กรุงทองพลาซา ตั้งเป้าฮับเอเชียแฟชั่นพลัสไซซ์

นางสาวอัญชลี ตันติวงษากิจ กรรมการผู้จัดการ ห้างกรุงทองพลาซา กล่าวว่า ในปี 2567 ห้างกรุงทองพลาซาจะมุ่งเน้นการพัฒนากลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา โดยมีเป้าหมายการเป็น Top of Mind ของสาวพลัสไซซ์ทั่วเอเชีย ซึ่งมีผลต่อยอดขายและอัตราการเช่าพื้นที่ พร้อมเดินหน้าวางกลยุทธ์สร้างประสบการณ์ใหม่ผ่านแคมเปญการตลาด รวมถึงการสร้างคอนเทนต์ออฟไลน์และออนไลน์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทำให้เกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อ สามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ยังจัดแคมเปญการตลาดตลอดทั้งปีเนื่องในโอกาสครบรอบ 23 ปี ด้วยการจัดกิจกรรม “กรุงทองพลาซา 23 Anniversary แจกรถฟรี มีแต่ให้” ตลอดจนส่งเสริมการขายในกิจกรรมอื่นๆ อาทิ กิจกรรมการประกวดออกแบบเสื้อผ้า “Krungthong Plussize Fashion Revolution” เปิดเวทีแสดงศักยภาพของนักออกแบบไทย เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเสื้อผ้าแฟชั่นไทยไปตลาดโลก และจะปรับสัดส่วนลูกค้าต่างชาติให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น โดยมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มมุสลิมและโซนยุโรป เพราะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเติบโตและมีกำลังซื้อมาก ซึ่งจะช่วยให้ทราฟฟิคทางห้างฯ จากรายได้ปีที่ผ่านมา 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นได้อีก 30% คาดว่าในปี 2567 จะมีรายได้เพิ่มเป็น 500 ล้านบาท 

อีกหนึ่งกลยุทธ์คือการทำ Content Marketing ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เน้นพัฒนาคุณภาพและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์จากโลกออนไลน์-ออฟไลน์ จากผู้ใช้บริการจริง หรือจากการรีวิวของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์และเครื่องมือจัดการ Data จากหลายแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, TikTok และ YouTube เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการทำคอนเทนต์ให้เป็นที่พูดถึงในกลุ่มเป้าหมาย และส่งผลต่อการดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Generation Y และ Z ที่เติบโตมาพร้อมกับยุคดิจิทัล 

ส่วนกลยุทธ์ทางการตลาดคือสร้างความแตกต่างเพื่อนำเสนอสินค้าสู่ผู้บริโภค สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ สร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นในตัวสินค้า ให้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงโปรโมชั่นส่งเสริมการขายให้มีความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น โดยยังคงมีส่วนร่วมกับลูกค้ารายเดิม ทำให้ฐานลูกค้าเดิมมีความจงรักภักดีในแบรนด์สูงมาก ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนไทยยังคงสัดส่วนกว่า 70% ลูกค้าต่างชาติประมาณ 30% จากประเทศในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ภาพรวมลูกค้าเพศหญิงยังถือว่ามากที่สุด รองลงมาจะเป็น LGBTQ และผู้ชาย สำหรับการจับจ่ายแต่ละครั้งของลูกค้าปลีกประมาณ 2,000 – 3,000 บาทต่อครั้ง และลูกค้าส่งประมาณ 10,000 บาทต่อครั้ง 

สำหรับภาพรวมธุรกิจของห้างกรุงทองพลาซาในปี 2566 ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ถูกเช่าพื้นที่เต็ม 100% ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2567 นับเป็นสัญญาณการเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้น พร้อมมีลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติแวะเวียนเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 50% ในวันธรรมดาเฉลี่ย 10,000 คน/วัน ส่วนช่วงวันหยุดอาจจะสูงถึง 20,000 คน/วัน 

ปัจจุบันร้านค้าในห้างกรุงทองพลาซามีเสื้อผ้าตั้งแต่ไซซ์ XS-6XL ซึ่งในอนาคตก็จะพัฒนาปรับเพิ่มไซซ์ให้ถึง 8XL โดยแบ่งเป็นสินค้าพลัสไซซ์มากกว่า 70% ที่เหลือจะเป็นเสื้อผ้าไซซ์เล็ก นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์การแต่งตัวต่างๆ เช่น เข็มขัด รองเท้า วิกผม และกระเป๋า รวมไปถึงเครื่องประดับ เป็นต้น กลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่ยังเป็นสินค้าแฟชั่นของสาวพลัสไซซ์ อันดับแรกเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นในแนวมินิมอล ถัดมาเป็นแฟชั่นชุดทำงาน และออกงานต่างๆ ตามลำดับ โดยมีช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์ควบคู่กันไปกับแบบออฟไลน์ และเน้นการไลฟ์สดขายเองตามแพลทฟอร์มต่างๆ โดยเฉพาะการขายสินค้าให้ต่างชาติและ หรือลูกค้าที่ซื้อสินค้ามาทำการไลฟ์ขายสินค้าหน้าร้าน ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น

แนวโน้มของการขายในปัจจุบัน มุ่งเน้นไปยังการไลฟ์สดขายเองตามแพลทฟอร์มต่างๆ หรือการให้ต่างชาติ หรือลูกค้าที่ซื้อสินค้ามาทำการไลฟ์ขายสินค้าหน้าร้าน ที่เป็นอีกแนวทางหนึ่งซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนของออฟไลน์ก็ยังคงซัพพอร์ตลูกค้าที่สะดวกในการเลือกสี เลือกสินค้าด้วยตัวเอง ได้จับสินค้าจริง รวมไปถึงการขายส่ง ที่ต้องมีพื้นที่ในการจัดทำสต็อก เพื่ออำนวยความสะดวกในการมารับสินค้าได้ง่ายและสร้างความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

"ต้องยอมรับว่าสังคมเปิดกว้างและยอมรับความแตกต่างเรื่องของ Beauty Standard มากขึ้นกว่านยุคก่อน ปัจจุบันโลกของแฟชั่นสาวพลัสไซซ์ได้เติบโตขึ้นมาก กล้าที่จะแต่งตัวมากขึ้น มีแฟชั่นที่หลากหลายรูปแบบ และสินค้าของห้างกรุงทองพลาซามีหลากหลายไซซ์ สามารถซื้อได้ในราคาย่อมเยาและมีคุณภาพดี โดยมองว่าตลาดสาวพลัสไซซ์ยังมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต จากวันแรกจนถึงปัจจุบันตลอดการเดินทางกว่า 23 ปีในประเทศไทย ห้างกรุงทองพลาซายังคงมุ่งมั่นและผลักดันจุดยืน ให้ทุกคนสามารถแสดงความเป็นตัวของตัวเองได้ อย่างไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดไซซ์ พร้อมยกระดับห้างกรุงทองพลาซาให้เป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจแฟชั่นเสื้อผ้าพลัสไซซ์ของภูมิภาคเอเชีย”