“ล็อกซเล่ย์” ลุยธุรกิจเทรดดิ้ง ลดเสี่ยง “งานโครงการ”

12 ก.ค. 2566 | 11:30 น.

“ล็อกซเล่ย์” ปรับโหมดธุรกิจ ลดเสี่ยงจากงานโครงการ หันโฟกัสธุรกิจเทรดดิ้ง พร้อมต่อยอดสู่การร่วมทุน ดันรายได้ทะลุ 4,831 ล้านบาท ล่าสุดส่ง “วาคิว ยากินิคุ” ปักหมุดเอเชียทีคฯ จับกลุ่มนักชิม นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก

นายสุรช ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารายได้หลักของล็อกซเล่ย์มาจากงานโครงการ ซึ่งมีความไม่แน่นอน เพราะมีความเสี่ยงอันเนื่องจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ บริษัทจึงมีนโยบายสร้างความมั่นคงในเรื่องรายได้ และการสร้างความสมดุลของพอร์ทธุรกิจ

โดยพยายามเพิ่มสัดส่วนของรายได้ประจำให้มากขึ้น ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สายธุรกิจเทรดดิ้งมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยพบว่า ปี 2656 ธุรกิจเทรดดิ้งมีรายได้ 4,831 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 38% ของรายได้รวม 13,220 ล้านบาท สืบเนื่องจากการขยายธุรกิจเดิมที่มีอยู่ และสร้างธุรกิจใหม่ที่ส่งเสริมหรือเกื้อหนุนธุรกิจหลักที่ทำอยู่

“ล็อกซเล่ย์”  ลุยธุรกิจเทรดดิ้ง ลดเสี่ยง “งานโครงการ”

“ตั้งแต่ปี 2560 ล็อกซเล่ย์ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจจากผู้ประกอบธุรกิจที่มีความหลากหลาย พยายามตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกเรื่อง มาเป็นการให้ความสำคัญใน 5 กลุ่มธุรกิจหลักที่มีความชำนาญ ได้แก่ ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ, ธุรกิจพลังงาน, ธุรกิจเน็ตเวิร์คโซลูชั่นส์, ซึ่งเหล่านี้ดำเนินงานธุรกิจในลักษณะงานโครงการเป็นหลัก และอีก 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจบริการ และธุรกิจเทรดดิ้ง ที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring) ซึ่งหลังจากที่บริษัทหันมาโฟกัสธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ พบว่าได้รับการตอบรับที่ดี มีรายได้เติบโตแบบก้าวกระโดด”

โดยในสายธุรกิจเทรดดิ้ง มีบริษัทหลักที่สำคัญ คือ บริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด ดำเนินธุรกิจหลักเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยพยายามสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการปรับบทบาทจากการเป็นตัวแทนจำหน่าย สู่การเป็นผู้ร่วมลงทุน นอกจากนี้ยังมีอีก 2 บริษัทคือ บริษัท แอล ฟู้ดโซลูชันส์ จำกัด ให้บริการด้านร้านอาหาร และบริษัท สยามสมุทรวาริน จำกัด ดำเนินธุรกิจนำเข้าวัตถุดิบอาหารเพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่ม HoReCa (โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง)

ล่าสุดบริษัท แอล ฟู้ดโซลูชันส์ฯ ผู้ให้บริการร้านอาหารไทยฟิวชั่นส์ แบรนด์ “ตำรับกูร์” จำหน่ายเฉพาะออนไลน์ และร้านวาคิว ยากินิคุ (WaQ Yakiniku) บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยม ซึ่งเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 11 ปี นับตั้งแต่ปี 2555 ล่าสุดเปิดให้บริการสาขาใหม่ที่ศูนย์การค้าเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ (Asiatique The Riverfront)

“ล็อกซเล่ย์”  ลุยธุรกิจเทรดดิ้ง ลดเสี่ยง “งานโครงการ”

เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบเมนูบุฟเฟต์ปิ้งย่างในย่านเจริญกรุงและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เริ่มกลับมา หลังจากสถานการณ์โควิดที่ค่อนข้างผ่อนคลาย จากปัจจุบันที่มีอยู่ 3 สาขาได้แก่ 1.สาขาเอสพลานาด รัชดา 2.สาขาดิ เอ็กซ์เพลส กาญจนาภิเษก และ 3.สาขาเดอะ การ์เด้น คลองเตย

“ร้านวาคิว ยากินิคุ สาขาเอเชียทีค ตั้งอยู่บริเวณข้างหอนาฬิกา หน้าโกดัง3 ตกแต่งในสไตล์โคซี่ คุมโทนด้วยสีแนวเอิร์ทโทน ดูอบอุ่นสบายตา เข้ากันกับดีไซน์ร้านที่แฝงความโมเดิร์นไม่ตกยุค สามารถรองรับสาวกปิ้งย่างได้สูงสุดถึง 80 ที่นั่ง พร้อมเสิร์ฟให้ทุกคนได้อิ่มเอมไปกับวัตถุดิบคุณภาพ อาทิ เนื้อวากิวออสเตรเลีย เนื้อแกะ เนื้อลาย สันคอ ริบอาย คารูบิ โจคารูบิ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักเนื้อ สามารถลิ้มลองแบบไม่อั้นในราคาที่คุ้มค่า โดยร้านเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา”

“ล็อกซเล่ย์”  ลุยธุรกิจเทรดดิ้ง ลดเสี่ยง “งานโครงการ”

ปัจจุบัน “ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง” เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับแบรนด์ชั้นนำ อาทิ ผลิตภัณฑ์ซอสและเครื่องปรุงรส “ลีกุมกี่” จากประเทศจีน ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก “จอร์แดน” แบรนด์ใหญ่จากนอร์เวย์ และล่าสุดยังเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าปรุงรสและน้ำจิ้มเนื้อวัว (ดีวัว) ตราหม่ำแซ่บ ด้วย

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,904 วันที่ 13 - 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2566