“BRI” ขนทัพสินค้า 3 แบรนด์บุกไทย รับส่งออกปศุสัตว์โตแรง

23 ต.ค. 2566 | 09:11 น.

“BRI” ขนทัพสินค้าบุกตลาดไทย 3 แบรนด์รวด หวังรองรับอุตสาหกรรมปศุสัตว์โตแรง หลังพบตัวเลขส่งออกพุ่งแตะ 3 แสนล้าน

Mr. Flemming Mahs, President Animal Health & Nutrition บริษัท BIORESOURCE INTERNATIONAL, INC. (BRI) กล่าวว่า คาดการณ์ว่าปี 2566 ตลาดส่งออกสินค้าปศุสัตว์จะส่งออกประมาณ 3 แสนล้านบาท ส่งผลให้ฟาร์มปศุสัตว์มีโอกาสเติบโตและสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกมาก ซึ่งเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการปศุสัตว์ของไทยได้ขยายโอกาสทั้งในประเทศและตลาดโลก ปัจจุบันไทยส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อไก่เป็นอันดับ 4 ของโลก ขณะที่ส่งออกอันดับหนึ่งของโลกยังคงเป็นของบราซิล”

ดังนั้นเพื่อรองรับโอกาสของการเลี้ยงสัตว์เพื่อบริโภคที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปีนี้ BRI ได้นำผลิตภัณฑ์เข้ามาจำหน่ายในไทย 3 แบรนด์ โดยแบรนด์เรือธงสำคัญ คือ เอ็นซาโปร (Enzapro) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกฤทธิ์เสริมกัน หรือ Zymbiotic ซึ่งประกอบด้วย Enzyme Prebiotic และ Probiotic

“BRI” ขนทัพสินค้า 3 แบรนด์บุกไทย รับส่งออกปศุสัตว์โตแรง

อย่างไรก็ดีสายพันธุ์ไก่มีการพัฒนาทุกปีให้มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาน้อยลง ปัจจุบันเราสามารถเลี้ยงไก่ให้มีน้ำหนัก 2.2 - 2.4 กิโลกรัมภายในเวลาไม่ถึง 40 วัน และการยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) และยาปฏิชีวนะที่มีผลกระตุ้นการเจริญเติบโต (Antibiotic Growth Promotor - AGP) ที่ยังคงมีการใช้กันแพร่หลายในเอเชีย ส่งผลทำให้เกิดการดื้อยาในคน

มีรายงานจากโรงพยาบาลศิริราช พบการเสียชีวิตจากผู้ป่วยที่มียีนส์ดื้อยากว่าสามหมื่นคนต่อปี ส่งผลทำให้ผู้บริโภคตื่นตัวและเรียกร้องให้ผู้ผลิตเนื้อหมูหรือไก่ให้ลดหรือยกเลิกการใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยง ปัจจุบันทางยุโรปมีการเลิกใช้ยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์มานานกว่าสิบปีแล้ว ดังนั้น การใช้สารเสริมที่มาจากธรรมชาติจึงเป็นที่ยอมรับและเป็นทางเลือกสำหรับผู้ผลิตเนื้อสัตว์

การเลี้ยงไก่แบบอุตสาหกรรม ในหนึ่งเล้าจะเลี้ยงประมาณ 2 หมื่นตัว หากมีการบริหารจัดการที่ไม่ดีพอ ทำให้มีโอกาสเกิดปัญหาและโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคทางเดินอาหารที่มาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อี โคไล (E. Coli) ซัลโมเนลลา (Salmonella spp) คลอสทริเดียม (Clostridium) ได้

ซึ่งแบคทีเรียก่อโรคเหล่านี้ทำให้เกิดความเสียหายในเรื่องประสิทธิภาพการเลี้ยง เสี่ยงต่อการปนเปื้อนในเนื้อสัตว์และส่งผลต่อความเจ็บป่วยของผู้บริโภค ซึ่งประเทศที่ผลิตเนื้อไก่เพื่อการส่งออก จะต้องมีการตรวจการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้อซัลโมเนลลา และต้องปลอดการปนเปื้อนจึงจะสามารถส่งออกได้

ด้านแผนการทำตลาดของ เอ็นซาโปร ในประเทศไทย คือ การสร้างความเข้าใจในเรื่องการลด/หยุดใช้ยาปฏิชีวนะ การเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยง การลดต้นทุนการผลิต รวมถึงการทำวิจัยร่วมกับผู้ผลิต เพื่อหาวิธีการใหม่ ๆ ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างผลกำไรให้ฟาร์มอย่างยั่งยืน

“BRI” ขนทัพสินค้า 3 แบรนด์บุกไทย รับส่งออกปศุสัตว์โตแรง

“ประเทศไทยเป็นตลาดที่น่าสนใจ คนไทยทำปศุสัตว์จำนวนมากและไทยมีความสามารถที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารของโลก ทำให้เนื้อไก่ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสด เนื้อแปรรูป เนื้อแช่แข็ง ฯลฯ เป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้เชื่อมั่นว่าการบุกตลาดไทยครั้งนี้ของ BRI จะสามารถสร้างความยั่งยืนในแง่ของความปลอดภัยในด้านอาหารและสามารถเติบโตไปกับคู่ค้าได้”

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเลือกใช้สารเสริมว่า ปัจจุบันสารเสริมทั่วโลกมีอยู่หลายร้อยชนิด ในประเทศไทยเองมีสารเสริมจำหน่ายอยู่กว่า 300 ชนิด ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องรู้และเข้าใจก่อนว่าสารเสริมแต่ละชนิดทำงานอย่างไร ส่งผลต่อการเลี้ยงและการเจริญเติบโตของสัตว์อย่างไร และควรเลือกซื้อจากบริษัทที่ให้คำแนะนำ เช่น สารเสริมต้องใช้กับสัตว์อายุเท่าไหร่ ต้องใช้ร่วมกับอะไร ที่สำคัญต้องมี KPI ในการวัดประสิทธิภาพ รวมถึงต้องมีงานวิจัยหรือการใช้งานจริงด้วย