้องการทักษะภาษาจีนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตอย่างรวดเร็ว 

ฉะนั้น การเพิ่มขึ้นของโรงเรียนสามภาษา สะท้อนถึงความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของสังคม และความร่วมมือระหว่างโรงเรียนสามภาษาจื้อ-เล่อ พัฒนา กับแพลตฟอร์มการศึกษาอย่าง MetaLingo ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการศึกษาหลายภาษาที่มีคุณภาพสูง ผ่านการแปลงสู่ดิจิทัลและความเป็นมาตรฐาน โดยความร่วมมือดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญในการบ่มเพาะบุคลากรที่มีความสามารถที่จำเป็นสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตของประเทศไทย