เรื่อง (ไม่ลับ) ของ “สตาร์บัคส์” ที่คุณอาจไม่รู้

23 มิ.ย. 2566 | 08:25 น.

ตลอดระยะเวลา 25 ปีในประเทศไทย ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่คุณ อาจไม่รู้เกี่ยวกับ “สตาร์บัคส์” ร้านกาแฟแก้วโปรดของใครหลายคน

ใครๆก็รู้จัก “สตาร์บัคส์”  เข้าร้าน “สตาร์บัคส์”  ดื่มกาแฟ “สตาร์บัคส์” นั่งเล่นเน็ตใน “สตาร์บัคส์” และ 90% ของคนที่เข้า “สตาร์บัคส์” นอกจากสั่งเครื่องดื่ม ยังต้องถ่ายรูป

ตลอดระยะเวลา 25 ปีในประเทศไทย ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่คุณ อาจไม่รู้เกี่ยวกับ “สตาร์บัคส์” ที่เราขอรวบรวมมาไว้ที่นี่

ชื่อ “Starbucks” นี้มีที่มาจาก...

นวนิยายเรื่องโมบิดิก (Moby-Dick) หนังสือเล่มโปรดของผู้ก่อตั้งสตาร์บัคส์ทั้ง 3 คน คือ เจอร์รี บัลด์วิน (Jerry Baldwin), เซฟ ซีเกิล (Zev Siegl) และ กอร์ดอน โบว์เกอร์ (Gordon Bowker) ในปี พ.ศ. 2530 ฮาวเวิร์ด ชูลท์ซ (Howard Schultz) อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของสตาร์บัคส์ผู้หลงใหลในวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ ได้เข้ามาซื้อสตาร์บัคส์และตั้งชื่อว่า ‘Starbucks Coffee Company’ 

สตาร์บัคส์สาขาแรกในไทยอยู่ที่...

เซ็นทรัลชิดลม กรุงเทพมหานคร (ปัจจุบันสาขานี้ได้ปิดบริการแล้ว) โดยเปิดให้บริการเดือนกรกฏาคม 2541

สตาร์บัคส์มีบริการสั่งโดยไม่ต้องลงจากรถด้วยนะ...

ปัจจุบันสตาร์บัคส์ มีสาขาทั้งหมด 464 สาขา โดยเป็นร้านที่สามารถขับรถเข้าไปสั่งเครื่องดื่มได้โดยไม่ต้องลงจากรถ หรือไดรฟ์-ทรู (Drive-thru) จำนวนทั้งหมด 57 สาขา

เรื่อง (ไม่ลับ) ของ “สตาร์บัคส์” ที่คุณอาจไม่รู้

สตาร์บัคส์ สาขาที่ใหญ่ที่สุด รับลูกค้าได้ 350 ที่นั่งอยู่ที่...

ร้านสตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ เจ้าพระยา ริเวอร์ฟร้อนท์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม ถือเป็นร้านสตาร์บัคส์ สาขาที่ใหญ่ที่สุด มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 1,260 ตารางเมตร  รองรับลูกค้าได้ 350 ที่นั่ง  แบ่งเป็นส่วน Indoor และ Outdoor พร้อมมอบประสบการณ์รูปแบบใหม่ คือ เป็นสาขาแรกที่เสิร์ฟเครื่องดื่มจากช็อตกาแฟสตาร์บัคส์ ม่วนใจ๋ เบลนด์ ซึ่งปลูกในพื้นที่ภาคเหนือของไทย และมี บาร์ ทีวาน่า (Teavana™ Bar) แห่งแรกของไทย สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหาประสบการณ์การดื่มชาในคอนเซ็ปต์ใหม่

ทำไม “ผ้ากันเปื้อน” มีสีเขียวและสีดำ ความหมายต่างกันคือ...

ผ้ากันเปื้อนสีเขียว สำหรับพาร์ทเนอร์ทั่วไป ที่ผ่านการอบรมบาริสต้าตามหลักสูตรของร้านสตาร์บัคส์

ผ้ากันเปื้อนสีดำ สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ได้ผ่านการอบรมตามหลักสูตรของร้านสตาร์บัคส์ และมีการสอบวัดระดับในแต่ละขั้น เพื่อเป็นคอฟฟี่มาสเตอร์ (Coffee Master) หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟของสตาร์บัคส์

 

11 เครื่องดื่มสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะประเทศไทย ที่ไม่ควรพลาดคือ ...

เพราะเข้าใจว่าลูกค้าในแต่ละประเทศอาจมีความชื่นชอบต่างกันออกไป สตาร์บัคส์จึงตั้งใจรังสรรค์เมนูพิเศษขึ้นสำหรับแต่ละประเทศ เพื่อให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด สำหรับเครื่องดื่มพิเศษที่จำหน่ายเฉพาะในไทยมีทั้งสิ้น 11 เมนู อาทิเช่น Matcha White Chocolate Affogato Frappuccino®, Green Tea Chocolate Malt Cold Brew, Matcha Java Chip Affogato, Homsuwan Pineapple Cold Brew, Homsuwan Pineapple Hibiscus Tea, Homsuwan Pineapple Black Tea, Yuzu Cold Brew, Yuzu Hibiscus Tea, Yuzu Black Tea, Signature Chocolate Cream Chip Frappuccino®, Lychee Earl Grey Tea*

*เมนูนี้มีจำหน่ายเฉพาะที่สาขา Starbucks Reserve® Chao Phraya Riverfront at Icon Siam

เรื่อง (ไม่ลับ) ของ “สตาร์บัคส์” ที่คุณอาจไม่รู้

อยากได้ของฟรีที่ “สตาร์บัคส์” หยิบไปได้เลย คือ ...

สตาร์บัคส์ มีของให้ลูกค้าสามารถหยิบฟรีได้ คือ “กากกาแฟ” นั่นเอง  สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้ สามารถรับกากกาแฟจากตะกร้าที่จุดบริการภายในสาขาได้ฟรี หรือสอบถามกับพนักงานของร้าน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้โลกของเรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม #GroundsForYourGarden ที่สตาร์บัคส์สนับสนุนตลอดมา

ทำไมเครื่องดื่มของสตาร์บัคส์ถึงไม่เป็น S, M และ L …

เพราะหลงใหลในวัฒนธรรมการดื่มกาแฟแบบอิตาลีของคุณฮาวเวิร์ด ชูลท์ซ (Howard Schultz) จึงใช้ภาษาอิตาเลียนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของสตาร์บัคส์ และในช่วงปลายปียุค 1990 คอกาแฟทั้งหลายเรียกร้องให้สตาร์บัคส์เพิ่มขนาดแก้ว เลยมีเครื่องดื่มขนาด Venti ขึ้นมา ปัจจุบันแก้วเครื่องดื่มในร้านสตาร์บัคส์จึงมี 4 ขนาดหลัก ได้แก่ Short ขนาด 8 ออนซ์ เฉพาะเครื่องดื่มร้อน Tall ขนาด 12 ออนซ์, Grande ขนาด 16 ออนซ์ และ Venti ขนาด 20 ออนซ์

ทำไมพนักงานของ “สตาร์บัคส์” ถึงจำชื่อของลูกค้าได้แม่นยำ

นอกจากจะมุ่งมั่นรังสรรค์เครื่องดื่มทุกแก้วให้สมบูรณ์ อีกสิ่งสำคัญคือการผูกสัมพันธ์กับลูกค้า เพราะเราเชื่อว่าแม้ช่วงเวลาสั้นๆ ก็สามารถสร้างรอยยิ้ม ให้ลูกค้าได้ ตามแนวคิด “People Business Serving Coffee” ที่เน้นการส่งมอบ “Starbucks Experience” หรือ “ประสบการณ์สตาร์บัคส์” รวมถึงความเป็น Third Place หรือบ้านหลังที่ 3 ซึ่งลูกค้าสามารถมาใช้เวลาพักผ่อน สังสรรค์ หรือทำงานได้อย่างเต็มที่

เรื่อง (ไม่ลับ) ของ “สตาร์บัคส์” ที่คุณอาจไม่รู้

หากแพ้หรือเบื่อนมวัว “สตาร์บัคส์” มีนมทางเลือกเหมือนกันนะ...

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนมทางเลือก “สตาร์บัคส์” มีทั้งนมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง นมข้าวโอ๊ต นมมะพร้าว รวมถึงวิปครีมข้าว (Rice whipped cream) โดยมีตัวอย่างเครื่องดื่มที่น่าลิ้มลอง เช่น กรีนที ซอย จาวาชิป แฟรบปูชิโน่ วิธ ไรซ์วิปครีม (Green Tea Soy Java Chip Frappuccino® with Rice Whipped Cream) และ ไอซ์ โอ๊ตมิลค์ ซิกเนเจอร์ ช็อกโกแลต วิธ ไรซ์วิปครีม (Iced Oatmilk Signature Chocolate with Rice Whipped Cream)

บ่ายย่ำค่ำแล้ว ขอเมนูเครื่องดื่มที่ไม่ใช่กาแฟที่ “สตาร์บัคส์” ก็มีนะ ...

นอกจากกาแฟที่ “สตาร์บัคส์” มีเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย อาทิ สตาร์บัคส์ รีเฟรชเชอร์ (Starbucks Refreshers™) ซึ่งเป็นเครื่องดื่มเชคจากการผสมผสานอย่างลงตัวของน้ำผลไม้และเนื้อผลไม้ ประกอบด้วย สตรอเบอร์รี่ อาซาอิ วิธ เลมอนเนด สตาร์บัคส์ รีเฟรชเชอร์ (Strawberry Açaí with Lemonade Starbucks Refreshers™) และ พิงค์ ดริงค์ วิธ สตรอเบอร์รี่ อาซาอิ สตาร์บัคส์ รีเฟรชเชอร์ (Pink Drink with Strawberry Açaí Starbucks Refreshers™) ที่ผสมผสานนมมะพร้าว เติมความสดชื่นดับกระหายได้เป็นอย่างดี

เรื่อง (ไม่ลับ) ของ “สตาร์บัคส์” ที่คุณอาจไม่รู้

ไม่พกเงินสดก็ดื่มด่ำ “กาแฟสตาร์บัคส์” ได้นะ...  

เพราะร้านสตาร์บัคส์ มีสาขา Starbucks Cashless Store ที่เพิ่มความสะดวกสบาย ให้ทุกคนเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มและขนมอร่อยๆ รวมถึงช้อปสินค้าสตาร์บัคส์แบบไม่ต้องพกเงินสด โดยเลือกชำระเงินผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่

1. จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน Starbucks Thailand

2. จ่ายผ่านบัตร Starbucks Card

3. จ่ายผ่านบัตรเครดิตและเดบิต

4. จ่ายผ่าน QR code

นอกจากเครื่องดื่ม “สตาร์บัคส์” มีเสิร์ฟ Soup & Pasta ด้วยนะ...  

เพราะหากอยากเติมพลังระหว่างวัน สตาร์บัคส์บางสาขาก็มีซุปและพาสต้าให้เลือกอร่อยถึง 4 เมนู ได้แก่ 1. Creamy Mushroom Soup 2. Corn Soup 3. Fusilli Bolognese 4. Penne Arrabiata With Smoked Sausage

ร้าน Starbucks Reserve™  ไม่เหมือนกับร้านสตาร์บัคส์ ทั่วไปนะ...

ร้าน Starbucks Reserve™ คือร้านที่มีกาแฟหายากเฉพาะฤดูกาล รสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยวางจำหน่ายเพียงบางสาขาในระยะเวลาจำกัด เมล็ดกาแฟบางชนิดอาจวางจำหน่ายเพียงครั้งเดียว และไม่มีจำหน่ายอีกเลย โดยในปัจจุบันมีร้าน Starbucks Reserve™ จำนวน 22 สาขา*

* มี 13 สาขาที่เป็น Full Experience Bar

อยากเป็นบาริสต้า  “สตาร์บัคส์” ช่วยได้...

ที่ร้านสตาร์บัคส์ พร้อมจัดเวิร์คชอปสนุกๆ เรียนรู้เทคนิคการชงกาแฟด้วยเครื่องชงหลายประเภท สอนโดย Coffee Master ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟสามารถ สอบถามและเข้าร่วมเวิร์คชอปได้ที่ร้านสตาร์บัคส์ 2 สาขา ได้แก่ Central World ชั้น 5 (Atrium Zone) และ Starbucks ReserveTM Chao Phraya Riverfront ICONSIAM ชั้น 7

ขนมและอาหารของ “สตาร์บัคส์” ถูกแบ่งปันให้กับชุมชน ...

สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (Scholars of Sustenance – SOS) ดำเนินการ ‘โครงการรักษ์อาหาร’ ส่งมอบอาหารส่วนเกินคุณภาพดีให้ผู้ที่ต้องการอย่างเป็นระบบ โดยทาง SOS จะตรวจสอบความสะอาด และความปลอดภัยทางอาหารก่อนนำไปแจกจ่ายให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สถานพักพิง ชุมชนรายได้ต่ำ รวมถึงกลุ่มเปราะบางอื่นๆ ในสังคม

ดื่มกาแฟ “สตาร์บัคส์” ช่วยชุมชนชาวไร่กาแฟ...

สตาร์บัคส์ ม่วนใจ๋ เบลนด์ เป็นการผสมผสานเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้าชั้นดีปลูกในพื้นที่ภาคเหนือของไทย และหมู่เกาะอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก ให้รสชาติหนักแน่น นุ่มลึก และกลิ่นไอดินธรรมชาติ ทั้งยังผ่านการรับซื้อในราคายุติธรรม รายได้ 5 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้จากการจำหน่ายกาแฟม่วนใจ๋ เบลนด์ และทุกๆ 10 บาท จากการจำหน่ายกาแฟ สตาร์บัคส์ ที่สตาร์บัคส์สาขาร้านกาแฟเพื่อชุมชน (Community Store)  จะนำไปพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทยให้ดีขึ้น

โต๊ะใน “สตาร์บัคส์” อาจทำมาจากกากกาแฟ...

สตาร์บัคส์จับมือกับ ผศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต อาจารย์ นักออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อมชื่อดัง สร้าง “ร้านกาแฟสีเขียว” และยังมี Sonite Innovative Surfaces มาร่วมพัฒนากากกาแฟเหลือใช้ให้เป็นวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายใน ออกมาเป็น วัสดุจากกากกาแฟที่เรียกว่า Java Core ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ ไว้สำหรับทำเคาน์เตอร์ ไปจนถึงโต๊ะกลาง และบาร์สำหรับวางเครื่องปรุง

เรื่อง (ไม่ลับ) ของ “สตาร์บัคส์” ที่คุณอาจไม่รู้

ร้านสตาร์บัคส์ เพื่อชุมชน ก็มีนะอยู่ที่...

ร้านสตาร์บัคส์สาขาหลังสวน คือร้านกาแฟเพื่อชุมชน (Community Store) แห่งแรกในเอเชีย และเปิดดำเนินการเป็นแห่งที่ 4 ของโลก โดยดำเนินการภายใต้คำมั่นสัญญาของสตาร์บัคส์ที่ต้องการตอบแทนชุมชน ผ่านการมอบรายได้ 10 บาท จากการจำหน่ายเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ทุกแก้ว ให้แก่ชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทย

อยากเป็นคนพิเศษของ “สตาร์บัคส์” ต้องทำแบบนี้ ...

สตาร์บัคส์ เปิดให้สมัคร เพื่อรับสิทธิพิเศษเมื่อมาใช้บริการที่สตาร์บัคส์ เพียงดาวโหลดแอปพลิเคชัน Starbucks Thailand (รองรับทั้งระบบ iOS และ Android) หรือผ่านบัญชี LINE OA ของทางสตาร์บัคส์ก็ได้เช่นกัน เมื่อเป็นสมาชิกแล้ว ทุกการใช้จ่ายจะสามารถสะสมดาวเพื่อแลกรับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ (25 บาท = 1 ดวง) 

เมื่อสมาชิก Starbucks® Reward ระดับ Green สะดาวครบ 300 ดวงภายใน 1 ปี จะได้ปรับระดับเป็น Gold ซึ่งสมาชิกระดับ Gold จะได้สิทธิพิเศษ รับเครื่องดื่มและขนมฟรีในเดือนเกิด รวมถึงนำดาวที่สะสมทุกๆ 120 ดวง มาแลกรับเครื่องดื่มทุกขนาดได้ฟรีด้วย