คนไทยรัดเข็มขัดช่วง "สงกรานต์" NIQ เผย 84% ตั้งใจใช้จ่ายเท่าเดิม/ลดลง

11 เม.ย. 2567 | 06:29 น.
อัปเดตล่าสุด :11 เม.ย. 2567 | 06:30 น.

ผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยช่วง "สงกรานต์" พบว่า แรงกดดันทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมือง ส่งผลให้คนไทย 84% ตั้งใจจะใช้จ่ายเท่าเดิมหรือลดการใช้จ่าย ในการเฉลิมฉลองช่วงวันหยุดและลดการสังสรรค์

ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเตรียมต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ปี พ.ศ. 2567 NIQ บริษัทวิจัยผู้บริโภคชั้นนำของโลกได้เผยถึงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคและแนวโน้มของตลาดในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทยที่ได้ถูกขยายระยะเวลาเพื่อการเฉลิมฉลองเพิ่มขึ้นถึง  21 วัน การวิเคราะห์เชิงลึกนี้ มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ

ข้อมูลจากรายงานได้นำเสนอข้อค้นพบของ NIQ เกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคในหมู่คนไทยในช่วงเทศกาลนี้ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงทัศนคติในการใช้จ่ายที่มีความระมัดระวังและเน้นไปที่คุณภาพมากขึ้น โดยเจาะลึกไปถึงแนวโน้มของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป พฤติกรรมการใช้จ่าย และโอกาสทางการตลาดที่สามารถเกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกจากการวิจัยด้านการตลาดล่าสุดของ NIQ

แนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภค

แม้จะต้องเจอกับปัญหาความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่ผู้บริโภคบางรายก็พร้อมที่จะยกระดับการเฉลิมฉลองด้วยการเลือกซื้อของและบริการระดับพรีเมียม ตั้งแต่วัตถุดิบคุณภาพดีที่นำมาทำอาหารที่บ้าน ไปจนถึงการเลือกรับประทานอาหารที่ร้านอาหารสุดหรูหรา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณ อย่างไรก็ตาม ทัศนคติเรื่องการใช้จ่ายที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจมีแนวโน้มไปทางด้านการลดงบประมาณมากขึ้น โดยคนส่วนใหญ่เลือกที่จะใช่จ่ายในงบที่คงที่ หรือลดรายจ่ายลงในช่วงวันหยุดเทศกาล

คนไทยรัดเข็มขัดช่วง "สงกรานต์" NIQ เผย 84% ตั้งใจใช้จ่ายเท่าเดิม/ลดลง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สงกรานต์เซ็นทรัลเวิลด์ 67 เช็คไลน์อัพศิลปิน ไฮไลต์สาดน้ำฉ่ำๆ12-21 เม.ย.นี้ https://www.thansettakij.com/lifestyle/travel-shopping/593174

ในปีผ่านๆมา ชาวไทยต้องเจอกับปัญหาจากแรงกดดันทางด้านเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมือง ผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่ (84%) ตั้งใจที่จะใช้จ่ายเท่าเดิม หรือลดการใช้จ่ายในการเฉลิมฉลองช่วงวันหยุดและลดการเฉลิมฉลองทางสังคม โดยมีเพียงผู้บริโภคชาวไทยเพียงกลุ่มเล็กที่วางแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายในการเฉลิมฉลองในปีนี้ .

ถึงแม้แนวโน้มโดยรวมจะแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะประหยัดการใช้จ่าย แต่ก็ยังมีกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการใช้งบประมาณในการซื้อของขวัญมูลค่าสูงและประสบการณ์ระดับพรีเมียม จากรายงานแสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจในการใช้งบประมาณที่โดดเด่น

  • ผู้บริโภคถึง 69% วางแผนใช้จ่ายกับวัตถุดิบระดับพรีเมียมและมีคุณภาพเพื่อการเฉลิมฉลองที่บ้าน
  • 59% วางแผนที่จะใช้จ่ายมากขึ้นในการรับประทานอาหารนอกบ้าน  
  • 39% วางแผนที่จะใช้จ่ายมากขึ้นในการรับประทานอาหารที่ร้านหรูระดับพรีเมียม

