อ้วยอันโอสถ ลุยตลาดยาดม 4,500 ล้าน จับนิวเจน-นักท่องเที่ยวจีน

01 เม.ย. 2567 | 14:20 น.

อ้วยอันโอสถชิมลางตลาดยาดม 4,500 ล้านบาท ปั้นแบรนด์ "ตรามังกรทอง" ดึง "นนกุล" นั่งพรีเซนเตอร์ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่-นักท่องเที่ยวจีน หวังดันยอดขายโต 15%

นางสาวนิชา สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด กล่าวว่า ตลาดสมุนไพรไทยมีมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ Euromonitor (บริษัทสำรวจข้อมูลทางการตลาดระดับโลก) เคยคาดการณ์ว่าปี 2569 ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศไทยจะมีมูล 5.95 หมื่นล้านบาท และตลาดยาดมปี 2565 มีมูลค่า 4,500 ล้านบาทต่อปี (ข้อมูลของกรมการแพทย์แผนไทยฯ)

บริษัทจึงขยายไลน์เข้าสู่ตลาดยาดมเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปี 2566 ที่ผ่านมา และล่าสุดได้เปิดตัวยาดมสมุนไพร “ตรามังกรทอง” โดยตั้งเป้าคว้าส่วนแบ่งการตลาด 10-20% ภายในปีนี้ ด้วยการสื่อสารแบรนด์รูปแบบใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ และรุกฐานลูกค้าต่างชาติ เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทย และกลุ่มผู้ซื้อของฝาก ด้วยกลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย

อ้วยอันโอสถ ลุยตลาดยาดม 4,500 ล้าน จับนิวเจน-นักท่องเที่ยวจีน

  • การใช้พรีเซนเตอร์: นักแสดงหนุ่ม “นนกุล-ชานน สันตินธรกุล” เพื่อปรับภาพลักษณ์ที่สดใสและทันสมัย นนกุลมีภาพลักษณ์ที่สดใส ร่าเริง และทันสมัย อีกทั้งนักแสดงที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นที่รักของแฟนคลับ ซึ่งจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับอ้วยอันโอสถ รวมถึงมีความโด่งดังทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศจีน มีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่น ซึ่งจะช่วยดึงดูดความสนใจจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ และนักท่องเที่ยว 
  • ใช้มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง: ผ่านเพลง “ไอจัสวอนนาแฮฟอ้วยอันได้บ่” ดัดแปลงจากเพลงฮิตของ “สิงโต นำโชค” เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ด้วยการใช้เพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน เข้าถึงง่าย ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างการจดจำแบรนด์ให้มีความทันสมัย
  • เพิ่มช่องทางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์: ขยายสินค้าไปยังร้านค้าออนไลน์ชั้นนำ เช่น Shopee และ Lazada เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล ที่นิยมซื้อของออนไลน์
  • บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสมุนไพร: จ้างแพทย์แผนไทย มาให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสมุนไพร ผ่านช่องทางไลน์ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้า ในการเลือกใช้สินค้าสมุนไพร เพิ่มความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับสรรพคุณของสมุนไพร

นางสาวนิชา กล่าวว่า ข้อมูลประชากรคาดว่าคนไทยกว่า 10% ใช้ยาดมและส่วนใหญ่มีไว้มากกว่า 1 ชิ้น เพราะยาดมเป็นของที่หายบ่อย คิดคร่าวๆ ว่าคนไทยมียาดมคนละอย่างน้อย 2 ชิ้น นอกจากนี้ช่วงอายุในการใช้ยาดมมีการเปลี่ยนจากเดิมอายุ 45 ปีขึ้นไปแต่ปัจจุบันเริ่มต้นที่ 25 ปี

อ้วยอันโอสถ ลุยตลาดยาดม 4,500 ล้าน จับนิวเจน-นักท่องเที่ยวจีน

ทำให้ตลาดยาดมมีขนาดใหญ่ ซึ่งยาดมไม่ใช่แค่ของใช้ในไทย แต่ยาดมกลายเป็นของฝากยอดนิยม โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ช่วยให้ตลาดยาดมไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ปีนี้ อ้วยอันโอสถ ตั้งเป้ากับยาดมทำยอดขายเติบโต 15% ปัจจุบันอ้วยอันโอสถมีสัดส่วนจากร้านขายยา 60% โมเดิร์นเทรด 30% และช่องทางออนไลน์ประมาณ 10% โดยลูกค้าในกรุงเทพฯ 45% และต่างจังหวัด 55% ปัจจุบันอ้วยอันโอสถส่งออกสินค้าไปที่ประเทศลาว เป็นยาน้ำเขากุย ส่วนออสเตรียและสาธารณรัฐเช็ก จะเป็นยาแคปซูลขมิ้นชัน-ฟ้าทะลายโจร 

สำหรับปัจจัยที่จะทำให้ตลาดยาดมกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง มาจากการที่ ลิซ่า BLACKPINK และ แจ็คสัน หวัง ศิลปินระดับโลก 2 คน หยิบยาดมแบบกระปุกขึ้นมาใช้ จนกลายเป็นปรากฏการณ์โด่งดังไปทั่วโลกศิลปินทั้งสองเปรียบเสมือนตัวแทนของวัฒนธรรมไทย

การที่ทั้งคู่ใช้ยาดม สร้างความสนใจให้กับผู้คนทั่วโลก อยากลองใช้ยาดมตาม ส่งผลให้เกิดกระแสความนิยมในยาดมไทย นอกจจากนี้ ทำให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการไทย ตลาดยาดมมีขยายตัว ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ สนใจซื้อยาดมมากขึ้น และสามารถสร้างโอกาสต่อยอดธุรกิจ เกิดธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาดม เช่น ธุรกิจสปา ธุรกิจผลิตภัณฑ์สมุนไพร

นายชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด กล่าวว่า เราเป็นแบรนด์ที่มีอายุ 77 ปี เราเติบโตจากร้านขายยาเล็กๆ เชิงสะพานพุทธจน ณ ปัจจุบัน อ้วยอันโอสถ ได้พัฒนาเป็นโรงงานผลิตยาสมุนไพรที่ผลิตและจัดจำหน่าย ตามร้านขายยากว่าหมื่นแห่ง และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ 

อ้วยอันโอสถ ลุยตลาดยาดม 4,500 ล้าน จับนิวเจน-นักท่องเที่ยวจีน

เราปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้เหมาะกับยุคสมัยอยู่ตลอด ทั้งการปรับแพ็กเกจ พัฒนาสูตรยาเพื่อให้สามารถใช้ได้กับคนหลายช่วงวัย เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ โจทย์สำคัญของเราคือ ทำแบรนด์อย่างไรให้กลุ่มคนรุ่นใหม่กล้าที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ของเราอย่างมั่นใจ และย้อนกลับมาใช้สินค้าอย่างต่อเนื่อง