นายวิคเตอร์ จาง ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท หางโจว อีซี่วิซ เน็ตเวิร์ค จำกัด กล่าวว่า อีซี่วิซ มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อสร้างชีวิตที่ปลอดภัยสะดวกสบาย สำหรับผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์อัจฉริยะและเทคโนโลยี AI ที่จะช่วยดูแลสมาชิกทุกคนในครอบครัวให้ปลอดภัย
ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์เลี้ยง เพราะเราตระหนักและให้ความสำคัญกับทุกชีวิต และสัตว์เลี้ยงถือเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวที่ควรได้รับการดูแล ปกป้องความปลอดภัยเฉกเช่นสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว เราจึงไม่หยุดนิ่ง พัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ผ่านเทคโนโลยี AI เพื่อช่วยตรวจจับดูแลสัตว์เลี้ยงได้อย่างเฉพาะเจาะจง
กับฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ Pet Lover โดยเฉพาะ อาทิ กล้องสมาร์ทโฮม Wi-Fi รุ่น H6 ที่มีฟีเจอร์ตรวจจับรูปร่างมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ให้ภาพสีเวลากลางคืนด้วยเลนส์สตาร์ไลท์ พร้อมความละเอียดสูงถึง 3K เพื่อมองเห็นสัตว์เลี้ยงตลอดเวลา รู้ทุกโมเม้นต์ที่น้องหมา น้องแมวเคลื่อนไหว
นอกจากนี้ยังการพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มสมาร์ทโฮมอย่างหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่ช่วยผู้ใช้งานประหยัดเวลาในการทำความสะอาดแล้ว ยังออกแบบด้วยเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนที่ไม่ทำให้สัตว์เลี้ยงตกใจ แถมยังสามารถตรวจจับฝุ่นละออง ขนสัตว์ และโหมดจำกัดแบคทีเรีย ที่ช่วยให้สมาชิกในบ้านทุกวัย ไม่ว่าจะคนแก่ เด็กเล็ก หรือสัตว์เลี้ยง ได้อยู่ในบ้านที่สะอาด ปลอดเชื้อโรค อย่างหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่น RE5 Plus”
เพื่อตอบโจทย์วิสัยทัศน์แบรนด์ปีนี้อีซี่วิซ ได้เปิดตัวโครงการเพื่อสังคมอย่าง “Do Big Thing” เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ที่ดีต่อทั้งคน และสัตว์เลี้ยง โดยได้จับมือร่วมกับ Pet Influencer ชื่อดัง อย่างบิ๊กมู่ทู่ (Big MooToo) ในการร่วมผลิตกระเป๋าผ้ารุ่นพิเศษ “EZVIZ x Big MooToo”
สำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์อีซี่วิซรุ่นที่ร่วมรายการได้แก่ H6, C6, H8c, H8 Pro และ RH2 ผ่านช่องทางร้านค้า EZVIZ OFFICIAL บน shopee และ TIKTOK แถมฟรีกระเป๋า Exclusive edition “EZVIZ x Big MooToo หรือสามารถสนับสนุนกิจกรรมด้วยการซื้อกระเป๋า EZVIZ x Big MooToo ผ่านช่องทาง Line my shop Big MooToo
รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดผ่านการจำหน่ายทุกช่องทาง จะนำไปร่วมสมทบทุนบริจาคให้มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (Soi Dog) โดยสินค้าจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ 15 มี.ค. ถึง 15 เม.ย. 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด และจะรวบรวมรายได้ทั้งหมด พร้อมอีซี่วิซร่วมสมทบทุนมูลค่า 100,000 บาท ไปมอบให้กับมูลนิธิฯ หลังจบกิจกรรม