พัทยาฟู้ด วาดแผนโกยหมื่นล้านใน 3 ปี บาลานซ์ส่งออก-ขายในประเทศ

นายวิชัย กรณปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้กำลังซื้อผู้บริโภคในเขตกรุงเทพฯเริ่มฟื้น ส่วนกำลังซื้อในต่างจังหวัดอาจจะลดลงจากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และภาวะเงินเฟ้อต่างๆ ที่มีผลกับกำลังซื้อภาคประชาชน และคาดว่าจะกลับมาดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังจากการเติบโตของภาคท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตามในภาคอุตสาหกรรมในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่าภาวะต้นทุนของวัตถุดิบ ต้นทุนค่าแรงและต้นทุนการผลิตทั้งหมดปรับตัวสูงขึ้นยกแผงเป็นตัวเลขกว่า 2 หลัก ขณะที่สินค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นสินค้าควบคุมทำให้บริษัทไม่สามารถปรับขึ้นราคาสินค้าได้ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าต้นทุนยูนิตต่ำสุดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักแต่อย่างไรก็ดีภาพรวมอุตสาหกรรมยังอยู่ในสภาวะที่แข่งขันได้

สำหรับกลุ่มพัทยาฟู้ด ได้รับผลกระทบทางด้านวัตถุดิบโดยเฉพาะทูน่าตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ประกอบกับตลาดชะลอตัว บริษัทจึงหันมาโฟกัสการสร้างแบรนด์ใหม่ในประเทศให้มากขึ้นและบาลานซ์พอร์ตในการส่งออกและขายในประเทศ รวมทั้งสร้างโอกาสในตลาดใหม่ๆที่เป็นทูน่าและนอน-ทูน่า ส่งผลให้ใน 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทเปิดตัวแบรนด์ใหม่เพิ่มอย่างมาก เช่น อาหารพร้อมทานม่อนชะเมา เพื่อขยายไปสู่ธุรกิจต้นน้ำ ซึ่งในอนาคตอาจมีโอกาสในต่างประเทศร่วมกับคู่ค้าที่มี

แบรนด์ต่อมาคือ นอติลุสเอ็กซ์เท็น โดยมีสินค้าตัวแรกที่ออกสู่ตลาดคือคือมัลติเกรนโอ๊ตมีล และล่าสุดขนมขบเคี้ยว แบรนด์ไททันซึ่งเป็นหนึ่งใน product ESG นอกจากนี้ยังขยายธุรกิจไปยังตลาดอาหารสัตว์โดยมีแบรนด์รีกาลอส เป็นแบรนด์นำร่อง และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้เปิดตัว “เรมี่” แบรนด์สินค้า wellness pet food ซึ่งร่วมทุนกับโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ

ด้านแผนการลงทุนปีนี้ บริษัทจะใช้งบลงทุนราว 500 ล้านบาท สำหรับสร้างแบรนด์อะแวร์เนส พร้อมปรับไลน์การผลิตทั้ง human food และ pet food รวมทั้งโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ทั้งในเมืองไทยและเวียดนาม นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ใหม่ๆ ปัจจุบันเปิดตัวไปแล้ว 4-5 แบรนด์และงานไทยเฟ็กซ์ที่จะถึงนี้

จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ 4-5 รายการทั้งในส่วนของอาหารคนและอาหารสัตว์ เพราะเราให้ความสำคัญต่อการเพิ่มจำนวนแบรนด์ให้มากขึ้นเพราะแบรนด์ทำให้เรายั่งยืนและสามารถบริหารจัดการได้ดีกว่าไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะมียอดขาย 1 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปี ถ้าสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดโลกกลับมาดี การบริโภคก็จะเติบโตตามสภาวะ

สำหรับผลประกอบการในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขาย 8,800 ล้านบาท เติบโต 7% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขาย 8,200 ล้านบาท เติบโต 11% โดยปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากการส่งออกประมาณ 6,800 ล้านบาทหรือ 75%  แต่ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ตลาดส่งออกไม่มีการเติบโต ส่วนอีก 25% เป็นรายได้ในประเทศ ซึ่งในไตรมาสแรก สามารถทำผลงานได้ราว 90% ของเป้าหมายที่วางไว้ โดยมาจากช่องทางผ่านโมเดิร์นเทรดที่เติบโตขึ้นจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ทั้งนี้พอร์ตสินค้าของพัทยาฟู้ด แบ่งออกเป็น สินค้ากลุ่มอาหารคน คิดเป็นสัดส่วน 75% และอาหารสัตว์ 25%

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,885 วันที่ 7 - 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2566