คนไทยรัดเข็มขัดช่วง "สงกรานต์" NIQ เผย 84% ตั้งใจใช้จ่ายเท่าเดิม/ลดลง

กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG) โดยเฉพาะอาหารสดเกรดพรีเมียม มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์ด้านการค้าขาย เนื่องจาก 74% ของผู้บริโภคพึงพอใจที่จะเลือกซื้อเนื้อสัตว์หรืออาหารทะเลคุณภาพดีเพื่อนำมาใช้ทำอาหารช่วงวันหยุดเทศกาล และในทางกลับกัน ก็ยังมีกลุ่มผู้บริโภคที่เลือกใช้มาตรการลดต้นทุน โดย 32% วางแผนที่จะใช้จ่ายน้อยลงโดยเลือกการเฉลิมฉลองที่ไม่ใช้งบประมาณสูง ซื้อสินค้าที่มีโปรโมชั่น และจัดทำของขวัญแบบโฮมเมดมากกว่า จากรายงานข้อมูลเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อการเลือกประสบการณ์ที่มีคุณภาพและมากกว่าวัตถุ

ในปัจจุบัน ผู้คนได้กลับมาเดินทางท่องเที่ยวกันมากขึ้นอีกครั้ง โดยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดด้านการเลือกรับประสบการณ์ที่มีคุณค่า มากกว่าการเลือกซื้อวัตถุสิ่งของ โดย 71% เชื่อว่าค่านิยมและการเลียงลำดับความสำคัญของตนได้เปลี่ยนแปลงไปในช่วงสองปีที่ผ่านมาหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในจำนวนนั้น 39% เห็นพ้องว่าพวกเขาได้ตระหนักว่า ประสบการณ์มีความสำคัญมากกว่าการครอบครองวัตถุสิ่งของ จึงทำให้ความต้องการในการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศมีเพิ่มมากขึ้น และช่วงเทศกาลสงกรานต์ถือเป็นช่วงที่มีการเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุดของคนไทย

การเลือกซื้อสินค้า Private Label และการตัดสินใจโดยคำนึงถึงงบประมาณ

ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในกลุ่มสินค้าแบรนด์ทั่วไปจากร้านค้าที่พัฒนาและจำหน่ายโดยใช้แบรนด์หรือยี่ห้อของตนเอง (Private Label) โดยยังคงรักษาสมดุลระหว่างคุณภาพกับต้นทุนไว้ จากการวิจัยของ NIQ แสดงให้เห็นว่า

35% ของผู้บริโภคมีความเห็นว่าสินค้า Private Label มักมีคุณภาพสูงกว่าหรือเท่ากันเมื่อเทียบกับสินค้าแบรนด์เนม แ21% กล่าวว่าพวกเขายินดีจ่ายเงินเท่ากันหรือมากกว่าเพื่อซื้อสินค้า Private Label

ทั้งนี้ นักการตลาดสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลนี้ได้ ด้วยการแสดงให้เห็นคุณค่าและคุณภาพของสินค้า Private Label ที่มีเมื่อเทียบกับสินค้าแบรนด์เนม และสามาถนำเสนอสินค้าตัวเลือกที่เป็นมิตรกับงบประมาณและยังมีคุณภาพดี

การคาดการณ์ในช่วงสงกรานต์ ปี 2567

ผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อการพบปะเจอกันและการอยู่กับคนที่เรารักมากกว่าการซื้อของขวัญ ซึ่งบ่งบอกให้เห็นถึงความพึงพอใจต่อประสบการณ์และเวลาที่มีคุณคุณค่ามากกว่าวัตถุ เทรนด์นี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างข้อเสนอที่เอื้อต่อประสบการณ์ที่น่าจดจำต่อผู้ที่เดินทางกลับบ้านเพื่อเยี่ยมครอบครัวหรือเพื่อนฝูงเพื่อเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลนี้

การปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มการใช้จ่ายช่วงวันหยุดยาว

ธุรกิจควรมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอคุณค่าและความสะดวกสบาย และใช้ประโยชน์จากสินค้า Private Label เพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การชี้เน้นให้เห็นถึงคุณภาพและคุณค่าของสินค้า Private Label และการทำให้ประสบการณ์การช้อปปิ้งสะดวกสบายและเป็นส่วนตัวมากขึ้น สามารถช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ปรับตัวเข้ากับแนวโน้มการใช้จ่ายช่วงวันหยุดเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